BY StolenHeart
11 Feb 20 4:26 am

Review: Granblue Fantasy Versus ศึกครั้งใหม่ ของเหล่านักผจญภัยแห่งท้องฟ้า

125 Views

จากเกมออนไลน์ยอดนิยมที่มีเนื้อเรื่องสุดยิ่งใหญ่อลังการ กับการหมุนกาชาหาของที่ต้องการอันลือลั่น วันนี้มาในรูปแบบเกมต่อสู้ที่น่าตื่นตาไม่แพ้กัน แถมยังเหมาะกับผู้เล่นในทุกระดับอีกด้วย

การผจญภัยในดินแดนแห่งเกาะลอยฟ้า กับภัยคุกคามครั้งใหม่

เนื้อเรื่องของ Granblue Fantasy Versus นั้นจะแยกออกมาจากเนื้อเรื่องหลักของเกม แม้จะเกิดขึ้นในโลกใบเดียวกัน แต่เนื้อหาจะต่างไปเล็กน้อย โดย Gran ตัวเอกของเกมหรือกัปตันเรือ Grancypher  ผู้ออกผจญภัยเพื่อตามหาความลับของพ่อของตน ที่ได้ออกเดินทางไปเยี่ยมมิตรสหายในที่ต่าง ๆ แต่ก็พบว่าพวกเขาเหล่านี้ต่างประสงค์ร้ายและต้องการทำร้ายเขาและ Lyria อย่างไม่ทราบสาเหตุ Gran จึงต้องต่อสู้และค้นหาให้เจอว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวนี้และทำไปเพื่ออะไร

ซึ่งเนื้อเรื่องของเกมภาค Versus นั้นก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Side Story ในเกมเวอร์ชั่นมือถือ แต่จะมีเนื้อหาและความยาวมากกว่านิดหน่อย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการเขียนบทและวางเนื้อหานั้นทำได้ดีไม่แพ้เวอร์ชั่นมือถือแม้แต่น้อย แม้จะมีการเล่าเรื่องในแบบภาพ Cutscene น้อยไปหน่อยก็ตาม

ซึ่งจริงอยู่ที่ความน่าสนใจอาจจะไม่ได้อลังการถึงขั้นเกมที่จัดเต็มในด้านโหมดเนื้อเรื่องอย่าง Injustice หรือ Mortal Kombat แต่ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง แม้ต่อให้คุณจะไม่ได้ติดตามเนื้อเรื่องของเกมภาคมือถือมาก่อนก็จะเข้าใจเนื้อหาของเกมได้ไม่ยาก แถมยังมี Fan Service ที่แฟนเกมชื่นชอบให้ได้เห็นกันด้วย แถมตัวร้ายของเกมเองก็มีการปูพื้นฐานมาจากเกมหลักอยู่แล้วว่าโหดและเก่งขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนักสำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกมเวอร์ชั่นมือถือว่าพลาดอะไรไปหรือเปล่า

โดยรวมแล้วเนื้อเรื่องของเกมนั้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของเกมทั่วไป อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมากขนาดเกม AAA เกมอื่น ๆ แต่ถ้าเทียบกับเกมต่อสู้อื่น ๆ แล้วก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีทีเดียวครับ

จากกราฟฟิก Pixel Art สู่ความเป็นสามมิติสุดอลังการ

ด้วยความที่ Granblue Fantasy เป็นเกมที่มีเนื้อหาและโลกของเกมที่ค่อนข้างใหญ่มากอยู่แล้ว ทำให้การดัดแปลงเอาภาพ Pixel สองมิติที่เห็นในเกมมาเป็นภาพสามมิติสไตล์ Cell Shade นี้ช่วยให้เกมดูดีขึ้นกว่าที่ควรมาก แม้เราจะเห็นการใช้กราฟฟิกลักษณะนี้มาจากเกมของ Arc System Works มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็ตาม แต่ด้วยรายละเอียดของตัวละคร สถานที่ รวมไปถึงอุปกรณ์ประกอบฉากอื่น ๆ ล้วนมีรายละเอียดที่จัดเต็ม ไม่ต่างจากในการ์ตูนอนิเมะชั้นดี ฉากหลังในระหว่างต่อสู้ก็มีหลายจุดที่ชวนให้หยุดมองบ้างตามวาระ ซึ่งอยู่ในจำนวนเหมาะสม และไม่วุ่นวายจนเกินไป

นอกจากกราฟฟิกที่สวยงามแล้ว เพลงประกอบยังได้รับการเรียบเรียงทำนองใหม่ให้แตกต่างจากเดิม แม้ของเก่าจะดีมากอยู่แล้ว เรียกว่าดีกันคนละแบบก็ไม่ผิดนัก ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับเกมได้เช่นกัน เรียกว่าในเรื่องกราฟฟิกกับเสียงนั้นจัดมาได้เข้ากับตัวเกมและไม่ทิ้งจากตัวเกมดั้งเดิมเลย

โหมดการเล่นของ Granblue Fantasy Versus จะมีอยู่สองแบบคือ แบบเกมต่อสู้ และแบบ RPG Mode ซึ่งในโหมดการเล่นแบบเกมต่อสู้นั้นยกไปพูดถึงในหัวข้อถัดไป โดยโหมด RPG นี้เราจะได้เล่นผ่านเควสในลักษณะเดียวกันกับเกมในภาคมือถือ คือฝ่าด่านศัตรูไปให้หมด และในบางฉากก็จะมีบอสให้ต่อสู้ด้วย ซึ่งก็ใช้ระบบเดียวกัน คือตัวบอสจะมีเกจวัดความโกรธอยู่ เมื่อโจมตีจนเลือดลดถึงจุดหนึ่ง มันจะเข้าสู่โหมด Overdrive ที่จะโจมตีแรงขึ้นและมีไม้ตายมาจัดการกับเรา ซึ่งเราต้องรีบตีให้เกจ Overdrive หมดให้เข้าสถานะ Break เพื่อโจมตีได้แรงขึ้น และปิดเกมโดยไว

นอกจากการต่อสู้ที่ต้องใช้ฝีมือแล้ว ผู้เล่นเองก็ต้องทำการเปิดกาชา สุ่มหาอาวุธมาสร้างเป็น Grid หรือ Pool อาวุธเอาไว้ต่อกรกับศัตรูธาตุตรงข้าม ซึ่งในโหมดปกตินั้นอาจจะไม่เห็นผล แต่ในโหมด Hard นี่ต่างกันแบบเห็นได้ชัด เพราะศัตรูจัดอึดขึ้น อัดแรงขึ้น และมีท่าใหม่ ๆ มาเล่นงานเราเพิ่ม โดยเราจะได้ตั๋วสุ่มหาอาวุธมาจากการทำภารกิจในเกมทั้งในเนื้อเรื่องและภารกิจเสริม และเราต้องอัปเกรดอาวุธเพิ่มทั้งเลเวลกับ Skill ด้วย เพื่อเพิ่มพลังโจมตีกับพลังชีวิต

และก็รวมไปถึงตัวละครที่ใช้ก็ต้องมีการอัปเกรดเลเวลเช่นกัน เรียกว่าแม้จะแตกต่างในรายละเอียดปลีกย่อย แต่โดยรวมโหมดนี้ก็เหมือนเกมเวอร์ชั่นมือถือที่มีความอลังการมากขึ้นนี่เอง แถมยังสามารถเรียกเพื่อนหรือผู้เล่นอื่นมาเล่นกันในแบบ Co-op ได้ด้วย ส่วนความยาวในโหมดนี้นั้นก็อยู่ในเกณฑ์พอดี ๆ ประมาณ 8-9 ชั่วโมงก็เล่นจนจบได้แล้ว

ส่วนอื่น ๆ ของเกมที่น่าเสียดายนิดหน่อยก็คือตัวละครเริ่มต้นนั้นน้อยไปนิด โดยมีเพียงแค่ 11 ตัวเท่านั้น แต่ที่ต้องชมก็คือสมดุลของเกมนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียชัดเจนและแก้ทางกันได้ทั้งหมด แค่อาจจะมีบางตัวละครที่เก่งเกินหน้าเกินตาไปบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ และคาดว่าน่าจะมีการปรับสมดุลของตัวละครกันอีกในอนาคตให้ดีกว่านี้แน่นอน

อีกโหมดหนึ่งที่ได้รับการใส่ใจคือ Training และ Mission ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี มีทุกอย่างที่ผู้เล่นควรรู้ควรศึกษาในเกมนี้ครบเกือบทั้งหมด อยากรู้ว่าท่าของตัวนี้แก้ยังไง อะไรคือการ Punish เพียงแค่คุณเข้าไปเล่นใน Mission Mode และ Training ก็สามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้ในทันทีภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งก็มีของรางวัลเป็นเหรียญสำหรับปลดล็อกภาพและเพลง รวมไปถึง Avatar ในห้อง Lobby แทนตัวเราด้วยเหมือนกัน ซึ่ง Arc System Works ยังคงทำตรงจุดนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย

เรื่องสุดท้ายคือการออนไลน์ อันนี้ก็หายห่วงได้เลย เพราะสำหรับการเจอคู่ต่อสู้ที่เป็นขีดแดง อาการ Lag ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด แถมยังมีการบอกด้วยว่ามีการหน่วงไปจากเดิมกี่เฟรม เพื่อที่จะได้กะจังหวะทำคอมโบได้อย่างสะดวก เรียกว่าโหมดการเล่นในเกมนี้นั้นจัดเต็มหายห่วงแน่นอน

เป็นได้เร็ว แต่ท้าทายหากต้องการเชี่ยวชาญ

ส่วนของ Gameplay นั้นเรียกว่ามีความคล้ายคลึงกับเกมต่อสู้ยอดนิยมอย่าง Street Fighter อยู่ไม่น้อย เพราะเน้นการเล่น Neutral Game หรือหยั่งเชิงกันบนพื้นมากกว่าที่จะเกาะไปมาแบบใน Dragonball FighterZ แต่ปุ่มโจมตีนั้นจะน้อยกว่า โดยมีแค่ปุ่มโจมตี เบา กลาง หนัก และ Unique Skill ที่เป็นความสามารถพิเศษของแต่ละตัวละคร เช่นท่าพุ่งตัว เปิดเกราะ หรือ Parry เป็นต้น สามารถป้องกันได้ทั้งจากการกดปุ่มดันหลังค้างหรือปุ่ม R2 แต่จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นตรงที่ปุ่มนี้สามารถใช้ในการกลิ้งหลบไปข้างหรือหรือหลบฉากได้ ซึ่งจะหลับการโจมตีได้ชั่วขณะหนึ่งโดยแลกกับการฟื้นตัวที่ช้าเล็กน้อย ช่วยเติมเกมในด้านการบุกและรับได้ดีมากขึ้น

ส่วนปุ่มอื่น ๆ ก็คือการจับทุ่ม กระโดดโจมตีแบบ Overhead และอีกมากมาย บวกรวมกับระบบอื่น ๆ เช่น Just Guard ที่ทำให้ฟื้นตัวจากการป้องกันได้ไวขึ้น และอื่น ๆ ซึ่งดูเหมือนซับซ้อนแต่จริง ๆ แล้วทุกระบบในเกมนี้เข้าใจได้ง่ายทั้งสิ้น ใช้เวลาหัดประมาณ 2- 3 ชั่วโมงก็น่าจะเข้าใจระบบของเกมนี้ได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนที่เหลือคือการศึกษาคอมโบกับจุดเด่นและการแก้ทางผู้เล่นต่อไปได้เลย

ส่วนใครที่กังวลว่าจะกดไม้ตายไม่ติดก็ไม่ต้องห่วงไป เพราะเกมนี้เพียงแค่คุณกดปุ่ม R1 พร้อมกับทิศทาง ก็สามารถปล่อยท่าไม้ตายได้แล้ว แต่ก็ต้องมาด้วยการที่ท่านั้นต้อง Cooldown เวลาในการใช้ใหม่อีกครั้งนานกว่ากดแบบปกติ โดยเฉพาะแบบ C ที่รุนแรงกว่าปกติและต้องรอเวลานานมากเป็นพิเศษ แต่ก็ช่วยให้คนที่ไม่มั่นใจว่าจะกดท่าได้ติดง่าย ๆ อุ่นใจมากขึ้น ไม่ต้องมาพะวงว่าจะควงไม่ครบรอบจนพลาดจังหวะสำคัญไป

เรียกว่าเป็นระบบที่สะดวกต่อทั้งผู้เล่นเก่าและใหม่จริง ๆ ส่วนเกจไม้ตายเกมนี้ก็ขึ้นค่อนข้างเร็ว แต่การจะใช้ท่า Super หรือ Skybound Art นั้นทำไม่ได้บ่อย ๆ แน่นอน เพราะผู้เล่นจะเก็บเกจไว้ได้เพียงแค่ 100% เท่านั้น ซึ่งการจะใช้ท่าไม้ตายใหญ่นั้นก็ต้องคิดกันให้ดี ๆ ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้รัว ๆ แถมยังเก็บไปใช้ยกหน้าไม่ได้ด้วยเหมือนกัน

หรือถ้าอยากลงลึกเพิ่มเติม ตัวละครแต่ละตัวก็มีสิ่งที่ต้องศึกษาและฝึกฝนให้เก่งมากไม่ใช่เล่นเหมือนกัน แม้คอมโบชุดพื้นฐานจะไม่ได้แรงต่างกันมาเท่าไหร่นัก แต่กับชุดใหญ่ที่ได้ความแรงสูงสุดนั้นก็ต้องฝึกฝนกันเยอะหน่อย เพราะเกมนี้จังหวะในการกดท่าพื้นฐานเพื่อต่อท่านั้นจะค่อนข้างจำกัดและมีช่วงเวลาที่เป๊ะมากเกมหนึ่ง แต่ถ้ากดได้ก็จัดว่าหล่อเลย

โดยรวมแล้วนี่เป็นเกมต่อสู้ที่ผู้เล่นเข้าใจระบบการเล่นได้ง่าย สนุกได้รวดเร็ว ใช้เวลาหัดไม่นานก็เล่นเป็นได้เลย แถมยังมีเทคนิคเชิงลึกให้ศึกษากันอีกมากมาย เล่นสนุกได้ทั้งผู้เล่นขาจรและเหล่าโปรแน่นอน

ปัญหานิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่

ส่วนด้าน Performance ของเกมนั้นถือว่าไม่มีปัญหา เพราะสามารถเล่นได้ลื่นไหล 60 เฟรมในโหมดการเล่นปกติ ไร้อาการสะดุดใด ๆ และโหมดออนไลน์ก็เล่นได้ลื่นไหลอย่างที่ได้กล่าวไป เพียงแต่บางครั้งอาจจะมี Bug ด้านกราฟฟิกโผล่มาให้เห็นนิดหน่อย รวมกับเวลาในการโหลดที่ค่อนข้างนานเล็กน้อยในเครื่อง PS4 ธรรมดาหรือ Slim ดังนั้นใครที่ใจร้อนและอยากเล่นเกมนี้แบบต่อเนื่องไม่สะดุดก็ควรหา SSD มาลงไว้จะดีที่สุดครับ

Conclusion

Granblue Fantasy Versus ถือเป็นเกมที่สมการรอคอยสำหรับทั้งแฟนซีรีส์นี้และเหล่านักสู้ มันมีระบบการเล่นที่สนุกและเข้าใจได้ไม่ยาก โหมดการเล่นทั้งสองแบบที่ให้รสชาติต่างกันและดีทั้งคู่ ใครที่อยากก้าวสู่โลกของเกมต่อสู้เป็นครั้งแรกและไม่รู้ว่าจะเริ่มที่เกมไหนดี Granblue Fantasy Versus คือคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ

Score 9.1/10

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top