BY Aisoon Srikum
22 Jan 20 7:48 pm

Review : Dragon Ball Z : Kakarot เกมดราก้อนบอล เพื่อแฟนพันธุ์แท้ดราก้อนบอลโดยเฉพาะ !

445 Views

สร้างความคาดหวังให้กับแฟน ๆ มามากพอสมควรนับตั้งแต่เปิดตัว และในที่สุดเกมก็วางจำหน่าย และมันจะสาสมใจแฟน ๆ Dragon Ball Z หรือไม่ วันนี้ขอเชิญพบกับบทความรีวิวจาก GamingDose กันได้เลยครับ

Story

ถ้าคุณเป็นแฟนดราก้อนบอลอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่ต้องพูดอะไรให้มันมากความเลยก็เป็นได้ เพราะเนื้อหาของเกมภาคนี้ล้วนหยิบเอาการ์ตูนชื่อดังอย่าง Dragon Ball Z มานำเสนอใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้มันจะมาในรูปแบบของเกม Action RPG แบบ Open World แทน แต่หากคุณไม่ใช่แฟนดราก้อนบอลมาก่อน เราจะอธิบายให้แบบรวบรัดตัดความ

ดราก้อนบอล คือการ์ตูนชื่อดังของโทริยามะ อากิระ เจ้าของเดียวกันกับ ดร.สลัมและหนูน้อยอาราเล่ (และสองเรื่องนี้เคยครอสโอเวอร์กันมาแล้ว) เรื่องราวของเด็กหนุ่ม ซุน โกคู และผองเพื่อน และไอเทมวิเศษที่เรียกว่า ดราก้อนบอล ที่ว่ากันว่าผู้รวบรวมจนครบ 7 ลูก จะสามารถอัญเชิญเทพเจ้ามังกรออกมาและขอพรให้ตัวเองสมปรารถนา ซึ่งเนื้อหาต่อจากนี้ถ้าเล่าจะยาวไป เอาเป็นว่าผู้เล่นลองไปหาการ์ตูนหรือลองเล่นเกมกันดูก็ได้

แต่สิ่งที่ทำให้ Dragon Ball Z : Kakarot โดดเด่นก็คือการเล่าเรื่องชนิดตรงตามหนังสือการ์ตูนแทบจะทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์กันเลยทีเดียว ตั้งแต่เหตุการณ์ชาวไซย่าบุกโลก โกฮังโดนจับตัวไปจนต้องไปช่วย ลากยาวไปจนถึงศึกจอมมารบู เคารพต้นฉบับกันแบบสุด ๆ นอกจากนั้นยังมีเนื้อเรื่องเสริมหรือ Backstory / Side Story ที่ต้นฉบับอย่างหนังสือการ์ตูนไม่ได้เล่าอีกต่างหาก ซึ่งรวม ๆ แล้วผู้เล่นอาจจะต้องถลุงเวลาไปกับมันมากกว่า 40-50 ชั่วโมงในการเล่นเพียงแค่เนื้อรเื่องหลัก และอาจเป็น 100 ชั่วโมงในการเก็บทุกอย่างที่มีอยู๋ภายในเกม

จะบอกว่าเกมนี้ถูกสร้างมาเติมเต็มเนื้อหาในจักรวาล Dragon Ball ก็คงไม่เกินเลยนัก เชื่อว่าแฟน ๆ Dragon Ball จะมีความสุขแทบจะทุกวินาทีในการเล่นเกมนี้อย่างแน่นอน

Presentation

แน่นอนว่าเกมดราก้อนบอล ฉากหลังย่อมต้องเป็นสถานที่สำคัญ ๆ ภายในเกมดราก้อนบอลที่เราจะคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นดาวนาเม็ก โลกมนุษย์ เมือง หรือแม้กระทั่ง Capsule Corp. สถานที่สำคัญของบลูม่าที่เหล่าตัวละครชาวโลกมารวมตัวกันบ่อยที่สุดแล้ว

ในเกมภาคนี้ โลกที่คุณจะได้โลดแล่นจะเป็นโลกกึ่ง ๆ Open World มันไม่ได้เป็น Open World จ๋า กว้างไกล แมปใหญ่เหมือนเกมอื่น ๆ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีแล้ว หากมองว่ามันเป็นเกมจากการ์ตูนที่ชื่อดราก้อนบอล ในส่วนของตัวเมืองก็เต็มไปด้วยสีสัน มีชีวิตชีวาตามแบบฉบับของดราก้อนบอล รวมไปถึงใต้น้ำก็ยังมีไอเทมให้เก็บ และสำรวจอีกด้วย ถึงแม้ว่าบางฉาก บางมุม จะเห็นได้ถึงความหยาบของพื้นผิว Texture แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเราคงมีความสุขกับงานอาร์ทและลายเส้นของ โทริยาม่า อากิระมากกว่า

และใครที่คิดว่าแผนที่จะกว้าง ก็คงต้องบอกเลยว่าคิดผิด มันไม่ได้กว้างใหญ่ขนาด GTA , The Witcher บนดาวโลกจะแบ่งแผนที่ออกเป็นส่วนต่าง ๆ เช่นบ้านผู้เฒ่าเต่า บ้านซุนโกคู ฯลฯ แต่แผนที่แต่ละส่วนก็จะมีพื้นที่ให้เราสำรวจ ฟาร์มเลเวลกับศัตรู หรือบินเก็บ Z-Orb และหาวัตถุดิบปรุงอาหาร หรือนำแร่ไปขาย เพื่อหาเงินและนำมาซื้อไอเทมติดตัว ลำพังแค่เนื้อเรื่องหลักของเกมก็กินเวลาไป 40 ชั่วโมงแล้ว (อิงจากบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา) ยิ่งมาเจอแผนที่และลูกเล่นต่าง ๆ ยิ่งทำให้เราเสียเวลาไปกับมันมากยิ่งขึ้นไปอีก

นอกจากนั้นระหว่งฟรีโรมหรือพักผ่อนจากเนื้อหาหลัก ที่เราสามารถบินสำรวจโลกของเกม ยังมีดนตรีของดราก้อนบอล ที่น่าจะถูกทำขึ้นมาใหม่เปิดคลอไปเบา ๆ ได้อารมณ์เหมือนเราผจญภัยอยูจริง ๆ ด้วยตัวเอง

ส่วนที่ต้องชมก็คือส่วนของคัทซีนที่เหมือนเราได้นั่งดูการ์ตูนอีกรอบ ในแบบฉบับที่เราเป็นคนเล่นเอง นอกจากภาพคัทซีนที่สวยสดขึ้นตามยุคสมัย การเล่าเรื่องก็ยังถูกทำให้กระชับ ไม่กินเวลาจนมากเกินไป แต่ก็ไม่ตัดทอนเนื้อหาสำคัญของการ์ตูนจนแฟน ๆ รู้สึกเซ็ง หรืออะไรบางอย่างขาดหายไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางช่วงคัทซีนก็ยาวเกินไปจริง ๆ ถ้าเป็นแฟนดราก้อนบอลที่อ่านการ์ตูนหรือดูมาก่อนแล้ว จะกดข้ามไปเลยก็ได้ แต่สำหรับใครที่เพิ่งกดมาเล่นครั้งแรก หรือเพิ่งรู้จักดราก้อนบอล ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

และหากใครที่ชื่นชอบเนื้อเรื่อง และอยากตามเก็บเนื้อหาภายในเกมทั้งหมด ภาคนี้เขามีระบบสารานุกรมเข้ามาให้ โดยในสารานุกรมนี้จะมีครบทุกอย่าง ตั้งแต่แผนผังความสัมพันธ์ตัวละคร ประวัติพื้นที่แต่ละส่วน ลากยาวไปจนถึงข้อมูลของศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมภาคนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ รับรองว่าอ่านกันสนุกสนานแน่นอน

อีกข้อนึงที่ชอบเป็นการส่วนตัว คือทุกครั้งที่เราจบเนื้อเรื่องย่อย และกำลังจะเข้าสู่ฉากใหม่ ตัวเกมตัดเข้าสู่ช่วงนำเสนอชื่อตอนของเหตุการณ์นั้น ๆ พร้อมกับเสียงพากย์ ราวกับเรากำลังนั่งดูการ์ตูนกันอยู่เลยทีเดียว แถมทุกครั้งเวลาจบเนื้อเรื่องใหญ่ ก็จะมีการฉายตัวอย่างเนื้อเรื่องถัดไปให้ดูนิดหน่อย ก่อนที่เราจะได้ไปเล่นเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่านี่มันเอาใจทั้งคอเกม และคอการ์ตูนกันแบบสุด ๆ

ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเกมนี้รองรับซับไตเติลภาษาไทยแบบเต็มรูปแบบ และที่สำคัญคือแปลออกมาได้ดีมาก น่าจะเป็นเกมแปลไทยที่ทำออกมาได้ดีที่สุดแล้ว แม้จะมีบางส่วนที่แปลแล้วผิดพลาดไปนิดหน่อย แต่สำหรับแฟน ๆ ดราก้อนบอลแล้วถือว่าผ่านฉลุย หลายคนมองว่าเป็นการนำเอาบทจากในหนังสือการ์ตูนมาใช้ เลยออกมาดี แต่หากเป็นภารกิจเสริมที่ไม่มีในเนื้อหาหลัก ย่อมต้องแปลและขัดเกลาใหม่ด้วย และเขาก็ทำออกมาได้ดีมากไม่แพ้ภารกิจหลัก ทั้งสรรพนาม คำพูดคำจา ชื่อท่าไม้ตาย และการอธิบายระบบของเกมในหน้าเมนูต่าง ๆ รวมไปถึงสำนวนที่น่าจะเป็นศัพท์เฉพาะของไทย ก็มีการแปลและเรียบเรียงออกมาได้ดี ดังนั้นใครที่เป็นห่วงคุณภาพซับไตเติลภาษาไทยเกมนี้ บอกเลยว่าหายห่วงครับ แปลดีตั้งแต่เนื้อเรื่องยันเมนูทุกหน้าในเกมเลยทีเดียว ติดนิดหน่อยตรงที่ฟอนต์ที่ใช้งานอาจจะไม่ค่อยสวย ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะแปลดีอยู่แล้ว

เป็นอีกข้อที่ไม่ผิดหวัง สำหรับแฟน ๆ Dragon Ball ที่จะได้โลดแล่นไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของตัวเกมได้อย่างอิสระ เพลงประกอบที่ทำออกมาได้ดีแทบจะทุกสถานการณ์ ถึงแม้จะเป็นการเอาเพลงเก่ามาแต่งเติมใหม่ก็ตาม

Gameplay

ในที่สุดเราก็ได้เล่นเกม Dragon Ball ที่ไม่ใช่เกม Fighting เสียที ในหัวข้อเกมเพลย์นี้จะยาวเป็นพิเศษ เพราะมีหลาอยย่างที่ทุกคนจะต้องรู้ และเชื่อว่าถ้าคุณอ่านจนจบ คุณอาจจะตัดสินใจได้เลยว่าจะซื้อมาเล่นดีหรือไม่

ข้อแรก กว่าคุณจะปลดล็อคคอนเทนต์ในเกมได้ทั้งหมดนั้น ก็ต้องเป็นช่วงหลังจบเหตุการณ์ภาคฟรีซเซอร์ ซึ่งตัวผู้เขียนใช้เวลาเล่นไปราว 18 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งเลข 18 ชั่วโมงนี้ ผู้เขียนได้ทำการแวะไปทำภารกิจเสริมมาประมาณ 3-4 ภารกิจเท่านั้น และถ้าหากกด Skip Cutscene หลาย ๆ ฉากรวมกัน ก็น่าจะลดเวลาลงไปได้ร่วมชั่วโมงอยู่เหมือนกัน

ก่อนอื่นเลยคือตัวเกมในภาคนี้ใส่ความเป็น RPG เข้ามา แต่มันก็ไม่ได้บังคับให้คุณต้อง Grinding หรือฟาร์มยับ ๆ ขนาดนั้นในช่วงแรก เพราะเนื้อเรื่องของเราจะให้รางวัลเป็น EXP ที่จะช่วยให้เลเวลของเราไม่ห่างกับศัตรูจากเนื้อเรื่องหลักมากเกินไปนัก (จากที่ลองเล่นมา บวกลบแล้วไม่ห่างเกิน 1-2 เลเวล) แต่ถ้าหากผู้เล่นไปฟาร์มเลเวลจากเหล่าศัตรูภายในแผนที่ก็ย่อมได้ แต่รางวัลที่ได้จะไม่ค่อยเป็นค่า EXP แต่จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า Z-Orb

Z-Orb ภายในเกมนี้สำคัญมาก เพราะมันใช้ในการอัพเกรดสกิลต่าง ๆ ของตัวละคร ซึ่งแต่ละสกิล แต่ละตัวละครก็ก็จะต้องการ Z-Orb ที่แตกต่างกันออกไป โดยหาได้จากการบินเก็บจากแผนที่โดยตรง และการต่อสู้กับเหล่าศัตรู ซึ่งจะได้มากกว่าเยอะ ใครที่ว่าง หรือบินไปบินมา ทำภารกิจ ก็ไปไล่เก็บเอาก็ได้ เพราะปกติ Z-Orb จะวางเป็นแนวเส้นตรง ทำให้เราบินเก็บได้อย่างง่ายดาย

ซึ่งเมื่อได้ Z-Orb มาอัพเกรดสกิลไปถึงส่วนหนึ่งแล้ว เราจำเป็นจะต้องใช้ไอเทมที่ชื่อว่า เหรียญ D ซึ่งหาได้จากการทำภารกิจเสริม หรือเก็บตามแมปต่าง ๆ เพื่อไปยังสนามฝึกจิต โดยในสนามฝึกจิตนี้เราจะต้องต่อสู้กับร่างเงาตัวเองให้ชนะ เพื่อปลดล็อคสกิลใหม่ หรือสกิลเก่าที่ถูกอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

แน่นอนว่าสกิลทั้งหลาย แฟน ๆ ดราก้อนบอลก็จะต้องแฮปปี้กันถ้วนหน้า เพราะท่าไม้ตายหลัก ๆ ของแต่ละครล้วนถูกนำมาใส่ไว้ในเกมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหมัดไคโอ หมัดเป่ายิงฉุบ บอลเก็งกิ หรือแม้แต่ตัวละครอื่น ๆ ก็มีท่าไม้ตายอันเป็นเอกลักษ์ของตัวเองครบเช่นกัน และเมื่อพูดถึงสกิลแล้ว เราก็ต้องพูดถึงระบบต่อสู้กันต่อ

บอกก่อนว่าผู้เขียนไม่เคยเล่นเกมดราก้อนบอลภาคเก่า ๆ ที่เป็นแนวไฟท์ติ้งเลย ไม่ว่าจะเป็น Xenoverse หรือ Fighter Z แต่ภาคนี้ทำระบบต่อสู้ออกมาได้รวดเร็ว รุนแรง สะใจแฟน ๆ ดราก้อนบอลแน่นอน และใครที่คิดว่าเกมนี้เป็ฯเกมต่อสู้ กดต่อยตี ปล่อยพลังมั่ว ๆ ก็ชนะได้ ก็ขอให้คิดเสียใหม่ ณ ตอนนี้

การต่อสู้ในเกมนี้ สิ่งสำคัญนอกจากพลังชีวิตที่ห้ามหมด (เพราะถ้าหมด ก็คือแพ้ Game Over) ก็คือพลัง Ki ที่เป็นหลอดสีฟ้าอยู่ใต้พลังชีวิตตัวละคร พลัง Ki จะใช้ในการปล่อยท่ายิงพลังต่าง ๆ รวมไปถึงใช้ในการบินด้วยความเร็วสูงเพื่อเข้าหาศัตรูอย่างรวดเร็ว ยิ่งสกิลโจมตีระดับสูง หรือเป็นท่าใหญ่ ยิ่งสิ้นเปลืองพลัง Ki มากขึ้น

ศัตรูภายในเกมนี้ บางทีก็มากัน 2-3 ตัวขึ้นไป และหากเป็นศัตรูระดับตามเนื้อเรื่องที่เข้าขั้นบอสแล้ว ทุกตัวจะมีท่าโจมตีเฉพาะที่เราจำเป็นจะต้องโดนซัดเข้าเต็ม ๆ สักดอกนึงก่อนที่จะรู้ว่ามันจะหลบ หรือหลีกเลี่ยงยังไง นอกจากนั้นท่าโจมตีประเภทการปล่อยพลัง ถ้าไม่คำนวณให้ดีก็จะสูญเสียพลัง Ki ไปเปล่า ๆ นอกจากนั้นศัตรูแต่ละตัว เมื่อเราโจมตีไปจนมันเสียพลังชีวิตไปมากพอ มันจะเริ่มมีท่าโจมตีพิเศษ ที่โดนทีก็เจ็บหนักมาก ดังนั้นต้องสังเกต และเล่นแบบระมัดระวังตลอดเวลา บอกเลยว่าแม้ตัวเกมอาจจะไม่ยากเท่าเกมตระกูลโซลหรือเกมยากแนวอื่น ๆ แต่นี่ไม่ใช่เกมดราก้อนบอลที่คุณจะแค่กดจอย รัวคีย์บอร์ด ต่อยเตะ ปล่อยพลังมั่ว ๆ แล้วจะผ่านไปได้ง่าย ๆ มันต้องมีการเรียนรู้รูปแบบการโจมตีพอสมควร แต่ย้ำนะครับ เกมมันไม่ได้ยากขนาดนั้น มันแค่ต้องมีทักษะนิดนึงตอนเล่น เล่นสบาย ๆ ไม่ได้ จะร่วงเอาง่าย ๆ เลย

แต่ในระหว่างการต่อสู้เราก็สามารถใช้ไอเทมพิเศษช่วยเหลือได้ ซึ่งส่วนมากแล้วจะเป็นยาฟื้นฟูพลัง บางฉากจะให้เรารัวต่อสู้กับศัตรูทีละ 2-3 ตัวหลายฉากติดต่อกัน แต่พลังชีวิตเราจะไม่รีเซ็ตให้ ดังนั้นพกยาเข้าไปเป็นอันดีที่สุด โดยเฉพาะไอเทมฟื้นพลังหลัง ๆ อย่างเช่นถั่วเซียนของเทพคารินนี่ถือเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว

แน่นอนว่าการเจอกับศัตรูเก่ง ๆ เราย่อมต้องมีการบัฟความสามารถกันนิดหน่อย นั่นคือการกินอาหาร เกมนี้จะเปิดโอกาสให้เราตกปลา หรือล่าสัตว์ เพื่อนำไปทำอาหารเองได้ โดยเราสามารถหาแคมป์ไฟที่อยู่ตามแมป หรือเอาไปให้พ่อครัว แม่ครัวในเมืองปรุงอาหารให้ก็ได้ การกินอาหารจะมีอยู๋สองอย่าง กินเพื่อบัฟชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มพลังโจมตี เพิ่มพลัง Ki หรือเพิ่มพลังชีวิตสูงสุด กับอีกประเภทนึงจะเป็นการกินแล้วได้ค่าสเตตัสเพิ่มแบบถาวร ซึ่งก็แล้วแต่คุณสมบัติของอาหาร แนะนำว่าก่อนไปสู้ศัตรูเนื้อเรื่อง จัดเต็มไปเลย จะได้เล่นง่ายขึ้นนิดนึง

มาต่อกันที่ระบบโซลเอมเบลมและคอมมูนิตี้บอร์ด ซึ่งเป็นระบบที่เอาไว้อัพเกรดสเตตัสพิเศษ โซลเอมเบลมหรือเหรียญตราตัวละครนั้นเราจะได้มาจากการทำภารกิจเนื้อเรื่อง และปลดล็อคตัวละครไปเรื่อย ๆ โซลเอมเบลมของแต่ละคนจะบวกความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านต่างกัน ดังนั้นก่อนติดตั้ง ให้ดูได้ดีก่อนว่าตัวละครนั้นเชี่ยวชาญด้านอะไร จะได้เพิ่มประสิทธิภาพสูงที่สุด

ในส่วนของคอมมูนิตี้บอร์ด หรือแผนผังความสัมพันธ์ตัวละคร ก็จะเชื่อมโยงกับระบบโซลเอมเบลม นั่นคือตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกัน เมื่อนำมาติดตั้งอยู่ในบอร์ดเดียวกัน จะทำให้เกิดโบนัสต่าง ๆ เช่น โกคู เบจิต้า พิคโกโร่ ก็จะมีโบนัสทีม ผู้ร้ายในวันนั้น เป็นมิตรในวันนี้ อะไรทำนองนั้น ถ้าเราจัดทีมให้ตรงก็จะได้รับโบนัสตรงส่วนนี้ไปเช่นกัน และเรายังสามารถมอบของขวัญต่าง ๆ ให้กับเหล่าตัวละครเพื่อเพิ่มค่าความสนิทสนม ที่เมื่อสะสมจนถึงจุดนึงแล้วจะได้รับไอเทมเพิ่มเติมอีกต่างหาก ซึ่งของขวัญต่าง ๆ ก็ได้จากการทำภารกิจเช่นกัน

แน่นอนว่าเกมดราก้อนบอล จะไม่พูดถึงระบบรวบรวมดราก้อนบอลเลยก็ดูจะแย่ไปเสียหน่อย ระบบการรวบรวมดราก้อนบอลในเกมภาคนี้ จะปลดล็อคก็ต่อเมื่อเราเล่นไปจนจบเนื้อเรื่องส่วนของภาคฟรีซเซอร์แล้ว ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร (อย่างที่บอก ผู้เขียนซัดไป 18 ชั่วโมงกว่าจะจบ) เมื่อเราปลดล็อคระบบนี้ เราจะสามารถค้นหาตำแหน่งของดราก้อนบอลในแผนที่ได้ จากนั้นก็ไปเก็บรวบรวมมาให้ครบ 7 ลูกเพื่อเชิญเทพเจ้ามังกรออกมา

พรที่เราสามารถขอได้จากเทพมังกรภายในเกม จะมีตั้งแต่การซัมมอนบอสเก่าที่เรากำจัดไปแล้วออกมาสู้ใหม่ เพื่อเป็นการฟาร์มเลเวล (การสู้กับบอสในเกมนี้ให้ EXP สูงมาก ๆ) หรือจะเป็นการขอให้ร่ำรวย ซึ่งเราจะได้เงินภายในเกม , ขอให้ได้รับไอเทมหายาก ก็แล้วแต่ว่าเราจะอยากได้อะไร

เมื่อเราขอพรเสร็จเรา ดราก้อนบอลก็จะหมดสภาพ และกระจัดกระจายกันไปเหมือนในการ์ตูนเป๊ะ แต่ที่ต่างออกไปคือ ในการ์ตูนอาจจะต้องใช้วเลาครึ่งปีหรือหนึ่งปีกว่าดราก้อนบอลจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่ในเกมนี้จะใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น (นับตามเวลาจริง) เราก็สามารถไปรวบรวมดราก้อนบอลมาขอพรได้ใหม่แล้ว คาดว่าน่าจะเป็นอีกระบบหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นติดพันอยู่กับมันนานพอสมควร ถ้าจะฟาร์มของ หรือฟาร์มเงินเลยทีเดียว

เรียกได้ว่าเป็นเกมดราก้อนบอลที่ระบบครบครันที่สุดแล้ว แม้บางอย่างจะทำให้รู้สึกว่ามันยังมีข้อผิดพลาดไปบ้าง เช่นไม่มีระบบ Fast Travel หลายคนอาจจะงงว่า บินเร็วขนาดนั้นแล้ว จะมีระบบ Fast Travel ไปทำไม แต่ปัญหาคือ กรณีที่อยู่ดี ๆ ไอเทมเราขาด ไม่พอใช้ขึ้นมา แล้วตู้ขายไอเทมดันอยู่ห่างไปไกล แน่นอนว่าเราก็ต้องบินไป ซึ่งแม้มันจะเร็ว แต่ก็กินเวลาไม่ใช่น้อย เกมนี้กลับไม่มีระบบ Fast Travel แต่ก็พอเข้าใจว่า แผนที่มันไม่ได้กว้างมากนัก แต่สำหรับคนที่เวลาเล่นน้อยก็เป็นอะไรที่น่ารำคาญใจอยู่บ้าง

และปัญหาต่อมาคือเรื่องของการต่อสู้ที่หลายครั้งก็พบเจอความแกว่งอยู่บ้าง นั่นคืออยู่ดี ๆ ศัตรูจะโหมท่าใหญ่ติด ๆ กัน ชนิดที่ว่าไม่สิ้นเปลืองพลัง Ki กันเลยหรืออย่างไร ในขณะที่เรากลับต้องมานั่งชาร์จอยู่ทุกครั้ง ใครที่เป็นมือใหม่ ไม่ชินกับความเร็วของการต่อสู้ในเกมดราก้อนบอลก็อาจจะต้องตายซ้ำตายซากกันนิดนึงเพื่อเป็นการปรับตัว

แต่ทุกอย่างที่กล่าวมา หากคุณเป็นแฟนดราก้อนบอลแล้วก็จะมองข้ามทุกอย่างไปอย่างง่ายดาย และสนุกไปกับทุก ๆ อย่างภายในเกมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

Performance

Dragon Ball Z : Kakarot ไม่ใช่เกมที่กินสเปคสูงอะไรขนาดนั้น (ยกเว้น Harddisk ที่กินไปประมาณ 40-50 GB) ทำให้ตัวเลือกในการปรับกราฟิกและคุณภาพเกมมีค่อนข้างน้อยมาก

แต่ข้อดีที่ต้องชมเลยคือเราสามารถปรับการแสดงผลของปุ่มต่าง ๆ ได้ตามใจชอบทั้งสามแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น PS4 , XBOX และ PC ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเอาจอยไปเสียบเล่นบนคอม หรือต่อคีย์บอร์ดเล่นบนคอนโซล (มันน่าจะมีมั่งแหละ..) ก็สามารถปรับการแสดงผลปุ่มให้ถูกใจเราได้อย่างง่ายดาย

และในหน้าตั้งค่าปุ่มก็อธิบายไว้ชัดเจนว่าการกระทำแบบไหนต้องกดปุ่มอะไร ทำออกมาดูง่าย และเข้าใจง่ายมาก

ปัญหาในตอนเล่น จากที่เล่นมาก็ถือว่าน้อยมากและแทบไม่เจอเลย เคยเจอหนักก็แค่บัคติดฉากบนพื้นดินเท่านั้น แถมไม่จำเป็นต้องออกเกมใหม่ แค่พุ่งบินขึ้นไปบนท้องฟ้า บัคก็หายแล้ว ถ้าผู้เล่นคนไหนเจอบัคอะไรก็ลองเอามาพูดคุยกันได้

Dragon Ball Z : Kakarot คือการพิสูจน์ตัวเองของ BANDAI Namco และ CyberConnect2 ว่าพวกเขาไม่ได้มีดีแค่ทำเกม Fighting หรือใช้แบรนด์อนิเมะชื่อดังที่มีอยู่ในมือมาทำเกมดาด ๆ เท่านั้น แม้หลายอย่างจะสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ แต่ในตอนนี้ Dragon Ball Z : Kakarot ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมจากการ์ตูนที่ได้ใจแฟน ๆ ดราก้อนบอลไปเต็ม ๆ คอเกมก็เล่นได้ เพราะเนื้อเรื่องครบถ้วนกระบวนความ ส่วนแฟนเดนตายดราก้อนบอล ถ้าคุณอ่านทุกบรรทัดมาจนถึงตรงนี้แล้ว ผมคงไม่ต้องบอกว่า ไปหามาเล่นซะนะครับ..

 

Aisoon Srikum

Back to top