BY Settasilp Poonbumphen
14 Oct 18 8:11 pm

Review: Venom

30 Views

เกมก็ต้องเล่น หนังก็ต้องดู และก็ดูจะเหมาะเจาะซะเหลือเกินที่เกมเมอร์ได้สัมผัสกับ Spiderman เพียงไม่นานก็ได้เวลาวางจอย แล้วลุกออกมาชมภาพยนตร์แอนตี้ฮีโร่อย่าง Venom ที่เคยปรากฏในภาพยนตร์ Spiderman 3 เมื่อสิบกว่าปีก่อน

เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน หลายคนอาจจะได้เห็นคะแนนวิจารณ์จากเว็บไซต์สื่อนอกที่พร้อมใจกันถลุงตุงตาข่ายเตะส่งภาพยนตร์ Venom ด้วยการให้คะแนนรีวิวต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนบางคนอาจเริ่มหวั่นใจว่าหรือนี่จะเป็นหลุมดำของภาพยนตร์ที่มาจากตัวละครในจักรวาล Marvel 

ผมเข้าโรงไปดูด้วยจิตใจที่ปล่อยวาง ไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าการที่มันจะเป็นอีกหนึ่ง Popcorn Movies ที่มอบความสนุกแบบเบาสมองโดยไม่ต้องสอดแทรกอะไรมากมาย เรียกได้ว่าคาดหวังให้มันเป็นหนังสูตร พระเอกขี้แพ้ได้รับพลัง สู้เพื่อเอาชนะฝ่ายอธรรมพร้อมกับฉากแอ็คชั่นมันส์ ๆ    แต่เมื่อเข้าไปดูในวันนี้ก็พบว่าเฮ้ย มันดิสกว่าที่คีย์ จนรู้สึกว่าภาพยนตร์ Venom นี้ควรค่าแก่การหยิบนำมาแนะนำต่อ  ภาพยนตร์ Venom นั้นเป็นยังไง และสนุกแค่ไหน ติดตามอ่านได้ที่ด้านล่างนี้เลยครับ

Venom

เอ็ดดี้ บร็อค ซิมบิโอต และองค์กรยักษ์ใหญ่

เอ็ดดี้ บร็อค นักข่าวสายลุยผู้มุ่งมั่นในการทำคอนเทนท์เปิดโปงความจริง ยืนหยัดเคียงข้างความถูกต้องและมวลมนุษย ผู้ที่กำลังดำเนินชีวิตอันสวยหรู ทั้งหน้าที่การงานที่ดูจะพุ่งขึ้นสูงในเดลี่ บูเกิล (ใช่ครับ สำนักข่าวเดียวกันกับสไปเดอร์แมน) และแฟนสาวอนาคตไกลในฐานะนิติกรประจำบริษัท ไลฟ์ ฟาวน์เดชั่น องค์กรนวัตกรรมยักษ์ใหญ่   หนังเปิดฉากมาให้เราทำความรู้จักกับชีวิตของตัวละครสำคัญเพื่อให้เข้าใจถึงตัวตน แนวคิด และแรงจูงใจในการกระทำต่าง ๆ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่สองของหนังที่ค่อย ๆ พาเราไปรู้จักกับเวน่อม หนึ่งในซิมบิโอตที่ถูกเก็บจากดาวหางนอกโลกว่าเวน่อมคืออะไร ซิมบิโอตตัวอื่นกำลังทำอะไร มีเป้าหมายที่ไหน และเพราะอะไรเอ็ดดี้ และ เวน่อมถึงต้องร่วมมือกันหยุดการกระทำเหล่านั้นก่อนที่จะสายเกินไป

สนุกแบบไม่ต้องรู้จัก Venom มาก่อน

การนำเสนอของภาพยนตร์นั้นทำออกมาได้อย่างเรียบง่ายแต่สนุกสนาน ตั้งแต่ต้นจนจบของหนังเหมือนจะถูกแบ่งออกเป็น 3 พาร์ทเหมือนเป็นการค่อย ๆ ดึงผู้ชมหน้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กับเจ้า Venom มาก่อนให้ค่อย ๆ เข้าสู่โลกของแอนตี้ฮีโร่ที่เราอาจไม่คุ้นเคยกันสักเท่าไหร่นัก โดยความหม่นความดาร์คตามสไตล์แอนตี้ฮีโร่ยังคงมีอยู่ให้เราได้รู้สึก สอดแทรกไปกับมุกตลกและอารมณ์ขันตัดเลี่ยนที่ทำออกมาได้ดี ดีจนมันกลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ไปเลยก็ว่าได้  เชื่อว่าถ้าใครที่เบื่อความเป็นฮีโร่พลังบวก สู้เพื่อความถูกต้องและหลักการอันแสนสดใส แนะนำให้รีบจองตั๋วแล้วออกไปดู Venom เลยครับ เพราะนี่แหละคือหนังที่คุณต้องการ

ฉากแอ็คชั่นรวดเร็ว มันส์ และสะใจ

เมื่อเราเข้าไปดูภาพยนตร์แอ็คชั่น สิ่งที่เราต้องการจะมีอะไรมากไปกว่าฉากแอ็คชั่นกันล่ะ  Venom มอบฉากการ อ่า จะเรียกว่าต่อสู้ก็คงไม่ใช่ เรียกว่าฉากไล่ถลุงมนุษย์ตัวน้อยน่าจะเหมาะกว่า การต่อสู้ภายในภาพยนตร์นั้นให้ความรู้สึกสนุกเพลิดเพลินโดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากซีจีของตัวเวน่อมและซิมบิโอตคู่อาฆาตที่ดูสวยงามประทับใจ

Venom

แต่ถ้าถามว่าไม่ชอบอะไร ?

สิ่งที่คาดหวังนิด ๆ กับ Venom เลยคือการเป็น Anti-Hero แบบเต็มตัวที่ส่งต่อความดาร์คและหยิบเอาความหม่นมาบดขยี้ให้ความรู้สึกของคนดีมันแหลกสลาย ซึ่ง Venom เลือกจะที่ลดทอนสิ่งเหล่านั้นลงซึ่งเป็นไปได้ว่านั่นอาจเป็นสิ่งที่ ทอม ฮาร์ดี้ นักแสดงนำเจ้าของบทเอ็ดดี้ บร็อค ได้เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีบางส่วนของหนังที่เขาชื่นชอบถูกตัดออกถึง 40 นาที   รวมไปถึงความโหดเหี้ยมของเวน่อมก็ดูจะไปไม่สุดทาง

ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าหนังต้องทำเงิน การทำออกมาให้ชวนหดหู่และเข้าถึงได้ยาก แม้ว่าจะได้รับเสียงวิจารณ์เชิงบวกแต่ก็ไม่สู้การทำกำไรที่งดงาม ดังนั้นการที่เราได้เห็น Venom หยิบยื่นความมืดมนผ่านบทของตัวละครเอ็ดดี้ บร็อคและพล็อตเรื่องตัดสลับกับมุกตลกที่มาได้ถูกจังหวะก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจ

สรุป

ภาพยนตร์ Venom เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์(แอนตี้)ฮีโร่ที่ควรค่าแก่การรับชมในโรงภาพยนตร์ ทั้งการนำเสนอที่น่าสนใจ การแสดงของทอม ฮาร์ดี้ ฉากแอ็คชั่นและมุกตลกขบขันที่ตีมาอย่างดีจนเป็นเนื้อเดียวกัน และยิ่งสำหรับเราชาวเกมเมอร์ การได้ดูต่อจากเล่นเกม Spiderman จบก็เป็นอะไรที่ดีงามพระรามฉายแสงเลยทีเดียว

ปล. ภาพยนตร์มี End Credit 2 ตัว แนะนำให้ดูแค่ตัวแรกที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ภาคต่อไปก็พอครับ จบแล้วรีบลุกไปเข้าห้องน้ำกันดีกว่า

ปล2. ดูจาก End Credits มีคนไทย 2 คนที่มีส่วนร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยคือคุณ Don Theerathada (ดอน ธีระธาดา) ในด้านสตันท์แมน และ คุณ Siraphurin Nimmahnratanakul ในด้าน Visual Effect

SHARE

Settasilp Poonbumphen

ยีน - Founder / Project Manager

Back to top