ติดหล่ม โดนด่า โดนสาปแช่ง บั๊กเยอะกว่าราคาเกม คือคำนิยามที่อธิบายความกเฬวรากของ Fallout 76 ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตัวเกมจะมี Content ที่น่าสนใจมากมาย แต่ทุกอย่างกลับถูกปัญหาต่าง ๆ กลบเสียจนมิดไม่มีชิ้นดี กวาดคะแนนรีวิวสุดต่ำจากทุกสื่อ (เว้น GamingDose ที่ยังให้กลาง ๆ อยู่) เรียกได้ว่าจุดตกต่ำของ Bethesda ที่แท้จริง
แต่หลังจากผ่านมาเกือบสองปี ตัวเกมถูกพัฒนาขึ้นอย่างมาก แถมล่าสุด DLC ใหม่ที่ทุกคนรอคอย Wastelanders ก็เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับปล่อยตัวเกมลง Steam อย่างเป็นทางการ งานนี้จะเรียกว่าคัมแบคได้หรือไม่ ลองไปดูกัน
Story
เนื้อหาของ Wastelanders ยังคงดำเนินอยู่ใน Appalachia คันทรีโรดส์เทคมีโฮมอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีประชาชนคนธรรมดาเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองแล้ว จากการสังเกตคร่าว ๆ บุคคลพวกนี้น่าจะมีตัวตนตั้งแต่การออกจาก Vault ของเราแล้ว หมายความว่า เนื้อเรื่องหลักของ Wastelanders และตัวเกมหลัก จะเดินคู่ขนานกัน
เนื้อหาเริ่มจากการที่เราได้พบ Overseer ตัวเป็น ๆ เสียที หลังจากได้แต่ฟังเสียงจากเทปมานาน พอมาถึงเธอก็เริ่มอธิบายถึง “แผนการใหม่” ที่จะกู้คืนระบบเศรษฐกิจของโลกให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม โดยเธอเล่าว่ามันมี Vault ที่ชื่อว่า 79 อยู่ แถมใน Vault ยังมีทองเต็มไปหมด ซึ่งนี่จะเป็นหนทางแรกในการสร้างระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่ปัญหาคือตัวเราเองไม่มีความสามารถในการขุดเจาะ Vault ที่ปิดสนิทให้เปิดได้ ภารกิจตามหาทีมเดนตายจึงเกิดขึ้น
ทีมเดนตายที่ว่า มันคือกลุ่ม Faction ที่มีด้วยกันสองกลุ่ม โดยเนื้อเรื่องจะเล่าแตกต่างกันไป แต่จุดสุดท้ายคือการทลาย Vault 79 อยู่ดี โดยรวมเนื้อเรื่องใหม่ ๆ ไม่ค่อยมีอะไรที่หักมุมมากนัก สิ่งที่น่าชื่นชมคือตัวเลือก “ที่มีมาก” เกินกว่าจะเป็นเกมออนไลน์ คือปกติเราจะนึกว่าตัวเกมไม่ควรฉีกอะไรออกไปมาก เพราะมันเป็นเกมออนไลน์ที่มีคนอื่นเล่นอยู่ด้วย แต่ช้อยส์ใน Wastelanders มันหลากหลาย รุนแรงถึงขนาดว่าทำให้ตัวละครตัวใดตัวหนึ่งตายแบบถาวรได้เลย
ก่อนหน้านี้วิธีการนำเสนอของ Fallout 76 ถือเป็นจุดอ่อน เพราะมันให้อารมณ์แบบบุคคลที่มาสืบรู้เรื่องราวทีหลัง ถ้าคุณชอบ คุณก็จะชอบไปเลย ถ้าคุณไม่ชอบ คุณก็จะเกลียดมันไปเลย การมาของ Wastelanders ทำให้ข้อเสียข้อนี้ถูกปัดตกไป เพราะคราวนี้ตัวเกมมันเล่าเรื่องได้สมบูรณ์แบบแล้ว
Presentation
ในหมวดนี้แทบไม่มีความแตกต่างกับตัวเกมในตอนแรกเริ่ม เพราะไม่ว่าอิมเมจมันเป็นยังไง มันก็เป็นแบบนั้น แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง และนั่นก็รวมถึงเรื่องบั๊กของเกมที่ประปราย ปัญหาด้านเอนจิ้นกินสเปกเกินพอดี ทุกอย่างยังอยู่ครบ แม้มันจะลดระดับความรุนแรงลงไปบ้าง แต่บอกเลยว่ามันก็ยังชวนปวดหัวอยู่ดี
ปัญหาใหญ่ ๆ ที่ยังอยู่ครบก็มีตั้งแต่เรื่องแสงแยงตา ที่รบกวนการเล่นเป็นอย่างมาก ถึงขนาดต้องปรับ Low ไปเลยจะได้ไม่มีปัญหา งานภาพก็ยังเหมือนเดิม เอามาจาก Fallout 4 แท้ ๆ แต่กระตุกเป็นเจ้าเข้า ส่วนที่ดีก็เหมือนเดิม คือพวกสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งป่าไม้ใบหญ้า ภูเขา หิมะ ทุกอย่างดูดี ให้อารมณ์เหมือนเล่น Fallout 4 เวอร์ชั่นที่โลกมันไม่ได้พังจนเกินแก้ไข
แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดที่พบเจอ ณ ตอนนี้คือการกระตุกแบบเป็นช่วง ๆ กระตุกในแบบที่ว่าหยุดกึกไปเลย อันนี้ไม่ได้โทษเกม แต่ฮาร์ดแวร์ที่ผู้เขียนใช้ มันเกือบ ๆ จะ High-end แล้ว ปัญหานี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ ยิ่งเวลาเปิดไฟจาก Pipboy นี่ยิ่งแล้วใหญ่ กระตุกทุก ๆ 20 วินาที ยิ่งเล่นยิ่งอารมณ์เสีย (แต่ก็ทนเล่น) ซึ่ง ณ จุดนี้เราก็เข้าใจผู้พัฒนาเหมือนกัน ว่าถ้าจะแก้ทีก็ต้องแก้ยาว เสี่ยงเกมพังไปเลยเหมือนกัน แต่บางทีเราก็คิดว่า ทำไมตอนแรกไม่ทำให้มันดีไปเลยวะ
Gameplay
ใน Wastelanders มีการเพิ่มระบบใหม่ ๆ เข้ามามากมาย โดยจะมีสองระบบหลัก ๆ ที่เป็นไฮไลท์ ซึ่งก็คือระบบ Faction และ Ally โดยตอนแรกผู้เขียนนึกว่าเราจะสามารถเลือกได้เพียงอันใดอันหนึ่งเท่านั้น เพราะ Raider กับ Settler ทำตัวเป็นศัตรูกันค่อนข้างชัดเจน แต่พอเอาเข้าจริง คุณสามารถทำตัวเป็นนกสองหัวได้ ด้วยการเพิ่มระดับความสัมพันธ์ของทั้งสอง Faction ให้อยู่ในระดับที่พวกเขาไม่โจมตีก่อน ซึ่งง่ายมาก เพียงคุณสลับทำเควสทั้งสอง Faction ก่อนจะขุด Vault 79 ทั้งสองก็จะไม่โจมตีคุณแล้ว
การทำเควสหลักของ Faction นอกจากจะให้ Currency ใหม่ที่เรียกว่า Gold Bullion แล้ว ตัว Faction ยังมีเควสประจำวันให้ทำทุกวัน และยังคงคอนเซปต์ของการเลือกได้เหมือนเดิม คุณเลือกจะทำเควสของคุณแบบไหนก็ได้ อย่างผู้เขียนได้เควสไปฆ่าทหารหนีกอง ผู้เขียนไม่อยากฆ่า เลยขู่เอาเงินแล้วปล่อยมันไปแทน ส่วนอีกเควส Settler ต้องการให้ผู้เขียนไปเอาของที่พวก Raiders ยึดไว้คืน แต่พอดีว่าผู้เขียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Raiders ผู้เขียนเลยเลือกที่จะขอมันมาดี ๆ แล้วเอาไปส่งเควสได้ โดยที่ไม่ต้องฆ่าใครเลย ถือเป็นความหลากหลายที่ดี
สำหรับ Ally นั้น เป็นระบบคล้าย ๆ เพื่อนบ้าน โดย ณ ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้มากเท่านั้น ที่น่าสนใจก็มีแค่การให้เควสเนื้อเรื่องของตัวละครแบบยาว ซึ่งหลังจากที่เราทำจนเสร็จ เราจะได้อาวุธประจำตัวละครนั้น ๆ มา แล้วก็มีตัวละครมาป้วนเปี้ยนอยู่ในบ้าน แค่นั้น ไม่ได้ช่วยอะไรมาก ถามว่าดีไหม ก็ตอบว่าดี เพราะนอกจากจะไม่เหงาแล้ว การทำเควสชุดแรก ยังให้ Legendary Scrip ค่อนข้างเยอะ เอาไปแลกอาวุธชุดเกราะกันแบบฟิน ๆ
นอกนั้นก็ไม่มีความสำคัญอะไรมากมาย พูดเลยว่าจุดเด่นของ Wastelanders อยู่ที่ความมีชีวิตชีวาของโลกล้วน ๆ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่เคยยี้ Fallout 76 เพราะความเงียบ ลองมาเล่นตอนนี้ดู รับรองบันเทิงกว่าเมื่อก่อนเยอะ
Performance
ก็ยังหนีไม่พ้นคำว่าแล็คนรก อย่างที่อธิบายไปในข้างต้น ตัวเกมกินเสปกมากมายมหาศาลมาก เอาการ์ดจอ RTX 2070 Super มาฉุดยังหยุดไม่อยู่ เฟรมเรท 120 FPS ไม่ต้องถามหา 80 FPS ยังไม่ถึงเลย ไม่รู้จะสงสารตัวเอง สงสารการ์ดจอ หรือสงสารตัวเกมดีที่มันมาได้แค่นี้
อีกอย่างที่ไม่พูดไม่ได้ คือไม่รู้ว่าตัวเกมมีเซิร์ฟเวอร์ที่มันใกล้ ๆ ประเทศไทยไหม แต่ไม่ว่าจะสุ่มกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เราก็จะพบเจอกับพลังแห่งความดีเลย์อยู่เสมอ แถมยังมีปัญหายิ่งกว่าสมัยก่อนอีก ทั้งยิงแล้วเลือดเด้ง ตีไม่โดนแม้ศัตรูจะอยู่ข้างหน้า แต่อันนี้เราเข้าใจได้ว่าปัญหามันเกิดจากการเชื่อมต่อ ความผิดเราครึ่งนึง ความผิดเขาครึ่งนึง
นอกจากเรื่อง Opimize ไม่ดี เกมยังอุดมไปด้วยบั๊กนานาชนิดเหมือนเดิม แต่ดีที่ว่ามันไม่มีอะไรรุนแรง ส่วนมากก็จะเป็น NPC หัวหาย ตีแล้วดาเมจไม่ขึ้น มอนสเตอร์ตายแต่ลูทของไม่ได้ ตัวเองตายแล้วของที่ต้องกลับมาลูท หายไปกับเงา หรือจู่ ๆ โดนยิงจากไหนก็ไม่รู้ กด VATS หาไม่เจอ ร้ายแรงที่สุดคือการจบเควสใหม่ไม่ได้ ซึ่งก็น่าจะต้องรอทีมงานมาแก้แหละ แต่ก็ไว้ใจไม่ได้ เกมนี้ยิ่งแก้ บั๊กใหม่ยิ่งโผล่
Conclusion
ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการปรับปรุง Fallout 76 ให้กลายเป็นเกมที่เป็นมิตรกับผู้เล่นมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่จะเอาแต่ใจ เลือกที่รักมักที่ชัง แถม Performance ยังห่วยแตก บดบังคอนเทนต์ดี ๆ ให้หายไปแบบไม่มีชิ้นดี มาวันนี้มันถูกแก้ไขจนพอเห็นแสงสว่างบ้าง แม้ไม่ได้สว่างวาบแบบสมัย No Man’s Sky แต่ก็ถือว่าทำได้ดีพอให้ผู้เล่นบางส่วน เปิดใจเข้าสู่โลกของ Fallout 76 ได้โดยไม่มีอคติใด ๆ (ก่อนจะออกไปเพราะเจอบั๊กจนหงุดหงิด ฮา)
