BY Aisoon Srikum
1 Oct 20 6:21 pm

Review: Serious Sam 4 เกมเดินถอยหลังยิง ที่เนื้อเรื่องเองก็ถอยหลังตาม!

64 Views

เปิดพาดหัวมาซะขนาดนี้อย่าเพิ่งนึกว่าเราจะสับเกมซะไม่มีชิ้นดี แต่เพราะเนื้อเรื่องของ Serious Sam 4 มันคือการถอยหลังกลับไปอีกครั้ง โดยเป็นเนื้อเรื่องก่อนภาค 3 BFE ซะอีก! และในภาคนี้เราจะได้เห็นพี่แซมเครียดของเรา ได้เจอ ได้สนทนากับคนอื่น ๆ กันบ้างแล้ว แต่มันจะยังเป็นเกมที่ดีอยู่หรือไม่ วันนี้ขอเชิญพบกับ Review Serious Sam 4

Story

โลกมนุษย์ถูกรุกรานโดยกองกำลังปีศาจนับพันนับหมื่นจากสิ่งมีชีวิตปริศนาที่เรียกว่า Mental และอย่างที่บอกไป นี่คือเหตุการณ์ก่อนภาค 3 BFE ก่อนที่แซมจะต้องมุ่งหน้าสู่อียิปต์และใช้ Time-Lock ย้อนเวลา นี่คือเรื่องราวของแซมและกองกำลังต่อต้านกลุ่มสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลก และสถานที่ดำเนินเรื่องราวส่วนมากจะอยู่ที่ประเทศอิตาลี นี่คือเนื้อหาช่วงเริ่มต้นก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตใน Serious Sam ภาคก่อนหน้าอย่างที่เราเคยได้เห็นไป

หลายคนอาจจะเบื่อกับมุกเกมภาคใหม่แต่เนื้อเรื่องดันทำย้อนหลัง (เหมือนเช่น Red Dead Redemption 2 ที่เนื้อเรื่องเป็นช่วงเหตุการณ์ก่อนภาคแรก) ซึ่ง Serious Sam ที่เป็นเกมเกรดบีอยู่แล้ว การจะทำอะไรแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังขา เพราะถึงอย่างไรแฟน ๆ ก็แทบจะไม่สนเนื้อเรื่องกันอยู่แล้ว

และถึงแม้ว่าภาคนี้จะมีเนื้อเรื่องที่สนใจมากกว่าภาคไหน ๆ แต่ก็ต้องยอมรับกันตรง ๆ อยู่ดีว่า มันก็ไม่ใช่สาเหตุหรือปัจจัยหลักที่คุณคิดจะเข้าไปกด Serious Sam มาเล่น เพราะสุดท้ายมันก็ยังเต็มไปด้วยความเบาหวิว ความกาว ความตลกหน้าตายแบบที่ Serious Sam เคยทำมา จะต่างก็ตรงคราวนี้ เรามีหลากหลายตัวละครมาร่วมผจญภัยไปด้วย ไม่เหงาเหมือนภาคก่อน ๆ อีกแล้วที่มาแค่เสียงตามสายวิทยุ

สำหรับคนที่เล่นเกมมาเยอะ อาจจะเดาเนื้อเรื่องกันได้ง่าย ๆ และถ้าใครเป็นแฟน Serious Sam เล่นมาเกือบหมดทุกภาคก็จะเดาตอนจบได้แบบไม่ยากเย็นนัก จะบอกว่าเนื้อเรื่องนี้ ใส่มาก็ดี เพลิน ๆ ดี แต่จะไม่ใส่มาก็ได้อีก แล้วแต่คนเล่นเลยว่าจะเลือกเสพ หรือ Skip ข้ามมันไปแล้วไปเอามันกับการยิงแหลกอย่างเดียว

Presentation

ฉากหลังของเกมภาคนี้คือประเทศอิตาลี ซึ่งเราก็จะไปได้หลายที่หน่อย แต่ในเกมก็ไม่ได้ระบุชัดนักว่าเราไปเมืองอะไรบ้าง แต่สถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างนั้น ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร แม้บางฉากจะดูเกินจริง และเป็นไปไม่ได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร

ตัวเกมในภาคนี้ หลัก ๆ แล้วยังคงเดินหน้าเป็นเส้นตรงอยู่ดี แต่เหมือนทีมผู้พัฒนาเขาจะนึกสนุก อยากออกแบบฉากกว้าง ๆ ทำให้มันเป็นกึ่ง ๆ Open World บ้าง ผู้เล่นจะคิดว่าเกมภาคนี้ดูมีแผนที่ใหญ่ขึ้น แต่จริง ๆ แล้วเปล่าเลย การมีขนาดแผนที่ใหญ่ขึ้นกลับไม่ช่วยให้เกมดูสนุกขึ้น เพราะบางฉากมันใหญ่แต่ขนาด แต่เข้าไปวิ่งดู ไม่มีแม้แต่ไอเทมให้เก็บหรือศัตรูเกิด ก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะขยายอาณาเขตแผนที่ หรือซอกเล็กซอกน้อยขึ้นมาทำไม

และอีกสิ่งที่หลายคนน่าจะชอบ คือการจับเอาเหล่าสัตว์ประหลาดมาดีไซน์ใหม่ให้เหมาะสมกับกราฟิกยุคปัจจุบัน แต่ละตัวนี่ออกแบบมาได้น่าเกลียดน่ากลัวดีมาก แต่ก็ไม่มีตัวไหนที่ดูน่าขยะแขยง หรือแหวะจนแฟนเกมรับไม่ได้ ต้องบอกว่าเขาดีไซน์มันให้ออกมาดูทรงพลัง เหมาะกับเกมดี แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ดาหน้าเข้ามาให้พี่แซมของเรากระทืบยับทุกตัวเท่านั้น

ในด้านอาวุธที่ภาคนี้มีทั้งแบบใหม่และแบบเก่าผสม ๆ กันมา แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาเป็นของใหม่จริง ๆ ในภาคนี้คือ Gadget หรืออุปกรณ์ตัวช่วยต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ร่างปลอมของแซมออกไปป่วนศัตรู การใช้ยาโด๊ปเพิ่มพลัง การใช้ยาสโลว์เวลา และอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งเป็นของใหม่ที่เราไม่ได้เห็นจากเกมภาคก่อน ๆ แต่ถามว่าสุดท้ายแล้วได้ใช้ไหม ? ตอบเลยว่าแทบไม่ได้ใช้ครับ เพราะกระสุนยิงก็จบแล้ว ตัวช่วยอะไรพวกนี้ ถ้าไม่ใช่การง้างรอสู้บอสก็แทบไม่ได้กดใช้เลย

ในบางฉากเราจะได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ อย่างเช่นการขี่มอเตอร์ไซค์กินลมชมวิว หรือแม้แต่การขับรถไถนาในการไล่บดเหล่าเอเลี่ยนจนทุ่งหญ้ากลายเป็นทุ่งข้าวสีแดงฉาน เรียกได้ว่าภาคนี้ จัดเต็มที่สุดแล้วในเรื่องของความเพี้ยน.. เพี้ยนแบบไม่เกรงใจภาคก่อนหน้ากันเลยสักนิด

และที่สำคัญภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่ถาโถมศัตรูมาให้เรายิงแบบมืดฟ้ามัวดินกันที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าจัดเต็ม ครบทุกประเภท ศัตรูไอคอนของเกมอย่าง Beheaded Kamikaze หรือจอมระเบิดไร้หัวที่ร้อง อ๊าาาา ในภาคนี้ก็ยังคงกลับมา แถมมีบางฉากที่มาพร้อมกันเป็นหมู่คณะ ถ้าไม่รีบยิงให้ตายก็เตรียมโดนพวกมันนี่แหละระเบิดพลีชีพตาย

นอกจากนั้นด้วยความที่มีตัวละครในภาคนี้เยอะ เราจะได้เห็นความ Bad Ass ของแซมแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว ไม่ผิดหวัง รวมไปถึงยังมีซีนร่วมกับตัวละครอื่นมากมาย มีทั้งมุกตลกโปกฮา ทั้งความเท่ ปนความกวนโอ๊ย และบอกไว้นิดนึงว่าในภาคนี้จะมีฉากหนึ่งที่เราจะได้ขึ้นขี่หุ่นยนต์แบบโคตรเท่ โคตรมัน ถือว่าสุดมากสำหรับภาคนี้ จะมีน่าเสียดายอยู่บ้างก็ตรงการออกแบบแผนที่หรือพื้นที่บางส่วนมาได้แย่ไปหน่อย เหมือนเอาใหญ่ไว้ก่อน ไม่เน้นรายละเอียด และอีกข้อหนึ่งคือ อย่าหาเหตุผลใด ๆ ในการเล่น เพราะมันกาวสุดอวกาศมาก ๆ

ส่วนเรื่องความยาวของเกมจะมีความยาวอยู่ที่ 8-9 ชั่วโมง เทียบกับราคาแล้ว ก็ถือว่าสมราคาอยู่เหมือนกัน ไม่แย่อะไร

Gameplay

หากคุณคิดว่าเกมเพลย์มีแค่การถอยหลังยิงแหลกแจกกระสุน นั่นเท่ากับว่า คุณคิด…ถูกแล้วครับ

ใน Serious Sam 4 นั้น เกมเพลย์หลักของมันคือการถอยหลังยิงเพื่อเคลียร์ศัตรู ผ่านด่าน ไปเจอบอส ฆ่ามัน แล้วก็กลับสู่วังวนเดิมคือเคลียร์ศัตรู ผ่านด่าน เจอบอส ฆ่ามัน และไปต่อเรื่อย ๆ จนจบเกม

แต่สิ่งหนึ่งที่ Serious Sam ไม่เคยทำมาก่อน และเริ่มมามีในภาคนี้ก็คือระบบ Side Mission หรือภารกิจเสริม ซึ่งเป็นทางเลือกที่เราจะทำ หรือไม่ทำก็ได้ – และมันเลือกง่ายถึงขั้นที่ว่า เมื่อมี Side Mission ปรากฎขึ้น เกมจะมีทางเดินแบบแยกสองทางให้เราเลือก เช่น ถ้าเราเดินตรงต่อไป จะเป็นการมุ่งหน้าไปทำภารกิจหลักต่อ ดำเนินตามเนื้อเรื่องต่อไป แต่ถ้าอยากทำภารกิจเสริมก็จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เข้าห้องอะไรก็ว่ากันไป

ข้อดีของการทำ Side Mission นี้คือ เราจะปลดล็อคอาวุธ หรือ Gadget แบบใหม่ได้เร็วกว่าไปเล่นตามเนื้อเรื่องหลัก และในจุดจบของภารกิจย่อยอาจจะมีกระสุน ยา และของเติมพลังอีกมากมายแบบเหลือเฟือให้เราด้วย แถม Side Mission นี่แหละ ที่อาจจะพาเราให้เราไปเจอความกาวบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพล็อต หรือตัวละคร ใครที่ชอบอะไรบ้า ๆ บอ ๆ Side Mission เกมนี้จะตอบโจทย์คุณได้แน่นอน แต่ถ้าไม่ ข้ามไปเลยก็ได้ เพราะของรางวัล นอกจาก Gadget ที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วก็คือ Achievement ซึ่งถ้าคุณไม่สน Achievement อีก ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำ Side Mission เลย

และแน่นอนว่าเราไม่ได้ประชดประชันว่ามันคือเกมถอยหลังยิง เพราะผู้พัฒนาเองก็รู้ตัวว่าโดนแซวแบบนี้มานานแล้ว ภาคนี้เขาเลยโปรโมทตัวเองว่าเป็นเกมถอยหลังยิงมันซะเลย และในเกมเพลย์จริงคุณก็ต้องถอยหลังกันแบบยาว ๆ ในบางฉาก เพราะเดินหน้าไป มีแต่ตายกับตายเท่านั้น

ในภาคนี้คุณจะเจอกองทัพศัตรูที่ใช้คำว่า “มืดฟ้ามัวดิน” ก็ได้ ไม่เกินเลย มันจะ Spawn ศัตรูแบบมหากาพย์มาถล่มคุณแบบไม่ยั้ง ให้คุณต้องงัดทุกอย่างที่มีออกมาสู้ ต้องบอกว่าตอนเล่นนี่ บางฉากต้องจริงจังระดับเดียวกับ DOOM Eternal เลย แต่จะบอกว่าเกมนี้มันพยายามจะเป็น DOOM Eternal ก็ได้เหมือนกัน เพราะเขาออกแบบศัตรูมาหลากหลายมาก มีทั้งบินบนฟ้า อยู่บนอากาศ ตัวใหญ่วิ่งเร็ว ภูติปีศาจย้ายร่างไปมา คือถ้าคุณใช้ปืนประเภทเดียวตลอดคุณไม่อาจจะเก็บศัตรูทั้งหมดได้ ต้องพลิกเอาอาวุธให้ถูกชนิดมาใช้ และเพราะมันมาแบบมืดฟ้ามัวดินนี่แหละ การเดินหน้ายิงเกมนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย และการถอยหลังยิงจึงเป็นคำตอบ

แน่นอนว่ากองทัพศัตรูที่เยอะขนาดนี้ ภาคนี้เลยมีระบบการเล่นแบบใหม่เข้ามา นั่นคือการอัพสกิล แต่..อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะเป็นเกมแบบ RPG ยิงเก็บ EXP อะไรแบบนั้น ไม่ใช่ครับ แม้ว่าการยิงศัตรูจะมีบางฉากที่ขึ้นเป็นเลขดาเมจ แต่เกมนี้ก็ไม่มีความเป็น RPG สักเท่าไร คุณจะงัดปืนพกมายิงใส่ศัตรูบิ๊กเบิ้มก็ได้ ถ้าสดพอ แต่การอัพสกิลเกมนี้จะทำให้แซมของเรา มีความสามารถใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ตั้งแต่การจับศัตรูฆ่าระยะประชิดแล้วได้เลือดเพิ่ม ฆ่าศัตรูแล้วได้กระสุน ได้ยาคืน ไปจนถึงขึ้นไปขี่เหล่าปีศาจได้ อันนี้สุดยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เพราะเกมเพลย์หลัก ๆ มันมีแค่นี้ ใครที่ไม่เอ็นจอยกับการยิงฝูงสัตว์ประหลาดนับร้อยนับพัน คุณอาจจะเบื่อมันตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เล่นกันเลยทีเดียว แถมในบางฉาก เล่นไปผมก็สงสัยไปเหมือนกันว่า สุ่มศัตรูมาเยอะขนาดนี้ นี่เอาฮาหรือเอาจริง ? เพราะมันเยอะจนถึงขั้นที่ว่าบางฉาก กระสุนไม่พอยิง และผมต้องปรับความยากลงให้มันง่ายขึ้น ถ้าเล่นระดับปกติหรือระดับยาก น่าจะหัวไหม้ได้ที่กว่าจะผ่านได้ ดังนั้นมือใหม่ที่ไม่ค่อยเจนจัดการเล่นเกมยิง ๆ จะกดโหมดง่ายสุดไปเลยก็ได้ ไม่ถือว่าแย่ เพราะต่อให้เป็นโหมดง่ายสุด คุณก็จะยังเจอกองทัพศัตรูระดับมืดฟ้ามัวดินอยู่ดี

ข้อเสียหนึ่งที่น่าเสียดาย น่าจะเกิดจากความเท่ของแซมเอง เพราะจากเกมภาคนี้ทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า Doom Guy มันจะเป็นคนเก่งจริง อย่าง Doom Guy เนี่ย ลงนรก ตบอสูร ตบปีศาจนับร้อยด้วยตัวคนเดียว แต่ Serious Sam นี่เขาฆ่าเป็นพัน หรือถ้าจะให้นับทั้งเกมภาคนี้ อาจจะฆ่าไปหลักแสนถึงหลักล้านตัวก็ได้ บางทีก็นึกสงสัยว่าถ้ามันมีสักอีเวนท์นึงที่ดูมกายกับซีเรียส แซม มาเจอกัน ปีศาจหรือเอเลี่ยนในจักรวาลนี้อาจสูญพันธุ์ไปเลยก็ได้

และเพราะข้อเสียอย่างที่ว่ามา ทำให้บางที มีการเปิดตัวศัตรูใหม่ที่ดูเหมือนจะท้าทาย น่ากลัว น่าเกรงขาม แต่สุดท้ายเราก็ชนะ เพียงแค่เดินยิง วิ่งยิงมั่ว ๆ เท่านั้น น่าเสียดายการออกแบบศัตรูจริง ๆ..

Performance

ข้อเสียอีกข้อคือ Performance ของเกมที่ในช่วงวันสองวันแรกที่เกมปล่อยนั้น มีปัญหาสุด ๆ ทั้งในเรื่องของการตั้งค่า Default ที่ทำให้เกมแสดงผลกราฟิกออกมาได้เลวร้ายมาก ปล่อยให้ผู้เล่นต้องมานั่งแก้กันเองว่าต้องตั้งค่ายังไง

แต่สิ่งที่หนักกว่านั้นจริง ๆ คือการ Optimize ที่ยังไม่ดีพอ ในช่วงแรกที่เกมเปิดตัวนั้น บางฉากก็ลื่นไหล วิ่งยิงกันสนุกสนาน แต่บางฉากกลับเฟรมเรทตกไม่มีสาเหตุ แม้จะรีเซฟเกมใหม่ ออกเข้าเกมใหม่ก็ยังไม่หาย

แต่ไม่นานก็มีแพทช์แก้ออกมา แม้จะยังไม่สมบูรณ์มาก แต่ก็ยังดีกว่าช่วงเกมปล่อย Day One และใครที่จะเล่นเกมนี้ก็อาจจะต้องมีสเปคเครื่องในระดับกลาง เพราะการเรนเดอร์ศัตรูนับร้อยนับพันในจอเดียว บางฉากนี่คอมพิวเตอร์ใครไม่แรงพอน่าจะงานหนัก และนี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเกมนี้ยังไม่ลงเครื่องคอนโซล เพราะคาดว่าตัวเกมอาจโดดไปลง PS5 ด้วยเลยในปีหน้า

และทีมงานน่าจะต้องปรับแก้ตัวเกมกันอีกสักพักหนึ่งถึงจะออกมาเวิร์ค

Serious Sam 4 คือสุดยอดเกมเดินถอยหลังยิงสุดมัน น่าเสียดายตรงที่เกมหลักก็ถอยหลังยิงอยู่แล้ว เนื้อเรื่องยังถอยย้อนไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชาติไหนเราจะเจอ Mental กันแน่ และสำหรับ Serious Sam 4 หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ชอบถอดสมองยิง หรือหาเกมคลายเครียดอยู่ เกมนี้แหละเอ็นจอยมาก แต่ถ้าคุณจะหวังเนื้อเรื่องชั้นดี ระบบยิงที่หลากหลาย ก็อาจจะไม่ชอบมันสักเท่าไรนัก

Score 7/10

Aisoon Srikum

Back to top