อีกหนึ่งหูฟังจาก Razer ในรุ่น BlackShark V2 ที่ตัวนี้กลับมาในรูปแบบราคาย่อมเยาแต่ยังอัดแน่นด้วยคุณภาพ
หลังจากที่เรารีวิวตัวหูฟัง BlackShark V2 ในรุ่นมาตรฐานกันไปแล้วและเราก็ยกให้เจ้า BlackShark V2 ตัวดังกล่าวเป็นหนึ่งในหูฟังที่เล่นเกมที่ดีที่สุดของปี 2020 ตอนนี้เรามีหูฟัง BlackShark V2 อีกรุ่นที่จะหยิบมารีวิวแนะนำกัน เจ้าตัวนี้คือหูฟัง Razer Blackshark V2 X นั่นเอง
ทาง Razer นั้นส่ง Razer Blackshark V2 ตัวธรรมดาและตัว X ออกวางจำหน่ายพร้อมกัน โดยวางตัว X ให้มีราคาถูกลงมากว่าตัวมาตรฐาน โดย X นั้นวางจำหน่ายในไทยในราคา 2290 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่า BlackShark ตัวปกติค่อนข้างมากเลยทีเดียว
แต่ในฝั่งการใช้งานจริงจะเป็นยังไงและ Spec รวมไปถึงความต่างระหว่าง BlackShark V2 กับ BlackShark V2 X มันอยู่ตรงไหน เราไปดูกันเลยฮะ
Spec พื้นฐานของ Razer Blackshark V2 X
- Driver : Razer TriForce ขนาด 50 มม.
- ไมค์โครโฟน : Razer HyperClear Cardioid (ถอดไม่ได้)
- ความถี่ : 12Hz – 28,000Hz
- การเชื่อมต่อ: แจ็ค 3.5 มม. มีตัว splitter แยกมาให้
- น้ำหนัก : 240 กรัม
- ความยาวสาย : 1.8 เมตร
Razer Blackshark V2 X มีหน้าตาภายนอกที่เหมือนกับ BlackShark V2 ตัวปกติครับผม ไม่ว่าจะเป็นส่วนของที่ครอบหูไปจนถึงส่วนการวางปุ่มและก้านยึด
ส่วนที่แตกต่างกันก็คือตัวไมค์ของ X นั้นจะไม่สามารถถอดเก็บได้และ Memory Foam ที่ใช้ในส่วนของที่ครอบหูนั้นจะมีเป็น Memory Foam เกรดธรรมดาไม่ใช่ตัว Ultra-soft FlowKnit แต่จากการทดสอบใช้งานโดยรวมแล้ว X ยังถือว่าใส่ได้สบายและมีน้ำหนักที่เบา (เบากว่าตัว BlackShark V2) ทำให้การนั่งเล่นเกมใช้งานเป็นเวลานาน ๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
โดยรวมแล้วหน้าตาของ X ก็ไม่ทิ้งห่างจากตัว BlackShark V2 ปกติมากเท่าไหร่และมีสัมผัสที่มีความ Premium เหมือนกัน เพียงแต่ตัวปกติจะดูหรูหราขึ้นไปอีกขั้นนั่นเองฮะ
แต่ส่วนที่แตกต่างที่สุดสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกก็คือส่วนของสายหูฟัง ตัว V2 นั้นใช้สายผ้าส่วนตัว X นั้นสายหูฟังจะเป็นพลาสติกสีเขียวแทน
ถึงหน้าตาภายนอกอาจจะดูไม่ต่างแต่เรื่องภายในนั้น X กับ V2 มาตรฐานต่างกันในหลายส่วน X จะไม่มีการ์ดเสียงแยกมาให้และตัว Driver ของหูฟังก็จะเป็น Driver รุ่น Razer TriForce ขนาด 50 มม. แบบธรรมดาในขณะที่ตัว V2 จะใช้ Driver Razer TriForce ขนาด 50 มม.ที่เป็นไทเทเนี่ยมครับ ด้านโปรแกรม THX Spactial Audio ก็จะถูกตัดทิ้งไปในรุ่น X และใช้การจำลองเสียงแบบ 7.1 ธรรมดาแทน
การหายไปของ Driver แบบไทเทเนี่ยมและ THX Spactial Audio เรียกได้ว่าส่งผลต่อคุณภาพเสียงของ X แบบชัดเจนเมื่อเทียบกับ V2 ในการใช้งานเล่นเกม FPS นั้นความชัดเจนในทิศทางเสียงในเกมอย่าง CS:GO หรือ Apex Legends ต่ำลงแบบชัดเจน แต่ตัวจำลอง 7.1 ของหูฟังก็ยังทำงานได้ดีครับ แยกทิศเสียงได้เป็นปกติหากเทียบกับหูฟังในระดับเดียวกัน ศัตรูจะมาจากด้านหน้าด้านหลังหรือเพื่อนร่วมทีมยืนอยู่ตรงไหนเจ้า Razer Blackshark V2 X ก็บอกเราได้ถูกต้องแม่นยำดี
ด้านการฟังเพลงนั้น BlackShark V2 X ก็ถือว่าทำเสียงออกมาได้แบบกลาง ๆ ในแบบหูฟังเกมมิ่งทั่วไป เสียงกลางและสูงนั้นมาแบบชัดเจน ในขณะที่เบสดูจะค่อนข้างเบาหากเราไม่ปรับเสียงของหูฟังให้ดังมากพอ โดยรวมแล้วเกมเมอร์ที่ชื่นชอบและจริงจังกับการฟังเพลงไปด้วยก็อาจจะ “ขัดใจ” กับ BlackShark V2 X ได้ฮะ
จุดที่ตัวหูฟังนี้ทำได้ดีอย่างจุดก็คือเรื่องของไมโครโฟน เสียงของไมค์นั้นมีความใสและชัดเจนดีกว่าหูฟังในระดับเดียวกัน เรียกได้ว่าระหว่างเล่นเกม Multipalyer ยิงกันสนั่นจอหรือชุลมุนในเกม Battle Royale เราก็ยังสามารถด่าเพื่อนร่วมทีมของเราได้ครบทุกถ้อยคำครับ น่าเสียดายที่ตัว BlackShark V2 X ไม่สามารถเลือกปรับ EQ ให้ไมค์ได้ แต่ด้วยราคาที่ต่างกันค่อนข้างเยอะก็ถือเป็นที่เข้าใจได้ที่สำหรับหูฟังตัวนี้
โดยรวมแล้ว Razer Blackshark V2 X ถือเป็นหูฟังที่ยอดเยี่ยมในตลาดหูฟังเกมมิ่งระดับ Entry หรือผู้เริ่มใช้งาน แม้มันอาจจะไม่ได้มีคุณภาพเสียงและไมค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการ แต่คุณภาพโดยรวมของเสียงจาก X ก็ถือว่าดีและอยู่ในระดับบน ๆ ของหูฟังเล่นเกม จุดเด่นจริง ๆ ของ V2 X น่าจะเป็นเรื่องความสบายในการสวมใส่ ตัววัสดุการออกแบบและน้ำหนักของ X นั้นเรียกได้ว่าสู้กับหูฟังราคาแพงได้ไม่ยาก
นี่ถือเป็นหูฟังที่โดดเด่นในเรื่องของความคุ้มค่า มากกว่าจะเน้นไปในเรื่องประสิทธิภาพระดับสูง เหมาะกับเกมเมอร์ที่ไม่จริงจังด้านคุณภาพเสียงแบบสุด ๆ แต่เน้นในเรื่องความสบายและความครบเครื่องในการใช้งาน
BlackShark V2 X ออกวางจำหน่ายแล้ววันนี้ตามตัวแทนจำหน่ายชื่อดังในไทยทั่วประเทศ ในราคา 2,290 บาท