BY SEPTH
27 Sep 16 11:27 pm

Review: Hyperx Revolver Gears of War Edition

25 Views

แจ่มเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความเฟี้ยว

คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับเปลี่ยนสิ่งที่ดีอยู่แล้วเป็นทุนเดิมให้ดีขึ้นไปอีก Kingston HyperX Cloud เริ่มต้นไลน์หูฟังจากการอาศัยบารมีจาก QPAD แบรนด์หูฟังชั้นนำจากประเทศสวีเดน ด้วยคุณภาพเสียง และเนื้องานที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาอย่างสมราคา ทำให้ HyperX Cloud ได้สร้างชื่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่นานมานี้ Kingston ก้าวออกจากเงา QPAD ด้วยการดีไซน์หูฟังในแบบของตัวเอง เป็นที่มาของผลงานล่าสุดในนาม HyperX Revolver ซึ่งเป็นที่ยืนยันจากหลายสำนักรวมถึงที่นี่แล้วว่า…เวิร์ค!

dsc01671

Revolver x Gears of War

มาวันนี้ HyperX Revolver กลับมาอีกครั้งด้วยการร่วมมือระหว่าง Kingston และ Microsoft เพื่อเฉลิมฉลองและต้อนรับการมาถึงของเกมอย่าง Gears of War 4 ที่ในภาคนี้ ไม่เพียงแต่ถูกพัฒนาลงเครื่อง Xbox One แต่ยังรวมทั้ง PC ที่่มีกำหนดออกไล่เลี่ยกันในเดือนหน้านี้อีกด้วย

dsc01613

กล่องด้านหน้าที่เข้ากับคอนเซปท์ของ Xbox ได้อย่างกลมกลืน

dsc01605

กล่องด้านหลังที่อธิบายจุดเด่นไว้อย่างชัดเจน

dsc01624

เมื่อเปิดออกมาจะพบกับโลโก้ Gears of War อย่างชัดเจน

dsc01625

รายละเอียดโลโก้ที่ไม่ได้มีเพียงด้านนอก แต่ยังรวมถึงด้านในที่เรียบหรู สวยงาม

dsc01639

Earpad ที่มาพร้อมกับ Logo อันเป็น Signature อมตะของเกมซีรีย์นี้

dsc01644

ช่วงขอบมีลักษณะเป็นสีแดงเงา ดูมีมิติที่สวยงาม

หากจะดูเพียงผิวเผิน Revolver Gears of War Edition ยังคงรูปแบบดีไซน์ไม่ต่างจาก Revolver ตัวดั้งเดิมมากนัก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ หน้าตาของ Ear Cup ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้นูนขึ้นจากปกติพร้อมพิมพ์ Logo ของเกม Gears of War ที่หลายคนคุ้นตากันดี ที่มีให้เห็นทั้งด้านนอกและด้านใน นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับเปลี่ยนสีให้เป็นสีแดงในหลายเฉด โดยมีแดงด้านเป็นหลัก สอดแทรกด้วยแดงเงาบริเวณขอบหู ช่วยให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ยังได้ทำการสลักชื่อ Gears of War ไว้ที่ Headband สีน้ำตาลแก่ ให้อรมณ์เรียบหรู ขลัง และอลังเว่อร์ไปในเวลาเดียวกัน

dsc01634

ด้านในของ Earcup ยังมีโลโก้อยู่ด้วย

 

dsc01630

หนังคาด Headband ที่สลักโลโก้ของเกมบนพื้นหลังสีน้ำตาลไว้อย่างเรียบหรู

ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าความรู้สึกที่ได้สัมผัสจะต้องต่างจากตระกูล Cloud ที่เคยทำมา แม้ Revolver จะได้เปลี่ยนวัสดุบริเวณ Headband มาเป็นหลัก แต่ด้วยการดีไซน์แบบยกเครื่องใหม่กลับมอบความรู้สึกที่เบาสบายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระบบคาด Headband ที่ปรับเปลี่ยนไปตามรูปหัวของผู้สวมใส่ช่วยเปลี่ยนความรู้สึกในการเล่นเกมผ่านหูฟังได้เป็นอย่างดี

แม้จะได้รับการยกเครื่องใหม่่ Revolver ก็ยังคงพัฒนาตามรอยแนวเสียงแบบที่รุ่นก่อนๆ อย่าง Cloud ทำไว้ และสานต่อให้ดีขึ้นไปอีก คุณภาพเสียงของ Revolver ให้รายละเอียดที่ครบ โดยไม่กลบย่านใดย่านหนึ่ง เสียงเบสที่ลงลึกพอประมาณ สร้างอิมแพ็คที่ไม่มากจนเกินไป ในขณะโฟกัสของกลางแหลมในแต่ละจุดทำได้อย่างแม่นยำ นับว่าเพียงพอสำหรับการเล่นเกมที่ต้องอาศัยการฟังเสียงตำแหน่งฝีเท้าของศัตรู รวมถึงอรรถรสของเสียงปืนก็นับว่าตอบโจทย์ได้ไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ Revolver Gears of War ยังได้ทำการปรับเปลี่ยนปุ่มควบคุมเสียงให้เข้ากับ Theme ของเกม ที่ดูแตกต่างจากรุ่นปกติ โดยหูฟังมาพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างสายเชื่อมต่อที่เพิ่มความยาว และไมโครแฟนแบบถอดเสียบได้ อาจไม่มากมายนักหากเทียบกับรุ่นก่อนๆ แต่ก็นับว่าเพียงพอสำหรับหูฟังถูกพัฒนาเพื่อการเล่นเกม

dsc01627

คู่มือต่างๆ และโค้ด Bonus (คาดว่าเป็นไอเทมพิเศษสำหรับเกม Gears of War 4)

dsc01649

สายขยายความยาว และไมโครโฟนสำหรับใช้ในการพูดคุย

ความรู้สึกหลังใช้งาน

หลังจากที่ได้ลองใช้งานก็พบว่าหูฟัง Kingston HyperX Revolver Gears of War Edition ตัวนี้มอบความสบายที่แตกต่างจากตัวก่อนๆ อย่างตระกูล Cloud เป็นอย่างมาก ด้วยสายคาด headband ที่บางลง ทำให้ในขณะเล่นมีความรู้สึกเบาลงอย่างเห็นได้ชัด  แม้สวมใส่เป็นเวลานานก็ไม่รู้สึกเมื่อยแต่อย่างใด ทุกอย่างดูกระชับเข้าที่เข้าทางเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไมค์ในรุ่น Revolver ได้รับการเคลือบก้าน ทำให้มั่นใจไปอีกขั้นเมื่อถอดเสียบ ในส่วนของคุณภาพเสียงจากไมค์ก็ยังคงทำหน้าที่ได้ไม่แพ้รุ่นก่อนๆ โดยให้เสียงที่ชัดเจนในการพูดคุย สำหรับคุณภาพเสียงของหูฟังหลังจากที่ได้ทำการทดสอบก็ต้องบอกว่า ครอบคลุมทั้งการเล่นเกมจนไปถึงดูหนัง ด้วยตำแหน่งโฟกัสเสียงที่แม่นยำ และน้ำหนักเบสที่จับต้องได้ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป นอกจากนี้ คุณภาพเสียงในการฟังเพลงก็ยังทำออกมาได้น่าประทับใจ ด้วยเสียงเบสที่มีอิมแพ็คชัดเจน และเสียงกลางที่พุ่งชัด เชื่อเลยว่า ถ้าผ่านการเบิร์นไปสักพัก จะต้องดีขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน

คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า Revolver Gears of War Edition คือการยืนยันก้าวเดินที่แน่วแน่ของ Kingston ในเส้นทางที่ตัวเองสร้างขึ้น และเส้นทางนั้นได้เติบโตไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง

แม้จะโปรโมตมาว่าสำหรับ Xbox และ PC แต่หลังจากที่ทดสอบก็พบว่าสามารถเล่นกับ PS4 ได้ไม่ต่างกันแต่อย่างใด

แม้จะโปรโมตมาว่าสำหรับ Xbox และ PC แต่หลังจากที่ทดสอบก็พบว่าสามารถเล่นกับ PS4 ได้ไม่ต่างกันแต่อย่างใด

dsc01687

ข้อดี :

  • คุณภาพเสียงคุ้มราคาในหลายๆ ด้าน
  • ให้ความรู้สึกเบา สวมใส่สบาย
  • ดีไซน์เตะตา โดนใจทั้งแฟนเกมและเด็กแนวขวางโลก

ข้อเสีย :

  • อุปกรณ์ที่รัดกุม ไม่ได้พ่วงกระเป๋าหรือสายต่อพ่วงอื่นๆ เพิ่มเติมมาให้

รายละเอียดทางเทคนิค

เฮดโฟน:

  • ไดร์เวอร์: 50 มม. แบบไดนามิคพร้อมแม่เหล็กนีโอดีเนียม
  • ประเภท: แบบครอบเต็ม ปิดด้านหลัง
  • ความถี่: 12Hz–28,000 Hz
  • ความต้านทาน: 30 Ω
  • ระดับแรงดันเสียง: 104.5dBSPL/mW ที่ 1kHz
  • T.H.D.: < 2%
  • กำลังขาเข้า: พิกัด 30mW, สูงสุด 500mW
  • น้ำหนัก: 360 ก.
  • น้ำหนักพร้อมไมค์: 376 ก.
  • ความยาวและประเภทสาย: ชุดหูฟัง (1 ม.) + กล่องควบคุมเสียง (2 ม.)
  • การเชื่อมต่อ: ชุดหูฟัง – หัวเสียบ (4 ตอน) + กล่องควบคุมเสียง – หัวเสียบสเตอริโอและไมค์ 3.5 มม

ไมโครโฟน:

  • ส่วนประกอบ: ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
  • รูปแบบขั้ว: สองทิศทาง พร้อมระบบตัดสัญญาณรบกวน
  • ความถี่: 50Hz-18,000 Hz
  • ความไว: -40dBV (0dB=1V/Pa,1kHz)

Kittipong Songkasri

เป้ง - Content Writer

Back to top