Monster Hunter เป็นชื่อที่คุณจะได้ยินบ่อยมากถ้าคุณเป็นผู้เล่นคอนโซลตัวยง มันคือแสงสว่างของผู้เล่นในยุค PSP หลายคนยกให้มันเป็นเกมมัลติเพลเยอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคนั้น และคุณต้องมีมันไว้หากเป็นผู้เล่นคอนโซล

ยุค PSP ถือว่าเป็นยุคทองของเกมนี้อย่างแท้จริง ภาค 3rd ของมันทำยอดขายทะลุทะลวงในแบบที่น่ากลัวมาก เห็นได้จากจำนวนคนที่ถือเครื่องพกพาเดินเล่นเกมในช่วงนั้น ผู้เขียนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้เวลาในการเล่น Monster Hunter กับเพื่อนในยุคนี้ โดยกิจกรรมการสุมหัวเล่นเกม ถือเป็นกิจกรรมหลักตอนเย็นของช่วงนั้นเลยทีเดียว ที่มันนิยมขนาดนี้ไม่ใช่เพราะตัว MH อย่างเดียว แต่เพราะเครื่อง PSP เป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากร่วมด้วย แต่พอเข้ายุค 3DS หลายคนเลิกที่จะเล่นเกมนี้ เพราะรู้สึกว่ามันเข้าถึงยากกว่าเดิม และไม่คุ้มที่จะเล่น เหลือเพียงแฟนพันธุ์แท้เท่านั้นที่ยังเล่นอยู่

ผ่านมากว่าทศวรรษที่ Monster Hunter ห่างหายไปจาก PlayStation ในที่สุด Monster Hunter World ก็มาถึง งานนี้จัดเต็มและทะเยอทะยานกว่าเดิม ! เพราะมันจะไม่ลงแค่แพลตฟอร์มเดียวอีกแล้ว มันจะลงทั้งใน PS4 และ PC ด้วย และนี่ถือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการของ PC หลังจากมันเคยลงมาแล้วน่าจะเกือบทุกแพลตฟอร์มแต่ยังไม่ลงพีซี (คิดดู iOS มันยังลง)

ใหญ่ขึ้น เยอะขึ้น จริงจังกว่าภาคก่อน ๆ

เนื้อหาของ Monster Hunter World ถูกขยายความออกไปมากกว่าที่ซีรี่ส์เคยเป็น จากเดิมที่เราเป็นนักล่า ไม่มีที่มาที่ไป จุดประสงค์อย่างเดียวคือการล่ามอนสเตอร์ตามเควส ส่วนเนื้อเรื่องของเกมจะไม่ถูกเล่าออกมาโดยตรง แต่เราจะต้องไปหาอ่านเองตามสื่อต่าง ๆ แต่ภาคนี้ถูกเปลี่ยนให้ตัวเรามีประวัติที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีเหตุการณ์ในเกมให้เราเข้าไปมีส่วนรวม ทำให้คุณกลายเป็นตัวแปรของเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในภาคที่ผ่านมา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเข้าถึง และรู้สึกถูกดึงดูดมากกว่าภาคก่อน ๆ ในภาคนี้ภารกิจไม่ได้มีแค่การล่ามอนสเตอร์อย่างเดียว ยังมีภารกิจเนื้อเรื่องที่ให้คุณตามรอย สำรวจ จนกระทั่งสู้กับบอสขนาดยักษ์ก็ยังมี ! ยักษ์ที่ว่านี่คือยักษ์จริง ๆ ยักษ์จนเราขึ้นตัวมันไปเดินเล่นได้ นอกจากนี้ยังมีการปฏิสัมพันธ์กับ NPC ต่าง ๆ ซึ่งสิ่งที่ว่า ๆ มานี่ทำให้ Monster Hunter World ดูเป็นเกมที่ครบองค์ประกอบมากกว่าภาคที่ผ่าน  ๆ มาอย่างเห็นได้ชัด

เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าเดิม

จากเดิม Monster Hunter จะเป็นเกมที่ยากมาก เพราะมันถูกออกแบบมาให้เล่นหลายคน ทำให้การเล่นคนเดียวบางครั้งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มอนสเตอร์ในเกมภาคก่อน ๆ เข้าขั้นขี้โกงมาก เอาเป็นว่าบางตัวต่อให้คุณจะเล่นเกมที่ยากแค่ไหนมาก่อนก็ยังรู้สึกว่ามันยากที่จะฆ่าเสียด้วยซ้ำ นอกจากมอนสเตอร์ที่ล่ายากมาก ๆ  แล้ว เกมมันยังมีความซับซ้อนในตัวมันเองอีกเยอะ ทั้งวิธีการใช้อาวุธ ที่ทั้งเยอะและแตกต่างกันมาก ง่ายที่จะเล่น แต่ยากที่จะเชี่ยวชาญ ทั้งยาแก้สถานะผิดปกติ ที่คุณจะต้องจำเองไม่มีบอกว่าต้องใช้อะไรแก้อะไร ทำให้ถ้าคุณไม่มีเพื่อนเล่นเกมนี้ด้วยในสมัยก่อน คุณอาจจะพาลไม่อยากเล่นเกมนี้ไปโดยปริยาย

แต่ในภาค World เกมถูกปรับออกมาให้เข้าถึงทุกคนมากยิ่งขึ้น เกมมันยังยากอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่เวอร์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลายคนที่เล่น 3rd น่าจะยังจำโมเม้นต์ที่ตัวเองถูกหมูป่าตัวเริ่มต้นขวิดตายได้ แต่ใน World จะไม่ขนาดนั้น มันยังง้อผู้เล่นด้วยการที่ปล่อยให้คุณเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ทีละเสต็ป ๆ เมื่อเกมกลับมายากเท่าของเก่า เมื่อนั้นคุณก็สามารถรับมือกับเรื่องพวกนั้นได้แล้ว ทำให้เกมภาคนี้น่าจะเหมาะมากกับผู้เล่นที่เพิ่งจะเริ่มเล่นซีรี่ส์นี้เป็นครั้งแรก

กราฟิกระดับ AAA แบบที่ซีรี่ส์นี้ไม่เคยมี

แฟน Monster Hunter ตัวยงน่าจะเข้าใจและปลงกับความห่วยแตกของกราฟิกไปเรียบร้อยแล้ว เพราะ Monster Hunter เป็นซีรี่ส์ที่ได้รับความนิยมมากในเครื่องพกพา ไม่ใช่เครื่องคอนโซลเครื่องหลัก ทำให้ไม่สามารถพัฒนากราฟิกให้มันดีขึ้นมาได้ ในยุคของ PSP บอกเลยว่าได้ภาพแบบนั้นคือเทพแล้ว เพราะในยุคของ 3DS นี่คือเบลอแตกยับ มาเป็นพิกเซล ๆ ทำให้หลายต่อหลายคนต่างคิดกันว่า Monster Hunter กับภาพสวย ๆ คงไม่สามารถไปด้วยกันได้อีกแล้ว

แต่ Monster Hunter World สอนให้คุณรู้ว่ามันไม่จริง ! ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ผู้พัฒนาจัดกราฟิกระดับ AAA มาให้คุณแบบที่คุณไม่ต้องร้องขอ นอกจากสภาพแวดล้อมบรรยากาศในเกมที่ดูสมจริงแล้ว มอนสเตอร์ในเกมก็ถูกนำมาออกแบบใหม่ให้กลายเป็นมอนสเตอร์แบบ Full HD ! คราวนี้ทั้งดูเท่ ดูน่าเกรงขาม และยิ่งใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน เอาเป็นว่าถ้าย้อนกลับไปเล่นใน 3DS คุณอาจจะหลุดขำกับสภาพมอนสเตอร์ในเกมเลยก็ได้ เพราะมันต่างกันราวฟ้ากับเหว อีกอย่างที่ไม่พูดไม่ได้คือชุดเกราะของตัวละคร ในสมัยที่มันลงในเครื่อง PSP ด้วยศักยภาพของเครื่องที่ยังไม่สูงเท่าไหร่ ทำให้เกราะในเกมเน้นดูเทอะทะไว้ก่อน เพราะจะได้ไม่ต้องใส่รายละเอียดให้มันเยอะแยะ แต่พอเป็น Monster Hunter World คราวนี้คุณมีชุดเกราะให้ใช้หลายแบบหลายสไตล์ ตั้งแต่เกราะหนาปิดทั้งตัว ชุดหนังเท่ ๆ หรือแม้กระทั่งชุดอาบังเปิดหน้าอกก็ยังมี เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาที่ค่อนข้างก้าวกระโดด และตอบโจทย์ให้กับแฟนเกมอย่างมากเลยทีเดียว

งานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ และให้อารมณ์ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Monster Hunter เป็นซีรี่ส์ที่ทำดนตรีประกอบออกมาได้ดีเกือบทุกภาค ทั้งดนตรีที่เปิดคลอไปในขณะที่คุณนั่งฟาร์มไอเท็ม ดนตรีที่บรรเลงขึ้นตอนคุณพบกับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ดนตรีพวกนี้ทำให้คุณรู้สึกมีอารมณ์ร่วมอย่างมากในการกระทำการใด ๆ ก็ตาม ใน Monster Hunter ดนตรีพวกนี้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก มากในชนิดที่น่าตกใจ เท้าความก่อนว่าผู้เขียนเป็นบุคคลประเภทที่ใส่ใจกับเสียงมาก ถ้าเกมไหนเสียงในเกมห่วยมาก ๆ ผู้เขียนจะเปิดเพลงจากด้านนอกแล้วเล่นไปด้วยแทน แต่ Monster Hunter World เป็นหนึ่งในเกมที่ให้ความสำคัญกับเสียงอย่างมาก จนคุณไม่อยากที่จะเปิดเสียงอื่น ๆ ฟังระหว่างเล่นเกม

นอกจากเรื่องความอลังการแล้ว ภาคนี้ระบบเสียงยังค่อนข้างมีประโยชน์ในการล่าเอามาก ๆ อย่างแรกคือมันบ่งบอกท่าของมอนสเตอร์บางตัวได้ บ่งบอกระดับความเจ็บปวดของมอนสเตอร์ได้ในบางครั้ง บ่งบอกจุดที่มอนสเตอร์เข้าหาเราในมุมอับได้จากเสียงเดิน และอื่น ๆ อีกมากมาย

https://www.youtube.com/watch?v=PFBXcl6FW6M

สรุป

Monster Hunter World ถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญของแฟรนไชส์ล่ามอนสเตอร์ ที่ใครหลายคนไม่เคยคาดคิดว่ามันจะมาถึง ณ จุดจุดนี้ได้ ทุกอย่างในเกมถูกพัฒนาให้เหมาะสมและร่วมสมัยยิ่งขึ้น แม้เสน่ห์เก่า ๆ ของมันจะถูดลดทอนลงไปบ้าง แต่ก็เพิ่มเติมมาด้วยความเข้าถึงง่าย เรียกได้ว่าภาคนี้คือภาคเปิดประตูให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่เคยสัมผัส Monster Hunter มาก่อน เข้ามาสัมผัสเสน่ห์แสนร้ายที่แท้จริงของมัน