อยู่ในช่วง Early Access มานานทีเดียวสำหรับเกมชีวิตบ้านไร่แสนสุข My Time At Portia ที่นำเสนอการใช้ชีวิตบ้านไร้ในลักษณะที่แตกต่างจากเกมอื่น ที่นิยมชูจุดเด่นด้านการปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ แต่ My Time At Portia นั้น นำเสนอไปทางด้าน “การสร้าง” แทน
ล่าสุดมีการประกาศว่าเกมกำลังจะเข้าสู่ช่วง Full Release ในวันนี้ ประกอบกับทาง GamingDose ได้รับเกมฉบับตัวเต็มจากผู้พัฒนามาเล่นก่อนคนอื่น วันนี้เราเลยหยิบ My Time At Portia มารีวิวให้คุณรู้ว่า มันเจ๋งอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า
ความสงบสุขที่เริ่มจากความไม่สงบสุข
เนื้อเรื่องของ My Time At Portia กล่าวถึงตัวเอกที่เดินทางไปที่เมือง Portia เมืองแสนสุขที่อยู่ติดชายฝั่งทะเล เพื่อรับมรดกจากคุณพ่อ ซึ่งมรดกที่คุณได้ก็คือบ้านหนึ่งหลัง พร้อมอุปกรณ์การสร้างที่พ่อคุณเคยใช้มาก่อน หน้าที่ของคุณคือดำเนินชีวิตอยู่ในเมืองไปเรื่อย ๆ คอยช่วยเหลือชาวเมืองในฐานะ “ผู้สร้าง” คอยจัดการปัญหาวุ่นวายใจต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง ฟังแล้วดูสงบดีใช่ไหม ?
อย่าเพิ่งตีว่าเกมนี้มีแต่ความสงบเรียบร้อย ในขณะที่คุณเล่น คุณจะเริ่มเข้าใจว่าเมือง Portia เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในอนาคตหลายร้อยปีข้างหน้า แต่เพราะสงครามเมื่อสามร้อยปีที่แล้วได้กวาดล้างเทคโนโลยีไปทั้งหมด ทำให้มนุษยชาติต้องเริ่มสร้างสรรค์เทคโนโลยีพวกนี้ใหม่ คุณจะเริ่มทราบความจริงในเรื่องนี้ก็ต่อเมื่อคุณพบกับคำอธิบายของไอเท็มบางชนิด (อธิบายประมาณว่าเป็นเทคโนโลยีจากโลกเก่า) และภารกิจบางภารกิจที่บอกใบ้คุณว่า Portia เคยเจริญมากกว่านี้ในอดีต
แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าเนื้อเรื่องที่เห็นตอนนี้ยังไม่ใช่เนื้อเรื่องทั้งหมดของเกม เพราะจากการให้สัมภาษณ์ผู้พัฒนา คาดว่าเกมจะมีการอัพเดตเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งอัพเดตหลัง ๆ น่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในโลกเก่าโดยตรง
ชีวิตดี ๆ ในหมู่บ้านดี ๆ
My Time At Portia เปิดโอกาสให้คุณใช้ชีวิตในโลกของความสงบสุขเต็มรูปแบบ ตัวเกมจะใช้ระบบวันเวลาเป็นตัวกำหนดว่าในแต่ละวันคุณทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง อีกทั้งยังมีระบบ Stamina ที่เป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมมากำหนดการกระทำในชีวิตประจำวันของคุณอีก ทำให้ในระหว่างการเล่น คุณจะต้องวางแผนในหัวอยู่ตลอดว่าจะทำอะไรดีในเวลานี้ อีกสองชั่วโมงจะทำอะไรดี พรุ่งนี้จะทำอะไรดี เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่คุณรับมาในฐานะ “นักสร้าง” ในเมือง Portia
ชีวิตประจำวันของคุณในเกมค่อนข้างจะหลากหลาย เริ่มตั้งแต่การหาวัตถุดิบมาสร้างสิ่งประดิษฐ์ด้วยการตัดไม้ ขุดแร่ เก็บพืชตามทาง, ต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเก็บวัตถุดิบ, ตกปลา, ไล่คุยกับชาวบ้านไปทั่ว etc. เรียกได้ว่าครอบคลุมมาก สำหรับเกมอินดี้ในระดับราคาประมาณนี้
นอกจากชีวิตประจำวันที่น่าสนใจแล้ว ระบบความสัมพันธ์กับ NPC ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ตัวละครในเกมนี้ค่อนข้างมีชีวิตชีวามาก ๆ แต่ละตัวละครจะมีชีวิตประจำวันของตัวเองที่กำหนดไว้ค่อนข้างชัดเจน บางคนจะวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า บางคนพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นที่ถนนหน้าบ้านตอนสาย บางคนเดินไปงานเลี้ยงน้ำชาของตัวละครอื่น ในจุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ
สิ่งที่ควรระวังจริง ๆ ของเกมคือในส่วนของเหมือง เหมืองในเกมนี้ไม่เหมือนเหมืองในเกมปลูกผักเกมอื่น เพราะมันเป็นเหมืองที่ฝัง “เทคโนโลยีเก่า” เอาไว้ ฉะนั้นในเหมืองเลยเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันตรายมากมาย สิ่งที่น่ารำคาญของเกมคือตัวเกมไม่เปิดโอกาสให้คุณตายแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อคุณตาย เกมจะโอเวอร์ทันที และคุณจะต้องเริ่มวันนั้นใหม่เลยทันที เพราะการเซฟในเกมนี้สามารถทำได้วิธีเดียวคือนอนบนเตียงเท่านั้น
งานภาพดี ๆ บรรยากาศก็ดี
ในเรื่องกราฟิกก็คงเรียกได้ว่า….น่าจะสอบผ่าน เพราะเกมอินดี้ส่วนมากเขาก็ไม่ได้สนใจในแง่กราฟิกอยู่แล้ว เขาน่าจะไปสนใจในเรื่องระบบการเล่นแทน แม้กราฟิกในเกมจะไม่สวยงามเท่าที่ควร ไม่มีการไล่แสงเงาที่ดี แต่ด้วยความที่เกมใช้ภาพสไตล์ออกการ์ตูนนิด ๆ ทำให้เรื่องที่เรากล่าวมาก่อนหน้านี้แทบจะไม่ใช่อุปสรรคในการเล่น อุปสรรคเพียงอย่างเดียวในเกมคือ “หน้าตาตัวละคร” ที่อาจจะไม่ตรงเสปกชาวไทยเท่าที่ควร เพราะจากที่สำรวจมา เห็นได้ว่าชายไทยอย่างเรา ๆ น่าจะชอบลายเส้นสไตล์เอเชียมากกว่า แต่เกมนี้หน้าตาตัวละครออกยุโรปเลย แต่ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้เล่น เพราะชอบหน้าตาสไตล์นี้อยู่แล้ว
บรรยากาศในเกมก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก เรียกได้ว่าเข้าเกมแล้วเดินออกมาจากบ้าน ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของบ้านไร่เลยทีเดียว และเมื่อคุณเดินสำรวจไปเรื่อย ๆ คุณจะพบกับสไตล์ที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ ถือได้ว่าเป็นการสร้างความอยากสำรวจให้กับผู้เล่นได้ดีทีเดียว สิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบมีเพียงอย่างเดียวคือผังเมืองออกแบบได้ค่อนข้างสับสน แต่พอใช้ไปจนชินก็ไม่มีปัญหาอะไร
My Time At Portia ได้คะแนนเต็มในเรื่องของเกมเน้นไปที่การใช้ชีวิต ตัวเกมไม่ได้เน้นแง่มุมที่โลกสวยมากเกินไปเหมือนเกมอื่น เพราะมันแฝงไปด้วยเนื้อหาบางอย่างที่บ่งบอกชัดเจนว่า ตัวละครในเกมเคยพบเจอกับสิ่งที่ยากลำบากในโลกนี้มาก่อน ในด้านเกมเพลย์ก็เรียกได้ว่าสอบผ่าน เรียกได้ว่าแทบไม่มีข้อเสียเลยด้วยซ้ำ เอาเป็นว่าถ้าคุณเหนื่อยกับงาน และต้องการจุดพักผ่อนที่ใกล้ตัวมากที่สุด เราการันตีเลยว่า My Time At Portia เป็นจุดพักให้คุณได้แน่นอน