ภาคต่อของเกมตระกูลพลซุ่มยิงที่งานนี้จะได้ลงไปเกลือกกลิ้งกับสนามเด็กเล่นแห่งใหม่แดนไกลอย่างแอฟริกา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อ Sniper Elite เกมตระกูลพลซุ่มยิงสุดหินที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2005 จะดำเนินเนื้อหาและฝ่าดงความตายมาได้ถึงในปัจจุบันด้วยการออกเกม Sniper Elite 3 ออกมาในช่วงปลายเดือนก่อนซึ่งทาง GamingDose ก็ไม่พลาดที่จะหยิบมาบอกเล่ากันว่าตัวเกมเนื้อแท้นั้นเป็นอย่างไร มีอะไรบ้างและน่าเล่นมากน้อยขนาดไหน ถึงแม้ว่าจะช้ากันไปเกือบเดือนด้วยสาเหตุที่ว่าเว็บไซต์มีการปิดปรับปรุงประมาณครึ่งเดือน แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มานะครับ แหะๆ ( หัวเราะกลบเกลื่อน )
ในระหว่างเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง พลซุ่มยิงเป็นหนึ่งในเพชรฆาตนิรนามที่มีบทบาทสำคัญในการตัดตอนและริดรอนกองกำลังฝั่งตรงข้ามได้เป็นอย่างดีด้วยการลอบสังหารตัวละครสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยการโจมตีระยะไกล แต่น้อยคนนักที่จะได้ถูกเล่าขานด้วยเนื้อแท้ของสายงานที่จะต้องอยู่กับการไม่มีตัวตนต่างจากนักบินเครื่องบินขับไล่หรือผู้บัญชาการทหารที่มีบทบาทและการปรากฏตัวมากกว่าหลายเท่าตัว ซึ่งดูเหมือนว่าทาง Rebellion จะตระหนักดีถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงได้จับมาทำเป็นวิดีโอเกมส์ให้เราได้เล่นกันถึง 3 ภาคซึ่งผมเองก็สัมผัสมาแล้วทุกภาคด้วยความชื่นชอบในพลซุ่มยิงเป็นการส่วนตัวนั่นเอง ทำให้ผมได้รับหน้าที่ในการ review เกมนี้ไปโดยปริยาย
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่แอฟริกาเหนือ
ใช่แล้วครับ ภาคนี้เปลี่ยนสนามเด็กเล่นจากเดิมในเบอร์ลินมาเป็นภูมิประเทศบริเวณแถบแอฟริกาเหนือ เนื้อหาในเกมภาคนี้จะอยู่ในช่วงระหว่าง Sniper Elite และ Sniper Elite V2 ประดุจดั่งว่าเป็น Sniper Elite 1.5 โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็นเพชรฆาตหน้าหยกร้อยโท Karl Fairburne อีกครั้ง ภาคนี้เราจะต้องเดินทางไปเป็นแนวหน้าของสมรภูมิด้วยการแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่และทำการสังหารหรือดำเนินภารกิจในการตัดตอนกองกำลังทะเลทราย Afrika Korps ของเยอรมันไม่ว่าจะเป็นการปลิดชีพพลทหารคนสำคัญผู้ครอบครองข่าวสารที่อาจทำให้เกิดอันตรายกับฝ่ายสัมพันธมิตรหรือการลอบเข้าพื้นที่เพื่อทำการระเบิดปืนโจมตีข้าศึกระยะไกลเพื่อเป็นการเคลียร์พื้นที่ให้แก่หน่วยสนับสนุนทางฟากฟ้าและเป็นการเปิดฉากก่อนจะส่งทหารราบเข้าพื้นที่
คงความเป็นเครื่องจำลองการทำลายอวัยวะภายใน
ตัวเกมยังดำรงไว้ซึ่งส่วนประกอบที่ได้รับการพูดถึงจาก Sniper Elite V2 นั่นคือการมองเห็นอวัยวะภายในของเหยื่อสงครามผู้น่าสงสาร หากใครไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนอาจจะนึกภาพไม่ออก ในเกมนี้เมื่อผู้เล่นได้ทำการลั่นกระสุนสังหารออกไปแล้วนานตัวเกมจะตัดเข้าสู่ฉากการสโลว์โมชั่นเพื่อให้เห็นการเดินทางของกระสุนนัดดังกล่าววิ่งแหวกอากาศความเร็วสุดขั้วนรกไปทิ่มทะลุร่างของเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นการระเบิดกระโหลกให้แหลกลานราวกับเป็นเต้าหู้ ยิงตัดขั้วหัวใจแล้วไปทะลุปอดหรือแม้กระทั่งการยิงระเบิดลูกอัณฑะกล่องแห่งความเป็นชายก็ยังได้ ซึ่งนั่นเป็นระบบที่หลายคนถูกอกถูกใจในภาคที่แล้วนั่นเองครับ
ซึ่งระบบดังกล่าวในภาคนี้มีส่วนเกี่ยวข้องถึงการให้คะแนนและระบบเลเวลในเกม ใช่แล้วครับ ภาคนี้คุณสามารถเก็บเลเวลเพื่อสั่งสมประสบการณ์และปลดล็อคการปรับแต่งต่างๆภายในเกมได้ด้วย ภาคนี้คุณสามารถที่จะปรับแต่งชุด Loadout ได้อย่างมีอิสระมากยิ่งขึ้นว่าจะทำการใช้ปืนสไนเปอร์กระบอกใด จะเปลี่ยนพานท้ายหรือเป้าส่องระยะไกลในภาคนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน นับว่าเป็นระบบใหม่ในภาคนี้ที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้เลือกอาวุธข้างกายที่เหมาะสมกับแนวการเล่น เช่นหากคุณเป็นนักซุ่มที่ชอบการเล่นจิตวิทยากับศัตรูให้วุ่นวายไปกับการตามหาตัวคุณที่อยู่แสนไกล คุณก็ต้องเลือกปืนที่มีความแม่นยำและพลังสังหารรุนแรงแต่มีข้อเสียในเรื่องของระยะเวลาการยิงต่อเนื่องและจำนวนกระสุนที่ลดน้อยถอยลงไปตามลำดับ หรือหากว่าชอบบู๊ๆยิงมันส์สนั่นเมืองก็อาจจะต้องไปเลือกปืนซุ่มยิงแบบกึ่งอัตโนมัติที่มีจำนวนกระสุนเยอะกว่า มีความคล่องตัวมากกว่าแต่ก็อาจจะต้องใช้กระสุนหลายนัดสำหรับการปลิดชีพศัตรูและยานเกราะที่หมายมั่นว่าจะลากคุณลงนรก เรียกได้ว่ารองรับผู้เล่นที่หลากหลายมากขึ้นก็คงได้ครับ
โดยการปรับแต่งส่วนต่างๆของตัวละครและอาวุธปืนนั้นจะต้องมาจากการปลดล็อคครับ ซึ่งการปลดล็อคนั้นอ้างอิงจากแนวทางการเล่นของคุณครับว่าคุณเป็นพลซุ่มยิงที่แนบเนียนได้มากขนาดไหน หากคุณสามารถลอบฆ่าทหารมากมายในเกมได้แบบไม่มีใครสงสัยหรือระแคะระคายกับการมาถึงของคุณเลยก็จะได้ค่าประสบการณ์และแต้มปลดล็อคที่มากขึ้น แต่หากคุณเป็นสายบู๊ที่อยู่ผิดหน่วยและดันทะลึ่งบ้องไปเดินไล่ยิง คุณก็จะได้คะแนนที่ลดน้อยลงไปหรืออาจไม่รอดชีวิตจนจบด่านก็เป็นได้
สมรภูมิรบที่หลากหลาย
หากใครยังจำ Sniper Elite ทั้ง 2 ภาคก่อนหน้าได้ก็คงจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับบรรยากาศในเกมที่จะมีแต่ความสกปรก อึมครึม มืดหม่น แต่ในภาคนี้คุณจะได้ลงผจญภัยทั้งในพื้นที่แบบหุบเขา , การฝ่าคุกลับยามค่ำคืนหรือแม้กระทั่งโอเอซิสอย่างที่เห็นในรูปด้านบน ในภาคนี้จะมีแผนที่ให้คุณเล่นทั้งหมด 8 ฉากด้วยกันโดยเกมการเล่นในภาคนี้จะเปลี่ยนไปจากเดิมที่มีเส้นทางที่เกมบังคับให้คุณเดินไปและต้องพบกับความท้าทายชนิดที่ต้องร้องเอี้ยยยยแล้วไปนอนคิดวิธีผ่านซักหนึ่งคืน มาเป็นแผนที่อันเปิดกว้างราวกับสนามเด็กเล่นให้คุณได้เดินวนสอดส่องเส้นทางอันกว้างใหญ่หรือค้นหาไอเท็มและภารกิจเสริมยิบย่อยที่ปรากฏภายในฉากก่อนจะเข้าไปทำภารกิจหลักให้เสร็จสมบูรณ์และถอนกำลังกลับออกไป
ถ้าจะให้ฟันธงเลยว่าระบบแผนที่แบบใหม่ในภาคนี้ดีมั้ยก็ต้องบอกว่ามันมีข้อแตกต่างในแบบของมันครับ แบบเก่าที่บังคับเส้นทางให้ผู้เล่นได้เดินไปตามที่ทีมพัฒนาต้องการสิ่งที่เราจะได้รับก็คืออารมณ์ร่วมที่มากขึ้นเพราะมีการวางสคริปท์ของศัตรูได้ดีกว่าแต่ก็ให้อิสระน้อยกว่าซึ่งหลายคนอาจจะไม่ชอบได้ แต่ในภาคนี้ด้วยความที่มันเปิดกว้างมากขึ้นความยากในการทำภารกิจก็จะลดลงตามลำดับจนถึงระดับเรียกได้ว่าแทบจะขาดความท้าทายเลยก็เป็นได้ ( ยกเว้นเสียแต่ว่าเล่นกับศัตรูหูทิพย์ตาปีศาจในระดับยากสุด ) แต่ก็ได้มาซึ่งอิสระที่มากขึ้นเช่นกัน
ศัตรูที่ยังคงเหมือนเดิม
หากใครเคยเล่นเกมนี้มาก่อนจะรู้ดีว่าตัวละครฝั่งศัตรูในเกมมี waypoint การเดินที่ซ้ำซากและขาดความท้าทายอยู่บ้างและในภาคนี้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิมอย่างที่เคยเป็นมา ศัตรูภายในเกมจะมีอิริยาบทที่แตกต่างกันไป ทหารชั้นผู้น้อยก็ต้องเดินตรวจตรา , สอดส่องระยะไกลหรือพักเวรกันรอบกองไฟตามปกติ ส่วนตัวละครระดับหัวหน้าก็เหมือนสวรรค์บันดาลให้มันต้องถูกฆ่าหมกเตนท์หรือห้องส่วนตัวอย่างช่วยไม่ได้ น่าแปลกที่ว่าในภาคนี้การที่ตัวเกมวาง waypoint ให้ศัตรูต้องมาเดินสวนทางกันเพื่อเพิ่มความยากหรือการเฝ้าพื้นที่แบบ cross-check มองหลังให้กันและกันในภาคนี้กลับลดลงเหมือนต้องการที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้เล่นจนจบเกมในรูปแบบ Ghost ( Stealth แบบแนบเนียนเซียนยิ่งกว่าสายลับตัวจริงด้วยการฆ่าศัตรูแบบ Silent Kill ติดกันบ่อยๆ ) ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
และดูเหมือนจะง่ายขึ้นอีกขั้นด้วยการที่ภาคนี้คุณไม่จำเป็นต้องรอเสียงฟ้าผ่า เสียงทิ้งระเบิดแล้วคาดเดาเอาเองอีกต่อไปว่าเสียงนั้นมันดังพอจะกลบเสียงปืนได้หรือยัง ในภาคนี้ตัวเกมจะมีเครื่องหมายบอกทันทีเลยว่าตอนนี้นี่แหละ ยิงเลยสิ ยิงเลยสิ ยิงเลยสิ มิหนำซ้ำคุณยังสามารถสร้างเสียงพรางได้เองด้วยการประเคนหมัดเท้าใส่เครื่องยนต์กลไกในฉากให้มันมีเสียงเครื่องขัดข้องมากลบเสียงปืนคุณเองได้หน้าตาเฉย ( เอาจริงๆผมไม่เชื่อว่าไอ้เสียงเครื่องขัดข้องก๊อกๆแก๊กๆนั่นจะดังกลบเสียงปืนซุ่มยิงที่ยิงใส่รถถังระเบิดได้หรอกนะ ) โดยที่ไม่มีศัตรูแม้แต่คนเดียวสงสัยเลยว่าอยู่ดีๆไอ้เครื่องบ้านั่นมันเสียได้อย่างไร และก็ไม่มีใครเดินเข้ามาดูด้วยเช่นกัน สมควรแล้วล่ะที่จะถูกสังหารหมู่โดยพลซุ่มยิงสุดโหดอย่างเราๆ
ฝ่าความตายจากสไนเปอร์นับสิบในโลกออนไลน์
เล่นเนื้อเรื่องไปก็เริ่มเบื่อเริ่มเซ็ง เกมก็ยังมีตัวเลือกอย่างโหมด COOP ที่ให้ผู้เล่นได้ร่วมกันทำคะแนนฝ่าด่านในรูปแบบของ Challenge หรือโหมดอย่าง Overwatch ที่ต้องช่วยเหลือกันโดยคนหนึ่งเป็นพลชี้เป้ากับคนหนึ่งเป็นพลซุ่มยิงที่ต้องอาศัยการสื่อสารที่เข้าใจกันระหว่างผู้เล่นทั้งสอง แต่ความสนุกของโหลดออนไลน์คือการเล่น Multiplayer นั่นเองครับ คุณจะได้เข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างสไนเปอร์ทั้งสองฝั่งที่ทั้งซุ่มอย่างแนบเนียนชนิดที่โผล่มาแต่ปลายเส้นผม ในบางครั้งคุณก็ต้องสังเวยชีวิตให้กับศัตรูคนเดิมหลายสิบครั้งจึงจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาก็อยู่ในจุดที่คุณเล็งไปนั่นแหละ แต่ตัวมันหลบมิดอยู่ใต้เหลือบหินนั่นเอง
Multiplayer เป็นโหมดที่สนุกสนานเลยทีเดียวครับ การเล่นในโหมดนี้เป็นการวัดใจว่าคุณจะหาพื้นที่ในการซ่อนตัวและชิงความได้เปรียบได้ดีขนาดไหน ในบางจุดดูแล้วน่าจะเป็นจุดซุ่มยิงได้เป็นอย่างดีแต่ถ้าหากมีคนที่คิดแบบคุณกันหมด จุดนั้นมันก็คือที่ๆอันตรายมากที่สุดไปในทันที เพราะฉะนั้นการชิงไหวชิงพริบใน Multiplayer นับได้ว่าเป็นความท้าทายสำหรับคนรักการเป็นพลซุ่มยิงเลยทีเดียวครับผม อยากให้ได้ลอง อยากให้ได้โดนกันมากในโหมดนี้ เสียแต่ว่าเกมนี้มีผู้เล่นไม่มากนักทำให้เราต้องไปเจอกับผู้เล่นจากจีน อินเดียและประเทศรอบข้างอื่นๆซะมากกว่าครับซึ่งทำให้เกิดอุปสรรคในเรื่องของ Ping ที่ทำให้หลายคนต้องงงงวยว่าทำไมเรายิงก่อนแต่เราเท่งทึงไปก่อนนั่นเองครับ
บทวิพากษ์
Sniper Elite 3 เป็นเกมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สวมบทบาทเป็นพลซุ่มยิงซึ่งมีไม่มากนักในท้องตลาดวงการเกมและก็ดูเหมือนจะเป็นเกมเดียวเสียด้วยซ้ำหลังจากที่มีตัวประกอบประดับวงการอย่าง Sniper Ghost Warrior ที่ออกมาให้คนเผาผีกันไปแล้วทั้งสองภาค ดังนั้นจึงเป็นการยากถ้าจะบอกว่าเกมนี้ดีหรือไม่อย่างไรหากต้องเทียบกับเกมแนวแอ็คชั่นหรือเกมยิงอื่นๆทั่วไป Sniper Elite 3 สามารถเติมเต็มความต้องการของผู้ที่คลั่งไคล้ในพลซุ่มยิงหรือผู้ที่ชื่นชอบในเกมแนว Stealth Action ได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับสองภาคก่อนหน้าแล้วความยากและกัดกร่อนประสาทจะลดลงไปบ้างแต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ได้อย่างคงเส้นคงวา ตัวเกมมี Bug บ้างประปรายให้เห็นในเกมแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตชนิดที่ว่าถึงขั้นไฟล์เซฟเกมพังหรือไปต่อไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นสาวกเกม Sniper Elite มาแล้วการได้เล่นภาคนี้ก็คือส่วนสำคัญในประสบการณ์การเล่นเกมที่ได้เห็นการพัฒนาในตระกูลเกมโปรดที่ทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา
แต่หากว่าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นเกมฟอร์มยักษ์หรือเกมเดินหน้ายิงสุดมันส์ที่มีฉากและเรื่องราวชวนประทับใจ Sniper Elite 3 ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะนักครับเพราะเกมการเล่นของเกมไม่ได้ดึงอารมณ์ร่วมให้เข้าถึงระดับที่ว่าเพลิดเพลินไปกับมันได้อย่างต่อเนื่องส่วนเนื้อหาของเกมนั้นไม่ได้มีส่วนใดๆให้เกิดความรู้สึกที่น่าติดตามแต่อย่างใด ดังนั้นการให้คะแนนเกมในครั้งนี้ก็คือการคาบเกี่ยวระหว่างมุมมองของคนที่ทั้งชอบเล่นเกมแนว Stealth Action และ Sniper Elite ภาคต้นฉบับกับมุมมองของคนทั่วไปที่ได้มาสัมผัสเกมนี้ซึ่งถ้าหากเกมนี้ได้มีภาคต่อและนำเสนอในความรู้สึกและบรรยากาศอันมืดหม่นของสงครามได้อย่างที่เคยนำเสนอมาในภาคแรกบวกกับประสบการณ์ในการปั้นเกมนี้ที่ลองผิดลองถูกถึงสามภาคอาจทำให้ Sniper Elite ภาคหน้าเข้าขั้นเกมดีที่หลายคนต้องประทับใจเลยก็เป็นได้