BY Aisoon Srikum
16 Mar 20 4:16 pm

Review : Call of Duty : Warzone ความแปลกใหม่ของโหมดเกม Battle Royale

317 Views

เปิดตัวมาสักพักแล้วกับ Call of Duty : Warzone ซึ่งเป็นโหมดเล่นฟรีของ Call of Duty : Modern Warfare ที่เพิ่มโหมดการเล่นแบบ Battle Royale เข้ามา และทันทีที่มันเปิดตัว มันก็สามารถทำยอดผู้เล่นได้มากกว่า 6 ล้านคนในวันเดียว แต่สำหรับแฟนเกม Call of Duty แล้ว โหมดนี้สร้างความแตกต่างอย่างไร และสำหรับแฟนเกม Battle Royale มันมีค่าพอที่จะทำให้คุณสละพื้นที่สัก 80GB เพื่อโหลดมาเล่นหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ขอเชิญพบกับ Review : Call of Duty Warzone ครับ

รูปแบบเกมเพลย์ที่แตกต่าง

สิ่งที่ทำให้เกมเพลย์ของ Warzone แตกต่างจากเกม Battle Royale ทั่วไป ก็คงต้องชื่นชมไอเดียของทีมผู้พัฒนา จุดเด่นของมัน นอกจากจะเป็น Gunplay สุดดุเดือดที่ดึงจากภาคหลักมาใช้ ยังใส่ระบบหลายอย่างลงไปที่ทำให้เกมการเล่นสนุกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำ Objective, การมีหน่วยเงินเพื่อเอาไว้ซื้อของสนับสนุนตัวเอง หรือเอาไว้ชุบชีวิตเพื่อนที่ตายไปแล้วให้กลับมาได้ และจากนี้เราจะมาอธิบายให้เห็นภาพกันเป็นข้อ ๆ กันไป

Gameplay

เมื่อเราเริ่มต้นเกมและโดดลงพื้น ปกติแล้วเกมอื่นจะไม่มีอาวุธอะไรติดตัวให้เราเลย แต่เกมนี้จะมอบปืนพกให้คุณ 1 กระบอกเอาไว้ป้องกันตัว เวลาลูทของแล้วเกลือจริง ๆ อย่างน้อยก็ยังพอมีโอกาสรอดหรือโต้ตอบได้บ้าง

ส่วนอาวุธต่าง ๆ จะสามารถเปิดหาได้จากกล่องไอเทมในเกม หรือตกอยู่กับพื้นทั่วไป ซึ่งระบบกล่องแบบนี้ มันจะคล้ายกับเกม Fortnite คือเมื่อผู้เล่นเข้าใกล้กล่องไอเทมจะมีเสียงเพื่อบอกว่ามีกล่อง และเราต้องวิ่งหาว่าอยู่ตรงไหน ในกล่องก็จะมีไอเทมตั้งแต่ปืนระดับต่ำไปจนถึงระดับสูงเลยก็มี พร้อมกับไอเทมจำพวกเกราะ กระสุน ระเบิด และเงินด้วย สุ่มว่าได้มากหรือน้อยเช่นกัน

เกมนี้จะสะดวกสบายตรงที่ปืนที่เราเก็บมาไม่ต้องแต่งหรือหาอุปกรณ์ใด ๆ เพิ่มเติมเลย ตัดปัญหาเรื่องได้ปืนแล้วต้องมานั่งหาของแต่ง สะดวกสบายไปอีกแบบ สิ่งที่ต้องหาคือกระสุน หรือเปลี่ยนไปเป็นปืนที่เราชอบเท่านั้น ส่วนระบบการยิงก็จะเหมือนกับ Call of Duty : Modern Warfare 2019 ดังนั้นใครที่ย้ายมาจากเกม Battle Royale เกมอื่น อาจจะต้องปรับตัวกันสักหน่อย เพราะเกมนี้ตัวละครของคุณคือทหารที่ไม่ได้มีพลังพิเศษใด ๆ แต่ก็ยังมีความสามารถในการวิ่ง สไลด์ กระโดด ปีนป่ายได้อยู่เหมือนคนทั่วไปทำได้เช่นกัน

และที่เด็ดเลยโหมด Battle Royale ของเกมนี้จะยังคงมีระบบ Regeneration Health เอาไว้ ถ้าผู้เล่นถูกยิงและยังไม่ตาย วิ่งหนีสักพัก หาที่หลบก่อน พลังชีวิตก็จะฟื้นฟูกลับมาจนเต็มเอง แต่สิ่งที่เราต้องคอยเติมแทนคือเกราะกันกระสุนหรือที่ในเกมเรียกว่า Armor Plate ที่เราสามารถใส่ได้สูงสุด 3 ชิ้น และพกติดตัวไว้ได้มากสุด 5 ชิ้นด้วยกัน เมื่อเราโดนยิง จะไปหักลบค่าเกราะนี้ก่อน ค่อยมาลบพลังชีวิตเรา ถือเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ ทำให้เราไม่ต้องวิ่งหาไอเทมฟื้นพลัง และเจ้าไอเทมอย่าง Armor Plate นี้ก็หาได้ง่ายมากซะด้วย มีแทบจะทุกกล่องไอเทม และหาซื้อได้ที่ Buy Station อีกต่างหาก

นอกจากนั้นยังมีไอเทมที่ชื่อว่า Self-Revive Kit ที่เอาไว้ชุบชีวิตตัวเองจากสถานะน็อคดาวน์ได้อีกด้วย จะได้ไม่เป็นภาระเพื่อน (ถ้าไม่โดนศัตรูยิงซ้ำจนตาย) ทำให้ตัวเกมมีทางเลือกในการเล่นให้กับเราอย่างมากมาย

แน่นอนว่าเป็นเกม Battle Royale ก็ต้องมีระบบ Danger Zone หรือวงบีบ ที่จะหดเล็กลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป สำหรับใน Warzone นั้นจะเป็นแก๊สพิษ แต่ก็เป็นอีกระบบที่ทาง Warzone ทำให้แตกต่างจากเกมอื่น ในเกมอื่นนั้น ยิ่งวงเวฟหลัง ๆ จะแรงขึ้น จนเราฝืนวิ่งต่อไปแทบไม่ได้ และตายคาวง แต่กับเกมนี้เราจะมีไอเทมเสริมที่ชื่อว่า Gas Mask หรือหน้ากากกันแก๊สพิษ ที่ทำให้เราทนแก๊สพิษได้นานยิ่งขึ้น โดยนอกจากมันจะหาซื้อได้ที่ Buy Station แล้ว มันยังเปิดหาได้จากกล่องไอเทมทั่วไปอีกด้วย

Gulag ศึก 1vs1 ใครชนะ ได้เกิดใหม่ !

ฟีเจอร์มันส์ ๆ ของ Warzone คือ เมื่อเราถูกยิงจนน็อคดาวน์และโดนซ้ำจนตายแล้ว ตัวละครเราจะยังไม่ตายในทันที แต่จะโดนลากคอไปที่คุก Gulag ซึ่งในคุกนี้ ผู้เล่นจะต้องทำการดวลฝีมือกับผู้ที่ตายคนอื่นเป็นแบบ 1vs1 โดยจะสุ่มอาวุธปืนมาให้เราใช้ ทั้งสองฝั่ง เราและศัตรูจะได้ปืนประเภทเดียวกัน และยิงอีกฝ่ายให้ตาย ใครชนะจะได้สิทธิ์ออกไปเกิดใหม่ ในจุดที่เพื่อนร่วมทีมอยู่อีกครั้ง

ระบบนี้ถือเป็นไอเดียที่แปลกใหม่มาก และยังเป็นการวัดฝีมือของเราไปในตัว แม้จะเป็นการวัดแบบ 1vs1 ก็ตาม ผู้เล่นหลายคนว่ากันว่า การดวลแพ้ในคุก Gulag แห่งนี้ มันเจ็บใจซะยิ่งกว่าการโดนสไนเปอร์สอยในแผนที่กว้างใหญ่ซะอีก

และถ้าหากว่าคุณดวลแพ้ในคุกล่ะ ก็อย่าเพิ่งรีบออก เพราะคุณยังมีโอกาสอยู่อีกนั่นคือ..

ระบบ Buy Station ใช้เงินเป็นตัวช่วย

ในเกมนี้ เมื่อเราเปิดกล่องไอเทม เรามีโอกาสจะได้เงิน ซึ่งเงินนี้สามารถนำไปซื้อของได้ที่ Buy Station (จะเป็นสัญลักษณ์รูปรถเข็นอยู่ในแผนที่) ซึ่งไอเทมที่เราซื้อใช้ได้ในนี้ก็มีตั้งแต่แพ็ค Armor Plate หรือเกราะกันกระสุนไปจนถึงสั่งเรียก Supply Drop มาหาเราได้เลย

ไอเทมใน Buy Station ที่น่าสนใจก็จะมี UAV ที่เมื่อซื้อแล้วกดใช้ จะสแกนหาศัตรูรอบ ๆ ได้ แต่ไม่ได้ระบุเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน มันจะระบุเป็นจุดสีแดงกะพริบ ๆ แทน ซึ่งระหว่างนี้เราสามารถเลือกได้ว่าจะหลีกเลี่ยงให้ไกล หรือวิ่งเข้าไปบู๊ก็ทำได้ วิเคราะห์เอาเองตามสถานการณ์ หรือแม้แต่การสั่งหน่วยบินโจมตีก็สามารถทำได้เช่นกัน ไอเทมพวกนี้ ซื้อมาแล้วยังไม่จำเป็นต้องรีบกดใช้ก็ได้ รอให้ถึงสถานการณ์ที่เหมาะสมก่อนแล้วค่อยกดใช้ก็ยังไม่สาย

ทีเด็ดใน Buy Station คือเราสามารถชุบชีวิตเพื่อนที่ตายไปแล้วให้กลับมาเล่นได้อีกครั้ง (กรณีที่เพื่อนคุณพลาดท่าตายใน Gulag ไปแล้ว) โดยการซื้อชีวิตเพื่อนที่ตายแล้วกลับมาก็ต้องใช้เงินในระดับนึง ดังนั้นในทีมควรจัดการเรื่องการเงินกันให้ดี ว่าจะซื้อไอเทมเพิ่มสมรรถภาพทีม หรือจะตุนเงินไว้ส่วนหนึ่ง รอชุบเพื่อน กรณีพลาดท่าตาย และไอเทมเงินนั้นก็สามารถคลิกขวาดรอปแบ่งให้กับเพื่อนในทีมได้อีกต่างหาก

และท้ายสุด ของแพงสุดใน Buy Station จะเป็นการสั่งเรียก Supply Drop มาส่งให้เราได้เลย โดยอาวุธใน Supply Drop นั้น จะเป็นอาวุธในช่อง Loadout ที่เราแต่งไว้ในตัวเกมหลัก ดังนั้นหากเป็นผู้เล่นฟรี ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสเกมหลัก ก็ไม่ต้องกดเรียกมาก็ได้ เพราะบางที ปืนในเกมโหมด Battle Royale ของมันเองอาจมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าอยู่แล้ว คนที่จะเรียก Supply Drop อาจเป็นผู้เล่นที่เก็บเลเวลปืนจากเกมหลักมาจนสูงแล้ว และปลดล็อคของแต่งปืนมาได้มากพอแล้ว

แน่นอนว่า พอตัวเกม มีการ Share Progression กันระหว่างเกมหลักและเกมฟรีอย่าง Warzone ข้อได้เปรียบของคนซื้อเกมก็จะมีแค่สามารถเสก Supply Drop ที่มีปืนเทพ ๆ ของตัวเองมาใช้ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการที่จะต้องวิ่งหาเงินก่อน ซึ่งอาจจะโดนผู้เล่นอื่นยิงร่วงไปก่อนก็เป็นได้เช่นกัน

ระบบ Objective ภารกิจย่อยระหว่างเกม สำหรับหาเงิน

สิ่งที่ Warzone เพิ่มเข้ามาเป็นรสชาติแปลกใหม่ของ Battle Royale ก็คือ ตัวเกมมี Mission ให้เราทำด้วย โดย Mission ภายในเกมหาได้จากการเก็บกล่อง Contract ซึ่งภารกิจแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไป มีทั้งการเปิดกล่องไอเทม ทั้งการยึดจุด และที่สนุกที่สุดคือภารกิจล่าค่าหัว

ภารกิจล่าค่าหัว จะเกิดขึ้นได้ทั้งเราเป็นเป้าหมาย หรือเราได้รับเป้าหมายให้ไปล่าคนอื่น ในกรณีที่เราได้รับภารกิจให้ล่าคนอื่น ตัวเกมจะระบุตำแหน่งคร่าว ๆ ไว้ในแผนที่เลยว่าเป้าหมายของเรากำลังอยู่ตรงไหนของแผนที่ แต่ฝั่งศัตรูก็จะรู้เช่นกันว่าตัวเองกำลังโดนหมายหัว ต่างฝ่ายต่างรู้ตัวว่ามีเป้าหมาย ดังนั้นความสนุกจึงบังเกิดขึ้น ทั้งต้องคอยรับมือกับผู้เล่นอื่นในโหมด Battle Royale อยู่แล้ว ยังต้องมารับมือกับคนที่จะมาล่าเราอีก ระบบ Mission Objective ของเกมนี้จึงถือว่าสนุกและเร้าใจ เพิ่มสีสันให้กับเกมเป็นอย่างมาก

ข้อเสียที่ตัวเกมควรปรับปรุง

สรรเสริญมาหลายหัวข้อ เกมก็มีข้อเสียกันบ้าง เริ่มจากระบบ Ping ที่หลังจาก Apex Legends ทำออกมาได้ดีชนิดที่เกมอื่นต้องขอเอาไปใส่ในเกมตัวเองบ้าง Call of Duty : Warzone เองก็มี แต่ระบบปิงมันยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมันยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก ดังนั้นการสื่อสารกับผู้เล่นอื่นในกรณีที่เราไปแบบ Solo ก็อาจจะยุ่งยากกว่าเล็กน้อย

ถัดมาที่ตัวเกมใช้พื้นที่ในการติดตั้งกว่า 85GB ถือว่าเยอะเอาเรื่องสำหรับคนที่ใช้ SSD รวมไปถึงตอนนี้ตัวเกมยังมีปัญหากับผู้เล่นบางกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นบัค อาการ Error, Crash ต่าง ๆ แบบไม่มีสาเหตุ ซึ่งก็เหมือนกับปัญหาเดียวกันกับตอนที่ Call of Duty : Modern Warfare วางจำหน่าย และคาดว่าตัวเกมจะได้รับการอัปเดตแก้ไขเร็ว ๆ นี้

อีกหนึ่งปัญหาคือตัวเกมจะใช้สเปคค่อนข้างสูง ถ้าเทียบกับเกม Battle Royale เล่นฟรีเกมเดียวกันในค่ายอื่น ด้วยแผนที่ขนาดใหญ่ เอฟเฟคท์ เสียงปืน และภูมิประเทศ ทำให้มันใช้ทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ใครที่คอมพิวเตอร์ไม่แรงก็อาจจะต้องปรับการตั้งค่า ลดความละเอียด ลดกราฟิกลงมาแทน เพื่อให้การเล่นลื่นไหล

Call of Duty : Warzone อาจไม่ใช่เกม Battle Royale สุดว้าว ที่ทุกคนห้ามพลาด แต่ในขณะที่เกม Battle Royale ไม่สามารถตีตลาด หรือทำให้ฮิตเท่ายุค 2-3 ปีก่อนได้ Call of Duty : Warzone ได้สร้างเกมนี้ขึ้นมา ใส่ระบบความเป็นตัวของตัวเองลงไป และใส่ระบบ Gunplay สุดมันส์มาไว้ สุดท้ายแล้ว หากคอมพิวเตอร์ใครสเปคถึง (หรือเล่นบนคอนโซล) และอยากสัมผัสประสบการณ์เกมแนว Battle Royale ที่มันส์มากแบบฟรี ๆ ก็ลองไปหาดาวน์โหลดมาเล่นกันได้แล้ววันนี้

Verdict 8.5 / 10

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top