เมื่อสงครามกับเทพแห่งการทำลายล้างจบสิ้นไป สิ่งที่เหลือไว้ไม่ใช่ความสงบสุข หากแต่เป็นอีกหนึ่งวายร้าย ที่ฉวยโอกาสเข้ามากระชับพื้นที่ กวาดเก็บทุกความภูมิใจ แทนที่ด้วยความเจ็บปวด คนผู้นั้นคือกองเรือที่เรียกตัวเองว่า the Children of Hargon
ภารกิจของพวกมันคือการกวาดล้างทุกอย่างที่ต่อต้านความไม่สงบสุขที่ถูกสร้างขึ้น รวมถึงการเพ่งเล็งเหล่า Builder ศัตรูสำคัญของพวกมัน เพื่อไม่ให้มีการสรรสร้างสิ่งใหม่ ๆ มาเพื่อต่อต้านกองทัพของตนเอง
ในฐานะ Builder ฝึกหัด โชคชะตานำพาให้คุณถูกจับ ก่อนจะหย่อนคุณลงใต้ทะเล พาคุณมาพบกับมิตรสหายที่จำไม่ได้แม้กระทั่งอดีตของตนเอง และนี่คือเรื่องราวของผู้สร้างโลก Dragon Quest Builders 2
Story
เนื้อหาของ Dragon Quest Builders 2 จะเล่าถึงเหตุการณ์หลัง Dragon Quest 2 หลังจากกลุ่มผู้กล้าทำการล้มจอมมารชิโดได้แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือกองเรือของ Hargon กลับเข้ามายึดพื้นที่ และตั้งตัวเองเป็นจอมมารคนใหม่ อีกทั้งยังทำการจับตัวเหล่า Builder ที่มีความสามารถในการสร้างมาไว้ รวมถึงตัวเราที่เป็น Builder ฝึกหัดด้วย
แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์เรือล่ม เราถูกคลื่นซัดมาติดเกาะร่างแห่งหนึ่ง ที่นั่นเราได้พบกับ Malroth (หรือชิโด) เทพแห่งการทำลายล้างในสภาพไร้ความทรงจำ โดยเขาจะเป็นคู่หูที่สำคัญของเราตลอดทั้งเกม
ภารกิจหลักของเกมนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรมาก เราและคู่หูคนสำคัญ มีหน้าที่ในการต่อต้านนโยบายของ Hargon ที่ต้องการจะล้มล้างระบบบูชาเทพีแต่เดิม ให้เป็นการบูชาพวกเขาแทน สิ่งที่เราจะต้องทำคือการเดินทางไปในเกาะต่าง ๆ ของโลกนี้ และฟื้นคืนสภาพของเกาะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ด้วยฝีมือในการสร้างของเรา
ฟังแล้วอาจจะดูหนักหนาสากรรจ์เหมือนภาคปกติ เพราะสำหรับ Dragon Quest แล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นลายเซ็นต์ของซีรีส์นี้ คือเนื้อหาที่แสดงถึงความสิ้นหวังอย่างแท้จริง แต่บอกเลยว่า Dragon Quest Builders 2 เป็นเกมที่เนื้อเรื่องสบาย ๆ กว่าที่คิด แถมยังเป็นเส้นตรงมาก ๆ จนแทบไม่ต้องตัดสินใจอะไรเลย เอาเป็นว่าเด็กเล่นก็ได้ ผู้ใหญ่เล่นก็ดี
แต่ปัญหาเล็ก ๆ มันกลับเกิดขึ้นเพราะเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อน มันทำให้ตัวเกมดูไม่ครอบคลุม และไม่เหมาะสมกับเวลาเล่น เนื่องจาก Dragon Quest Builders 2 เป็นเกมที่ใช้เวลาเล่นค่อนข้างนานถึงนานมาก แต่เนื้อหาที่เราต้องการทราบ กลับโผล่มาให้เราติดตามต่อ ในเวลาที่เราทำภารกิจสำเร็จเท่านั้น และกว่าเราจะทำภารกิจสำเร็จก็นาน บางภารกิจใช้เวลามากถึงสามสี่ชั่วโมง ฉะนั้นเกมนี้น่าจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการรู้เนื้อเรื่องไว ๆ เพราะคุณจะต้องเล่นเกมนี้นานระดับหนึ่งทีเดียว ถึงจะทราบความจริงทั้งหมด (7)
Presentation
งานภาพของ Dragon Quest Builders 2 ยังใช้สไตล์งานของอาจารย์โทริยาม่าเหมือนเดิม ทั้งตัวละครยาวไปถึงวายร้ายประจำเกม ทำให้เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเก่า ๆ ของทั้ง Dragon Quest รวมถึง Dragonball ด้วย พูดได้เลยว่า ใครที่ตามผลงานของอาจารย์อยู่แล้ว น่าจะหลงรักงานภาพในเกมนี้ได้ไม่ยากเย็นนัก
กราฟิกในเกมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน หรือพัฒนาอะไรจนเห็นผลมาก เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน เราอยู่ในช่วงปลายของ Gen แล้ว ทำให้กราฟิกในเกมพัฒนาไปมากกว่านี้ไม่ได้อีก แต่ก็ทดแทนมาด้วยการใส่เฉดสีที่ดูฉูดฉาด ให้อารมณ์ความรู้สึกสดใสทุกครั้งที่เปิดเกมเข้ามาเล่น
ระบบผจญภัยในเกมภาคนี้เหมือนจะเข้มข้นขึ้นกว่าภาคเก่า เพราะในภาคนี้เรามีผู้ช่วยเพิ่มมาอีกหนึ่งคน (Malroth) ทำให้การต่อสู้สนุกขึ้นมาก รวมถึงสกิลใหม่ ๆ ที่เราจะได้เมื่ออัพเลเวลด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อาวุธของเราจะไม่มีวันพังเหมือนภาคก่อนหน้าอีกแล้ว ฉะนั้นถ้าคุณกำลังเซ็ง ๆ กับการเล่นภาคหนึ่ง เราขอแนะนำให้คุณย้ายมาเล่นภาคนี้โดยเร็ว
อีกหนึ่งระบบหลักที่ไม่พูดถึงไม่ได้ในภาคนี้ คือการพัฒนาชุมชนชาวเกาะต่าง ๆ ให้กลับมาสงบสุขเหมือนเดิม คือถ้านับตามเนื้อเรื่อง Hargon จะไล่ทำลายพื้นที่ที่นับถือเทพีให้ราบ พร้อมทั้งจับตัวเหล่า Builder ไป ทำให้ไม่มีการพัฒนาชุมชนเกิดขึ้นนานแล้ว และนั่นเป็นหน้าที่เรากับ Malroth
การพัฒนาชุมชนในเกมจะขึ้นอยู่กับชุมชนนั้นเน้นไปที่งานด้านไหน อย่างชุมชนแรกจะเน้นงานด้านเกษตรกรรม หน้าที่หลัก ๆ ของเรานอกจากจะสร้างสิ่งปลูกสร้างให้ชาวบ้านแล้ว เรายังต้องหา รวมถึงปลูกพืชพรรณใหม่ ๆ รวมถึงพยายามขับไล่กองทัพของ Hargon ให้ออกไปจากหมู่บ้านอีกด้วย และเมื่อชุมชนนั้นกลับสู่สภาพเดิมเมื่อไหร่ เราต้องย้ายไปพัฒนาชุมชนถัดไปทันที
การพัฒนาชุมชนถือเป็นภารกิจหลักของเกม แต่อย่างที่บอก คุณต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสำเร็จภารกิจหลักในแต่ละพื้นที่ แถมเมื่อคุณทำงานสำเร็จแล้ว ก็แทบเอาอะไรจากชุมชนเก่าไปไม่ได้ จุดนี้เลยกลายเป็นอุปสรรคของผู้เล่น Sandbox เพราะเกมเหมือนบังคับให้เราทำภารกิจให้จบเร็ว ๆ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องสร้างสรรค์อะไรนอกเหนือจากนั้นเลย เพราะสร้างไปก็ไม่ได้อะไร แถมเอากลับไปเกาะตัวเองก็ไม่ได้ด้วย (8)
Gameplay
ขึ้นชื่อว่าเป็น Dragon Quest Builders เกมเพลย์ที่ได้เลยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือส่วนของความเป็น Dragon Quest ซึ่งอัดความเป็น RPG ออกมาเต็มรูปแบบ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบการเล่นให้เป็นแอคชั่น คุณสามารถคราฟต์อาวุธ ชุดเกราะมาใช้งานได้ คุณมีสกิลที่ปลดล็อกตามเลเวล รวมถึงมี Malroth เพื่อนร่วมทางที่จะมาช่วยคุณใส่เดี่ยวกับมอนสเตอร์อยู่ตลอดเวลา
ในด้านของมอนสเตอร์ในเกมก็ไม่น้อยหน้า เพราะผู้พัฒนาหยิบมอนสเตอร์เก่า ๆ ที่เคยมีในภาคก่อน ๆ มาใส่ในเกมอย่างเต็มที่ รวมถึงมีบอสมอนสเตอร์ตัวใหญ่ ๆ มากมายในเกมมาให้คุณปราบแบบไม่หวาดไม่ไหว ฉะนั้นใครที่กลัวว่าซื้อเกมนี้มาเล่น จะได้สร้างเพียงอย่างเดียว ขอให้มั่นใจได้เลยว่า คุณได้บู๊กับมอนสเตอร์ในเกมแน่นอน
นอกจากมอนสเตอร์ สิ่งที่ร้ายกาจไม่แพ้กันคือแผนที่ในเกม เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นกล่อง ๆ เหลี่ยม ๆ ทำให้ในบางครั้ง การเดินทางของคุณอาจเสียเวลาไปกับการกระโดดขึ้นกระโดดลง อ้อมไปอ้อมมา วิ่งหนีกับดัก ซึ่งเกมเพลย์ลักษณะแบบนี้ในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน แต่ถ้าผ่านการเล่นไปมาก ๆ แล้ว คุณจะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อจริง ๆ
ส่วนการสร้างก็เป็นจุดเด่นมาตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว ในภาคนี้นอกจากจะสร้างแบบฟรีสไตล์ เกมยังให้ Blueprint ฉบับล็อกชนิดของเฟอร์นิเจอร์มาให้ด้วย ซึ่งบางภารกิจ NPC จะต้องการห้อง หรือพื้นที่ใช้สอยในแบบต่าง ๆ หน้าที่ของเราคือการเปิด Blueprint และพยายามสร้างห้องให้ได้ตามแบบที่ NPC ต้องการ
นอกจากการสร้างห้อง และพื้นที่ใช้สอยแบบปกติแล้ว เรายังมีหน้าที่ในการบูรณะสิ่งก่อสร้างเก่า ๆ ที่ Hargon ทำลายด้วย โดยส่วนใหญ่จะมาเป็นเควส หน้าที่ของเราคือการเสาะหาวัตถุดิบมาวางให้ตรงตาม Blueprint เดิมให้ได้ ซึ่งความยากของการเล่นลักษณะนี้คือความซับซ้อนในการสร้างเป็นส่วนใหญ่
พอหมดตรงส่วนนี้แล้ว Dragon Quest Builders 2 ก็ไม่มีอะไรใหม่ ส่วนหนึ่งเพราะมันเป็นเกมที่เน้นเล่นแบบ Day by Day อยู่แล้ว หน้าที่ของเราคือฟาร์มของ สร้าง แล้วก็นอน วนเวียนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะผ่านภารกิจพัฒนาชุมชน และดำเนินเนื้อเรื่องต่อไป ซึ่งน่าจะเป็นจุดที่หลาย ๆ คนรู้สึกว่าเกมมันค่อนข้างชวนให้หลับ รวมถึงผู้เขียนก็รู้สึกแบบนั้นด้วย (7)
Performance
สำหรับการเล่น Dragon Quest Builders 2 บนแพลตฟอร์ม PS4 Pro เรียกได้ว่าลื่นไหล ผ่านฉลุยโดยที่ไม่มีปัญหาใด ๆ เลย เนื่องจากปกติเกมนี้ก็ไม่ได้กินสเปกอยู่แล้ว ส่วนเรื่องบั๊กหรือข้อผิดพลาดในเกม ตั้งแต่นั่งเล่นมาก็ไม่เห็นความผิดปกติแม้ซักนิดเดียว เรียกได้ว่า Optimize มาดีมาก และคิดว่า PS4 ตัวธรรมดาน่าจะเล่นได้สบาย ๆ โดยไม่มีข้อผิดพลาดเช่นกัน
แต่นอกจากเรื่องความลื่นไหลในการเล่น ตัวเกมยังมีปัญหาอยู่บ้าง อย่างเช่นการปรับมุมกล้องที่ทำได้ยาก แถมในบางครั้งมุมกล้องจะหันในลักษณะไม่เป็นธรรมชาติ แถมการรีเซ็ตก็ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร คือต้องมานั่งเปลี่ยนเป็นโหมด FPS แล้วเปลี่ยนกลับเป็นโหมด bird eye view อีกที ซึ่งมันก็โอเคถ้ามันเกิดขึ้นระหว่างที่คุณกำลังทำกิจกรรมง่าย ๆ แต่ถ้าปัญหานี้เกิดขึ้นตอนคุณสู้บอสที่มีสกิล One Hit Kill คุณอาจจะต้องมานั่งสู้กับบอสใหม่ตั้งแต่แรก เนื่องจากตายเพราะมุมกล้องทำพิษ (8.5)
สรุปแล้ว Dragon Quest Builders 2 ถือเป็นการสานต่อจากภาคแรกที่ดีในแง่การพัฒนา แม้ในแง่ของระบบการเล่น เกมยังคงก่ำกึ่งและคาบเกี่ยวระหว่างความเป็น Sandbox และความเป็น RPG ไว้โดยที่รู้สึกได้ถึงความไม่เข้ากันเล็ก ๆ ในเกม แต่ถ้าวัดกันในแง่ของเอกลักษณ์ความเป็น Dragon Quest เกมนี้ถือว่าตอบโจทย์
