ลดขนาดไม่ลดคุณภาพกับ Deathadder ในแบบเล็กลงเพื่อเอาใจเกมเมอร์มือเล็ก
ที่ผ่านมาเมาส์เกมมิ่งในชื่อ Deathadder ของค่าย Razer ถือเป็นเมาส์ในใจเกมเมอร์หลาย ๆ คน (แม้แต่ผู้เขียนเองก็ยังหยิบจับเอา Deathadder ตัวเก่ามาใช้อยู่เสมอ) ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่เข้ามือรวมไปถึงความแม่นยำในการเล็ง ก็ถือว่าไม่น่าแปลกใจที่ Deathadder จะเป็นตัวเลือกต้น ๆ ของเกมเมอร์
และดูเหมือนว่าทาง Razer เองก็เล็งเห็นและเข้าใจดีว่ายังมีผู้ใช้งานอีกกลุ่มที่อยากจะซื้อหา Deathadder มาใช้งาน ติดอยู่แค่เรื่องที่ตัวเมาส์อาจจะมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับเกมเมอร์ที่มีขนาดมือค่อนข้างเล็ก จึงนำไปสู่ผลงานชิ้นใหม่ของค่ายงูเขียวภายใต้ชื่อ Razer Deathadder V2 Mini กับการลดขนาดตัว Deathadder V2 ลงมา
Spec พื้นฐาน Razer Deathadder V2 Mini
น้ำหนัก 62 กรัม , สายเคเบิล Speedflex ความยาว 1.8 เมตร
เซนเซอร์แบบ Optical ปุ่มตั้งโปรแกรม 6 ปุ่ม ไฟ RGB แบบปรับแต่งได้
ราคา 1,890 บาท
เริ่มกันที่สัมผัสแรกกันก่อน Deathadder V2 Mini ถือว่าเป็นเมาส์ที่มีน้ำหนักเบา แต่การออกแบบรูปทรงยังคงเน้นการจับที่กระชับมือเหมือนเดิม หรือเกมเมอร์ที่ชอบจับเมาส์แบบ Claw Grip (สไตล์การจับเมาส์แบบยกนิ้วขึ้นมาเหมือนกรงเล็บ) เตือนไว้ก่อนว่าขนาดของเมาส์ตัวนี้ออกแบบมาสำหรับคนมือเล็กจริง ๆ ใครมือใหญ่แล้วชอบจับเมาส์แบบหนัก ๆ แน่น ๆ ตัวนี้ไม่ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน
สายเคเบิล Speedflex ก็เป็นเทคโนโลยีสายที่ออกแบบมาเพื่อความเบาและความยืดหยุ่น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตัวสายนั้นรบกวนการขยับของเมาส์แบบน้อยที่สุด ใครที่เคยใช้เมาส์ที่มีสายแข็ง ๆ แล้วไม่ได้ใช้ตัว Bungee น่าจะคุ้นเคยกันดีว่าระหว่างการเล่นเกมช่วงเดือด ๆ ขยับเมาส์แบบต่อเนื่องตัวสายอาจเกิดอาการพับงอหรือไปชนของบนโต๊ะในช่วงสำคัญ ๆ ซึ่งจากที่ลองทดสอบจริง ๆ แล้ว Speedflex ก็เหมือนเป็นชื่อที่ตั้งมาให้ล้ำ ๆ โดยรวมแล้วสายของ Deathadder V2 Mini ก็ถือว่าเบาแต่ก็ไม่ได้เห็นผลถึงขั้นไม่ต้องจัดสายเมาส์ระหว่างเล่นเกมแต่อย่างใด
จุดที่ทำให้ Deathadder V2 Mini แตกต่างจาก Deathadder V2 ทั่วไปนอกจากขนาดก็คือจำนวนปุ่มและค่า Dpi ของเมาส์ โดยตัว V2 Mini จะมีค่า Dpi สูงสุดอยู่ที่ 8,500 Dpi ส่วนตัว Sensor จะเป็น Optical Sensor ธรรมดา ต่างจากตัว Deathadder V2 ที่ใช้เป็น Focus+ Optical Sensor โดยรวมแล้วใครที่ไม่ได้ใช้ Dpi สูง ๆ ส่วนนี้ก็คงไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใดครับ
ด้านปุ่มนั้นตัว Deathadder V2 ปกติจะมีปุ่มเพิ่ม ลด Dpi โดยตรงแต่ตัว V2 Mini จะทำการตัดปุ่มเพิ่มลด Dpi ทิ้งไปเพื่อลดขนาดตัวเมาส์และเลือกใช้ปุ่มเปลี่ยน Dpi ในรูปแบบหมุนเปลี่ยนไปตาม Profile ที่เราตั้งไว้แทน
จุดเด่นอีกอย่างของตัว V2 Mini คือเทปพื้นผิวยึดเกาะพิเศษ ซึ่งเราสามารถติดแปะลงไปบนตัวเมาส์ ต้องบอกว่าตัวเทปนั้นถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การใช้งาน Deathadder V2 Mini มีความกระชับเข้ามือเหมาะกับการเล่นเกมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแถมยังช่วยดูดซับเหงื่ออีกด้วย เจ้าอุปกรณ์เสริมตัวนี้ทาง Razer ตั้งใจจะทำออกวางจำหน่ายแยกในราคา 10$ ด้วยครับ
สรุปแล้ว Deathadder V2 Mini ถือเป็นเมาส์ขนาดเล็กที่น่าประทับใจ เกมเมอร์มือเล็กอาจจะประสบปัญหาการตามหาเมาส์เกมมิ่งดี ๆ ที่เข้ามือ ซึ่ง Deathadder V2 Mini ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยน้ำหนักที่เบาแต่มาพร้อมกับลูกเล่นที่ครบถ้วน แม้ตัวลูกเล่นบางส่วนจะถูกตัดทอนออกไปหากเทียบกับตัว Deathadder V2 แบบปกติแต่ในการใช้งานเล่นเกมปกติแล้วส่วนที่ขาดหายไปของ Deathadder V2 Mini ก็ไม่ได้ส่งผลร้ายแรงอะไรมากนัก
จุดสังเกตอีกอย่างคือตัวดีไซส์ของเมาส์นั้นออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับมือขวามากกว่าเพราะการเว้าโค้งของเมาส์นั้นรับกับส่วนนิ้วโป้งมือขวาแบบพอดี
หากคุณกำลังมองหาเมาส์เล่นเกมไซส์เล็กแต่ Spec ครบถ้วนและราคาไม่แรงมาก Deathadder V2 Mini ถือว่าตอบโจทย์ครบถ้วนและเป็นตัวเลือกที่ดีอีกหนึ่งอันครับ
ใครที่สนใจสามารถเข้าไปหาซื้อกันได้ตั้งแต่วันนี้ตามตัวแทนจำหน่ายชื่อดังในไทยทั่วประเทศครับ