เรียกได้ว่ากลายเป็นซีรีส์เกมบาสอันดับ 1 ของโลกไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ NBA 2K หลังจากที่ชาวบ้านชาวช่องเขาเริ่มตามไม่ทัน รวมถึง EA ที่เหมือนว่าจะไม่โฟกัสไปกับบาสแล้ว ซีรีส์เจ้ากรรมนี้ก็เลยตกเป็นอันดับหนึ่งไปโดยปริยาย
แต่อันดับที่ได้มาไม่ได้หมายความว่าตัวเกมจะดียอดเยี่ยมกระเทียมดอง เจ๋งจนต้องยกนิ้วให้เสียเมื่อไหร่ แต่จะพูดว่าได้มาอย่างไม่เป็นธรรมก็คงไม่ได้ เพราะจุดเด่นของเกมข้อใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ยังมี เพียงแต่ในภาคนี้ มันอาจไม่ได้พัฒนาไปมากมายขนาดนั้น
มาดูกันดีกว่าว่าจริง ๆ แล้วตำแหน่งเกมยอดแย่อันดับสองของ Steam (นับจากคำวิจารณ์ของผู้เล่น) และอันดับหนึ่งของเกมกีฬาบาสเกตบอล จะทำออกมาได้ดีขนาดไหน ไปดูกันกับรีวิว NBA 2K20
Story
ถ้าจะพูดกันตามตรง ข้อดีข้อใหญ่ของ NBA 2K ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป จะมากระจุกตรงที่เนื้อเรื่องในโหมด MyCareer กันเสียส่วนใหญ่ เพราะทาง 2k ไปจ้าง SpringHIll สตูดิโอที่เคยทำงานในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ด มาออกแบบเนื้อเรื่องให้ ส่งผลให้มันกลายเป็นเกมกีฬาที่หลายคนบอกว่า “เนื้อเรื่องดีที่สุด” เท่าที่เคยมีมา
แต่จากการสัมผัส บอกเลยว่าไม่อินเท่าไหร่ ถ้าถามว่ามันเจ๋งไหมมันก็เจ๋ง แต่ส่วนตัวไม่ได้ชอบการเล่นบาสเกตบอล เลยไม่สามารถสัมผัสความลุ่มลึกของเนื้อหาได้ครบถ้วน สิ่งเดียวที่สัมผัสได้คือความชัดเจนของเนื้อหา และการปลุกเร้าอารมณ์ที่ทำได้ดี เอาเป็นว่าเล่นเสร็จแล้วอยากไปซื้อลูกบาสที่ร้านอุปกรณ์ เอามาโยนเล่นโชว์สาวข้างบ้าน
เนื้อหาโดยรวมของภาคนี้ค่อนข้างคล้ายกับภาคที่แล้ว (ก็แหงสิ มันก็เกมบาสเหมือนกันนี่หว่า) แต่ในภาคนี้ เนื้อหาจะไปโฟกัสหลัก ๆ ในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันมากกว่า ทั้งในเรื่องอาการบาดเจ็บ ศีลธรรม กติกา และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเนื้อเรื่องในเกมจะดำเนินไปค่อนข้างยาวนาน ราวกับดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ชมขนาดนี้ถามว่ามีข้อเสียไหม คิดว่าคงไม่มี เพราะจังหวะการตัดต่อ หรืออนิเมชั่นการขยับของตัวละครก็ทำออกมาใช้ได้ เรื่องแมตช์การเล่น รวมถึงกติกาบังคับก็ออกแบบมาได้ดี ดีถึงขนาดว่าทำให้เรามีอารมณ์ร่วมกับเนื้อหาได้แม้กระทั่งในแมตช์ เอาเป็นว่าถ้าใครซื้อเกมนี้มา แล้วตัดสินใจไม่เล่นโหมดเนื้อเรื่อง บอกเลยว่าคุณพลาดอย่างมาก
Presentation
ในภาคนี้เป็นอีกหนึ่งภาค ที่ถูกปรับเปลี่ยนกราฟิกมากที่สุด โดยถ้าเปรียบเทียบกับภาคที่แล้ว จะเห็นว่า Texture ถูกปรับให้ละเอียดมากขึ้น เห็นหน้าตาตัวละคร และริ้วรอยอย่างชัดเจน จุดที่ภาคที่แล้วจะต้องเบลอ เช่นภาพที่ซูมเข้าหน้านักกีฬา (เบลอกลุ่มกองเชียร์ด้านหลัง) ในภาคนี้ไม่จำเป็นต้องเบลอแล้ว
แต่เรื่องที่จำเป็นจะต้องโฟกัสเป็นรองอย่างกลุ่ม TNT กับผู้บรรยายในสนามกลับไม่ถูกโฟกัสเท่าที่ควร จากที่เห็น พวกเขายังมีหน้าตาไม่ค่อยโอเค รวมถึงจังหวะขยับปากที่ชวนให้ขำ แถมบางทียังมีบั๊กเสียงขาด ๆ หาย ๆ ให้ฟังอยู่เป็นระยะ ๆ รวมถึงจังหวะการแพนกล้องบางทีก็มีอาการหน่วง ๆ ตามมา แม้ว่าคุณจะใช้คอมพิวเตอร์ที่แรงแค่ไหนก็ตาม
สิ่งที่ควรพูดถึงอีกอย่างคือ UI โดยรวมที่ภาคนี้ออกแบบใหม่ (ซึ่งจริง ๆ มันก็ออกแบบใหม่ทุกภาค…) และภาคนี้น่าจะเน้นความง่ายเป็นส่วนใหญ่ เพราะเมนูที่สำคัญ ๆ เช่นโหมดการเล่นนั้นเข้าถึงได้ง่ายมาก เรียกได้ว่าแค่เปิดใช้งาน Joystick แล้วกดปุ่ม Quick Play ครั้งเดียวบนหน้าจอ ก็สามารถเข้าเล่นเกมได้แล้ว
แต่ความง่ายก็แฝงมาด้วยความยาก เนื่องจาก UI มันถูกจำกัดจำนวน ทำให้โหมดอื่น ๆ ที่ผู้พัฒนาคิดว่าไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ ถูกย้ายไปกองรวมกันเกือบทั้งหมด รวมถึงหัวข้อการปรับ Option ในเกมด้วย ส่งผลให้การเข้าสู่ฟังก์ชั่นบางอย่างทำได้ยากกว่าเดิม ใครที่เพิ่งจะซื้อภาคนี้มาเล่นครั้งแรก และอยากจะสร้างนักบาสของตัวเองซักคน รับรองหาปุ่มสร้างกันตาแฉะแน่นอน
Gameplay
ส่วนตัวไม่ค่อยชำนาญเกมบาสเกตบอลเท่าไหร่ เพราะเอาเวลาไปเล่นเกมมวยปล้ำจากค่ายเดียวกัน แต่ก็พอเคยเล่นกับน้องชายมาบ้างในภาคที่แล้ว ภาคนี้การควบคุมพัฒนาขึ้นเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ไทม์มิ่งการเล่นที่มากกว่าเดิม เนื่องจากตัวเกมได้ปรับปรุงการเคลื่อนไหวของนักบาส รวมถึงระบบ Pro Stick ก็ใช้งานได้หลากหลายขึ้น เอาง่าย ๆ ว่าปกติการเล่นบาสเกตบอลมันก็เร็วอยู่แล้ว แต่การเพิ่มท่าทางเข้ามา หมายถึงเราต้องเพิ่มปุ่มที่กดเข้าไป ในระยะความเร็วเท่าเดิม ซึ่งมันเจ๋งมาก แต่มันก็ทำให้เล่นยากขึ้นด้วย (แต่สุดท้ายก็ส่ง- ส่ง-ชู๊ต เหมือนเดิม…)
2K เคลมตัวเองว่าพวกเขา Tracking การเคลื่อนไหว และวิธีเล่นมาจากนักบาสเกตบอลคนนั้นจริง ๆ ส่งผลให้ตัวเกมสมจริงขึ้นมาก ตรงนี้ผู้เขียนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เพราะเล่นแต่เกมไม่ได้ดูกีฬาบาสเกตบอลจริง ๆ มานานแล้ว แต่จากการสังเกต นักบาสที่ค่าสถานะสูง ๆ อย่างพวก Lebron James จะมีท่าทางแบบเฉพาะเจาะจง รวมถึงมีสกิลบางอย่างที่นักบาสคนอื่นไม่มี ถ้าถามว่าส่งผลมากขนาดไหน ในโหมดการเล่นคนเดียวมันไม่ได้ส่งผลอะไรมาก แต่ถ้าเผลอไปเจอใน MyTeam โดยที่เราไม่มีตัวเก่ง ๆ ในทีมซักตัว รับรองเละ
ซึ่งนี่เป็นเหตุผลที่เราพอจะเข้าใจ ว่าทำไมผู้เล่นถึงเกลียดไอ้ระบบเปิดซองการ์ดพวกนี้ค่อนข้างมาก และตีว่ามันเป็นระบบเทพทรู เนื่องจากกติกาบาสเกตบอลมันเล่นกันแบบรวดเร็ว ไม่เหมือนฟุตบอลที่ค่อนข้างเชื่องชา พอให้คิดเทคนิคอะไรออกได้ แต่สำหรับกีฬาบาสแล้ว การพลาดครั้งเดียวอาจโดนศัตรูทำแต้มได้เลย และไอ้เจ้านักบาสเก่ง ๆ ของศัตรูนี่แหละ คือเปอร์เซ็น Make Sure ว่าการชู๊ตจากจุดที่พลาดไปของเรา จะทำให้ลูกบอลลงห่วงแน่นอน
ข้อเสียในด้าน Gameplay คงไม่มี แต่ถ้าจะให้บ่นเรื่องบั๊กรับรองว่ายาว เริ่มตั้งแต่เสียงกระตุก เสียงหาย เสียงซ้อน จังหวะแพนกล้องมั่ว รวมถึงอยู่ ๆ เกมก็กระตุกคล้าย Ram เต็มอย่างไม่ทราบสาเหตุ ภาพไปไวกว่าเสียง แสงแฟลชคนถ่ายรูปนอกสนามค้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย เอาเป็นว่าอธิบายวันนี้ก็ไม่หมด ไอ้เราก็งงว่าทำไมพี่ ๆ 2K ถึงไม่ทยอยแก้ไขอะไรเลย แต่ก็ดันมานึกขึ้นได้ว่าเกมมวยปล้ำภาคล่าสุด ณ ปัจจุบันมันก็ยังมีบั๊กที่ไม่ถูกแก้เลยนี่หว่า นั่นทำให้ผู้เขียนปลง และยอม ๆ เล่นไปแบบบั๊กเต็มเกมนั่นแหละ (ฮา)
Performance
เป็นอีกครั้งที่ 2K ฝากความจันทร์ช็อคโลกไว้ในผลงานของพวกเขา ไม่รู้ว่าเพราะ Engine หรืออะไร ทำให้ตัวเกมมี Performance ที่ย่ำแย่มากขนาดนี้ พูดแบบตรง ๆ ตัวเกมก็ไม่ได้สวยงามอะไรขนาดนั้น คุณภาพของภาพแพ้เกมหลายเกมในปัจจุบัน แต่ Spec ที่พี่แกกินนี่อย่าให้พูด ต่ำกว่า 1050TI ไม่มีทางได้เกิด
ถ้าไปเล่นในคอมที่สเปกน้อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้น ? มันมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือตัวเกมจะมีลักษณะการรันที่แปลก ๆ อีกทั้งยังเกิดบั๊กเรื่องเสียง และไม่มีความเสถียรในการเล่น รวมถึงมีโอกาสหลุดออกจากเกม อย่างที่สองคือเกมกระตุกยับ ๆ แถมเกิดบั๊กอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นแสงสะท้อนจากสนามที่มั่วซั่ว จังหวะการทำมือทำไม้ของนักบาสที่เละเทะ เรียกได้ว่าถ้าใครมีการ์ดจอแย่ ๆ ก็อย่าพยายามที่จะเล่นเลย เอาเวลาไปเล่นเกมอื่นดีกว่า
ข้อดีข้อเดียวในด้าน Performance คือเกมมันถูกปรับปรุงมาสำหรับคอนโซลโดยเฉพาะ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็น PS4 หรือ Xbox one จากที่ดู ๆ มา ทุกอย่างดีกว่า PC แทบทุกด้าน ทั้งบั๊กที่มีบ้างแต่ไม่เยอะ (ส่วนมากเป็นบั๊กใหญ่ คือหลุดออกเกมไปเลย) เฟรมเรทที่มั่นคง กราฟิกสวยงามโดยที่ไม่ต้องปรับอะไร ถ้าจะนับให้เป็นแพลตฟอร์มหลักก็คงได้แหละ
ฉะนั้นถ้าใครอยากเล่นจริง ๆ แนะนำให้ซื้อในคอนโซล อย่างแรกปัญหามันน้อย อย่างที่สองคือคนเล่นออนไลน์มันมีตลอด แต่ถ้าอยากซื้อบน PC เราก็ไม่ได้ขัดศรัทธา ถ้ารับได้ก็ไม่เป็นไร
Conclude
สรุปแล้ว NBA 2K20 ออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะเกมบาสเกตบอลเกมหนึ่ง แต่ถ้าหากจะให้เทียบกับภาคที่แล้ว ก็คงต้องบอกตามตรงว่ามันพัฒนาค่อนข้างจะน้อยไป แต่ถ้าคุณเป็นแฟนเกมนี้อยู่แล้ว รวมถึงเป็นแฟนกีฬาบาสเกตบอลด้วย เราคิดว่าคุณต้องไม่พลาดเกมนี้