หลายปีมาแล้วที่ 2K Sport เข้าซื้อลิขสิทธิ์การทำเกมมวยปล้ำ WWE มาจาก THQ ที่ล้มละลายลงไป ในตอนนั้นมันเหมือนการช้อนซื้ออะไรก็ไม่รู้ เพราะอนาคตของซีรี่ส์ ณ ขณะนั้นแทบไม่เหลือทางรอดอะไรอีกแล้ว WWE 13 คือจุดตกต่ำเกือบที่สุดนับตั้งแต่มีซีรี่ส์นี้มา พวกเขาระดมความคิด หาความแตกต่างเพื่อสร้างอะไรที่ดียิ่งกว่า ทำให้เกิดเป็น WWE 2K ภาคแรก ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในแง่คำวิจารณ์ และรายได้จากแฟนบอย
หลังจากที่ภาคแรกออกวางจำหน่าย 2K ก็เพิ่งจะได้เข้าใจว่าที่ทีม THQ ทำเกมออกมาห่วย เพราะเกมมันบังคับออกรายปี ! ด้วยความเหนื่อยล้าแถมไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน ทำให้ภาคต่อ ๆ ไปของ 2K อยู่ในขั้นลุ่ม ๆ ดอน ๆ และมาเละเทะแบบย่ำแย่ที่สุดก็ในภาค 2K18 ภาคล่าสุดที่วางจำหน่ายไปเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว มันได้รับทั้งเสียงก่นด่าจากแฟนบอย ได้รับทั้งคำวิจารณ์มากมาย จน 2K เริ่มถอดใจ
WWE 2K18 ห่วยแตกเพราะตัดทุกอย่างออกจนเกือบหมด แต่ยังดีที่มีการ “ปูพื้น” ไปหาภาคต่อจากนี้ด้วยการย้ายไปใช้ Engine ใหม่ ถ้าจะอ้างแบบนี้เราก็พอเข้าใจได้หน่อยว่าทำไมภาคนี้ถึงออกมาห่วยแตก หลายคนก็เลยรอ “WWE 2K19” ร่างสมบูรณ์ของ 2K18 ที่มันควรจะเป็น ช่วงนี้ใครที่ Pre-order เกมภาคล่าสุดก็น่าจะได้เห็นกันแล้วว่ามันดียังไง รวมถึงผู้เขียนก็เช่นกัน วันนี้เราก็เลยจะมาดูกันว่า WWE 2K19 คือการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของซีรี่ส์ จริงหรือไม่
เนื้อเรื่องดูพยายาม แต่ยังไม่สุด
ในปีนี้ โหมด MyCareer หรือโหมดสร้างตัวละครเล่นเองเพื่อใช้ใน Event ออนไลน์ จะมีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง โดยเราจะรับบทเป็นนักมวยปล้ำของค่ายอินดี้สมมตินาม BCW ที่มี Baron Blade เป็นผู้จัดการ เราจะต้องไต่เต้าจากวงการ Indie สู้หนทางเป็นนักมวยปล้ำของ WWE ให้จงได้
บอกตรง ๆ ว่าพล็อตเรื่องดูดีเอามาก ๆ ถ้าเทียบกับเกมทั้งหมดที่ 2K เคยทำมา เพราะมันมี Story ที่ชัดเจน มีเสียงพากย์ มีมุข พูดกันตรง ๆ ก็น่าจะคล้ายโหมดเนื้อเรื่องของ Fifa อยู่หน่อย ๆ ตรงที่เราไม่ต้องเดินไปเดินมา แค่นั่งดูเนื้อเรื่องไปเรื่อย ๆ พอถึงแมตช์เราก็แค่แข่ง เรียกได้ว่าทำออกมาโอเคเลยทีเดียวสำหรับโหมดนี้
ข้อเสียที่เห็นชัด ๆ เลยคือบางครั้งบทมันยังดูไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ ตัวเลือกในเนื้อเรื่องแทบไม่มีผลอะไรเลย เลือกพูดแบบไหนผลลัพธ์ไม่ต่างกันแม้แต่น้อย เรื่องราวบางช่วงบางตอนถูกเฉลยเร็วไป แถมบางครั้งมุขก็ยิงออกมาในจังหวะที่ไม่เหมาะสม ทำให้เราไม่รู้สึกตลกอีก แต่ถึงยังไงมันก็ยังอยู่ในเกณฑ์โอเค เอาเป็นว่าโอเคกว่าการที่เอาตัวเรามาเดินเล่นโง่ ๆ ใน Backstage เหมือนภาคเก่า ๆ อ่ะนะ
เกมเพลย์สนุกขึ้น ยากขึ้น เทคนิคเยอะขึ้น
ส่วนหลักที่ทำให้คนด่าตัว WWE 2K18 น่าจะเป็นเรื่องเกมเพลย์ เพราะด้วยสไตล์เก่า ๆ ที่ทำมาหลายภาค มันทำให้การเล่นออนไลน์ไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว คิดดูสิว่าเล่นมากี่ปี ๆ เทคนิคที่ใช้ก็เดิม ๆ แพ้ชนะนี่ไม่ใช่ฝีมือแล้ว ดวงชัด ๆ รอบนี้ 2K เลยใส่ระบบพิเศษที่เรียกว่า Payback เข้ามา โดยมันจะเป็นสกิลพิเศษที่ใส่ได้สองช่อง เกจสกิลจะขึ้นตามเงื่อนไขของมันเอง โดยแต่ละสกิลจะเป็นสกิลที่ถ้าใช้เป็นก็สามารถเปลี่ยนสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว งานนี้โหมด Online สนุกขึ้นมาก จากเดิมที่ต้องมานั่งมองแค่เกจ Reverse งานนี้ต้องมานั่งจ้องอีกว่า Payback ของศัตรูคืออะไร เพิ่มยังไง ทำยังไงถึงจะลดมันได้ สนุกแถมยากขึ้นมากจริง ๆ
การสู้กับ Ai ในภาคนี้ถูกปรับให้ยากขึ้นกว่าเดิมในระดับนึง จากเดิมที่ Ai จะเดินโง่ ๆ มีเอ๋อบ้างบางครั้ง แต่ราวนี้จัดเต็ม ทั้ง Reverse เกือบตลอด ใส่ท่าหนัก ๆ แก้ Sub-Mission ไวปานจรวด (ผู้เขียนเล่นระดับ Hard) ทำให้เกมยากขึ้นกว่าภาคก่อนมาก ยิ่งโหมด My Career ภาคนี้ยิ่งยากขึ้นกว่าเก่าเยอะ เอาเป็นว่าผู้เล่นใหม่น่าจะมีหัวเสียกันได้หากกดความยากที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองมาเล่น
สำหรับข้อเสียคงเป็นเรื่องเก่า ๆ ที่เกมอิงคำว่า Sport มากไป เกมมันก็เลยดูเป็นกีฬามากกว่าเกมอัดกันหนัก ๆ เหมือน THQ แต่ผู้เขียนคิดว่าอันนี้มันก็เป็นความเห็นส่วนตัวเนอะ บางคนอาจจะรู้สึกชอบก็ได้ที่เกมมีความเป็น Sport เหมือนของจริงมากกว่าการปล้ำแบบล้างผลาญที่ของจริงทำไม่ได้ก็ได้
กราฟิกพัฒนาขึ้น แต่กินทรัพยากรน้อยลง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า 2K18 มีปัญหาในด้านการ Optimize เพราะถ้าหากคุณไม่มีการ์ดจอระดับ 1050ti ขึ้นไป บอกเลยว่าคุณจะรู้สึกแย่กับการเล่นเกมนี้มาก แต่ในภาคนี้เหมือนผู้พัฒนาจะชินกับ Engine ใหม่มากขึ้น นอกจากจะ Optimize ให้ตัวเกมลื่นไหลขึ้นแล้ว พวกเขายังเพิ่มแสงเงาให้เสื้อผ้าหลาย ๆ ชิ้น เพิ่มระบบฟิสิกส์ในบางจุด ทำให้ตัวละครดูสมจริงมากขึ้นประมาณนึง แต่ไม่ต่างกับภาคที่แล้วเท่าไหร่
ข้อเสียจริง ๆ ไม่รู้จะยกอะไรมาดี เพราะรู้สึกว่ามันดีกว่าภาคก่อนหน้านี้มาก ๆ ทั้งการล็อค 30 เฟรมช่วง Entrance เพื่อไม่ให้เกมกระตุก แล้วค่อยมาปล่อยเฟรมเต็มในช่วงปล้ำ การยืดตัวเกมให้ช้าลงเพราะต้องการให้เฟรมไม่ตกก็ทำได้ค่อนข้างดี เอาเป็นว่าไม่สามารถหาข้อเสียให้มันได้ เพราะรู้สึกดีจริง ๆ
ระบบเสียงเท่าเดิม เพิ่มเติมคือความมั่ว
หากคุณคิดว่าทีมพากย์ใน 2K18 แย่แล้ว ในภาคนี้เข้าขั้นแย่ยิ่งกว่า การพากย์มีปัญหาอย่างชัดเจนตั้งแต่ฉากเปิดตัว ผู้เขียนเลือกตัวผู้หญิงมาเล่น แต่ยังได้ยินโฆษกพูดว่า “Make his way to the ring” อยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวละครของผู้เขียนเป็นผู้หญิง ในโหมด My Career ในแมตช์ที่เราจะต้องเจอกับศัตรูคู่อาฆาตใส่หน้ากากของเรา เกมดันเรียกเราว่า “She” แทนจะเรียกว่า He แถมยังพากย์ข้อมูลนักมวยปล้ำในโหมดนั้นผิดแบบเละเทะ ! พูดตรง ๆ ว่าผิดหวังมาก จากที่หวังไว้เยอะ เพราะเห็นว่าภาคนี้ใส่เสียงพากย์ ใส่อะไรต่อมิอะไรมาแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะทำออกมาได้ย่ำแย่ขนาดนี้
ถัดจากเสียงภาคก็เพลงเปิดตัวนักมวยปล้ำ คือไม่รู้ว่าไอ้พื้นที่ 40 GB กว่านี่พี่เอาไปใส่อะไรจนหมด ทำไมไม่เหลือที่ให้ไฟล์เสียงคุณภาพสูงบ้าง เพลงเปิดตัวของภาคนี้คุณภาพเท่าภาคที่แล้วเดะ คือเหมือนเปิดฟัง MP3 ห่วย ๆ ที่โหลดมาจาก 4Shares คือฟังดูก็รู้เลยว่ามันเป็นเสียงสเตริโอแบบห่วย ๆ บอกตรง ๆ ว่าไม่พอใจจริง ๆ กับเรื่องเสียงของเกมนี้