Spirit Mancer ผลงานเกมเปิดตัวของทีมงาน Sunny Syrup Studio ผู้พัฒนาเกมอินดี้จากประเทศไทย ตัวเกมผสมผสานความเป็นเกม Hack-and-Slash เข้ากับเกมการเล่นวางกลยุทธ์ด้วยการ์ด และการลุยเดินด้านข้างในสไตล์แพลตฟอร์มแบบ 2D พร้อมกราฟิกพิกเซลสุดคลาสสิก แม้ตัวเกมจะนำเสนอประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาในเรื่องความสมดุลและการพัฒนาเกมเพลย์ที่ยังไม่สมบูรณ์
ซึ่งในรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น ไปตามอ่านกันได้ในรีวิวฉบับเต็มของเรากันเลย
เนื้อเรื่องที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์
Spirit Mancer เล่าเรื่องราวของ Sebastian และ Mary สองนักล่าปีศาจที่ถูกดึงเข้าไปในโลกปีศาจโดยบังเอิญ หลัง Sebastian ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้กอบกู้โลกและต้องตามหากุญแจวิเศษเพื่อกลับไปยังโลกเดิม การผจญภัยออกลุยเผชิญหน้ากับเหล่าปีศาจและเหล่าขุนพลของราชินีแห่งนรกก็จึงเริ่มต้นขึ้น
เนื้อเรื่องของเกมเรียบง่าย เรียกได้ว่าเป็นเนื้อเรื่องตามสไตล์เกมแอกชั่นทั่ว ๆ ไป โดยมีจุดเด่นอยู่ที่อารมณ์ขันและการตัดต่อฉากที่ช่วยเพิ่มสีสันได้เป็นอย่างดี และแม้ตัวละครหลาย ๆ ตัวในเกมจะมีเสน่ห์ แต่การนำเสนอหลักและการเล่าเรื่องที่ขาดการขัดเกลาตัดทอนความดีงามในส่วนนี้ของเกมไปอย่างน่าเสียดาย
การเล่าเรื่องที่ซ้ำไปซ้ำมา และบทสนทนาที่ติดขัดและเชื่องช้า ทำให้เนื้อเรื่องเสียอรรถรสในบางจุด ตัวเกมนั้นมีหัวจิตหัวใจในการเล่าเรื่องที่ซื่อตรงและเชื้อเชิญให้เราสนิทสนมกับตัวละครทั้งหมด หากได้รับการปรับปรุงให้นำเสนอได้ดีขึ้นจะช่วยขับเน้นความดีในส่วนนี้ออกมาได้มากขึ้นกว่าเดิม
ระบบการต่อสู้และระบบหลักที่น่าสนใจแต่ยังขาดสมดุล
Spirit Mancer เป็นเกมแอกชั่นเดินลุยด้านข้าง ถ้าจะพูดให้เห็นภาพชัดก็คือเป็นเกมลุย ยิง ฟัน แบบ Megaman นั่นเอง ส่วนที่ต่างก็คือตัวเกมมีระบบในความเป็น Role Playing เช่นการเก็บทรัพยากรเพื่ออัพเกรดตัวละครและฐานทัพ การสะสมและอัพเกรดการ์ด “ปีศาจ” ที่เราพบเจอระหว่างทางเพื่อนำมาใช้งาน เรียกได้ว่าตัวเกมอัดแน่นด้วยระบบหลายอย่างจริง ๆ
จุดเด่นของเกมนี้คือระบบการต่อสู้ที่ผู้เล่นสามารถสลับใช้อาวุธระยะประชิด ระยะไกล และการ์ดปีศาจได้ตามสถานการณ์ การใช้จุดอ่อนของศัตรู เช่น ใช้การโจมตีระยะประชิดกับโล่สีเขียว หรือการใช้การ์ดปีศาจกับโล่สีม่วง เพิ่มความหลากหลายในการต่อสู้ และการจับศัตรูมาเป็นการ์ดเพื่อใช้งานก็เพิ่มความหลากหลายได้เป็นอย่างดี
ในฝั่งของระบบการเล่นหลักนั้นตัวเกมมีความทะเยอทะยานที่จะผสมเกมการเล่นทั้งฝั่งแอกชั่นและการ์ดเกมเข้าด้วยกัน แต่ระบบนี้กลับขาดความลึกซึ้งอย่างน่าเสียดาย
ปัญหาหลักใหญ่ ๆ ในฝั่งระบบการต่อสู้ก็คือการบังคับตัวละครนั้นแม้อนิเมชั่นจะลื่นไหลน่าประทับใจ แต่การออกท่าทางและการหลบหลีกกลับมีอาการติดขัด โดยเฉพาะท่าหลบหรือท่าโจมตีสวนกลับที่ใช้งานได้ยาก ขณะที่ศัตรูส่วนใหญ่ก็มีรูปแบบการโจมตีคล้าย ๆ เดิม
นอกจากนั้นการที่การ์ดมีจำนวนมากเกินไปในการเล่นแต่ละด่านจนทำให้การบริหารจัดการเด็คไม่มีความสำคัญ การปรับแต่งเด็คยังต้องใช้เงินในเกม ทำให้เราเลือกใช้การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดซ้ำ ๆ และใช้ประโยชน์สูงสุดแทน หรือแม้แต่ไม่สนใจตัวการจัดเด็คการ์ดและก็ออกลุยไปเรื่อย ๆ มองข้ามระบบดังกล่าวไปแทน
ถ้าตัวเกมมีระบบเรื่องของจุดอ่อนของศัตรู ที่มากกว่าแค่โล่ป้องกันการโจมตี 3 รูปแบบ หรือ เสริมเน้นความจำเป็นในแง่ของการใช้การ์ดมากกว่านี้น่าจะทำให้ระบบส่วนนี้ถูกเน้นความสำคัญและสนุกมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ฉากการต่อสู้กับบอสคือไฮไลต์ของเกม บอสแต่ละตัวถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน รูปแบบการโจมตีที่หลากหลายและน่าสนใจ พร้อมความยากที่ท้าทายและสู้ได้สนุก ทำให้โดยรวมแล้วผมเฝ้ารอการลุยไปถึงตอนท้ายของฉากเพื่อปราบบอส
ฉากในเกมเรียกได้ว่ามีความหลากหลาย เช่น ถ้ำเยือกแข็ง ภูเขาไฟ และปราสาทผีสิง แต่ส่วนใหญ่ยังคงใช้ธีมที่คุ้นเคยในเกมแนวนี้ ตัวเกมมีการสำรวจฉากเล็กน้อยเพื่อมอบทรัพยากรในการอัพเกรดของต่าง ๆ ให้ผู้เล่นที่รักการสำรวจ แต่โดยรวมตัวฉากก็ไม่ได้มุ่งเน้นการไขปริศนาหรือมีฉากที่เปิดกว้างแต่อย่างใด
ผู้เล่นสามารถอัปเกรดอาวุธ เพิ่มเลเวลการ์ด และทำกิจกรรมเสริมใน “หมู่บ้านหลัก” เช่น ตกปลาและสร้างไอเทม พัฒนา Adventure Guild ช่วยให้ผู้เล่นสามารถส่งชาวบ้านออกไปหาทรัพยากร ยังไม่รวมถึงการปลูกผัก ทำภารกิจย่อย หรือการเก็บทรัพยากรเพื่อปลดล็อก Skill และโบนัสความสามารถใหม่ ๆ
Sunny Syrup Studio จัดเต็มจริง ๆ ในแง่ของความทะเยอทะยานของระบบการเล่น ระบบย่อยต่าง ๆ ในเกมพยายามเชื่อมโยงถึงกันเพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกสนุก มี Progress ในการพัฒนาหมู่บ้านและตัวละครของตัวเองตลอดเวลา ซึ่งระบบต่าง ๆ เหล่านี้ขาดแค่เรื่องของความลึกหรือการนำเสนอที่น่าสนใจ หากทีมงานโฟกัสไปที่ระบบบางอย่างหรือทำให้การนำเสนอระบบพวกนี้เด่นชัดขึ้นมาน่าจะช่วยขัดเกลาให้ตัวเกมสมบูรณ์แบบมากขึ้นกว่าเดิม
โหมด Co-Op เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น Spirit Mancer รองรับการเล่น Co-Op แบบ 2 คน ผู้เล่นสามารถร่วมมือกับเพื่อน ช่วยลดความยากในบางฉากช่วงท้าย ๆ และโดยเฉพาะการต่อสู้กับบอส ถ้ามีเพื่อนร่วมเล่นด้วยกันก็ช่วยเพิ่มความสนุกได้ดี เพราะเอาจริง ๆ การออกแบบการเล่นหลักในฉากต่าง ๆ ก็ชวนให้นึกถึงเกม Classic ยุคเก่าที่สนุกกว่าเมื่อมีเพื่อนมานั่งเล่นด้วยกัน
งานภาพและเสียงยอดเยี่ยม
กราฟิกพิกเซลของ Spirit Mancer มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยรายละเอียด การออกแบบตัวละครและสิ่งแวดล้อมช่วยสร้างโลกที่มีเอกลักษณ์ ดนตรีประกอบแบบ MIDI ชวนให้นึกถึงเกมยุค SNES และมีเพลงประกอบที่ไพเราะน่าจดจำ น่าเสียดายที่จำนวนดนตรีประกอบอาจจะน้อยไปหน่อย
จุดที่ผมรักและประทับใจมากที่สุดน่าจะเป็นตัวอนิเมชั่นและกราฟิกพิกเซลภายในเกม ระหว่างการเล่นเราสัมผัสได้ว่าการออกแบบงานภาพนั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยความใส่ใจและตั้งใจจริง ๆ ตัวละครต่าง ๆ ท่วงท่าการเคลื่อนไหว หรือแม้แต่ของประกอบฉากระหว่างทาง ทุกอย่างทุกตอนเต็มไปด้วยรายละเอียดที่เห็นแล้วชวนให้หลงรักและสบายตาสบายใจ
บทสรุป: เกมดีที่ต้องการการขัดเกลา
Spirit Mancer เป็นเกมที่มีแนวคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพสูงมากจริง ๆ เรามองเห็นความตั้งใจของทีมงาน Sunny Syrup Studio ผ่านทุกแง่มุมของเกม ระบบการต่อสู้และการต่อสู้กับบอสเป็นจุดเด่น แต่ปัญหาเรื่องสมดุล บัคต่าง ๆ ความไม่หลากหลายของเกมเพลย์หลัก และการพัฒนาระบบที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เกมยังไปไม่ถึงในระดับที่ยอดเยี่ยมได้สำเร็จ
นี่เป็นผลงานเกมเปิดตัวของทีมงานที่มีฝีมือและน่าจับตามองต่อไป โดยเฉพาะหากพวกเขาสามารถขัดเกลาตัวเกมหรือมุ่งเน้นการสร้างเกมที่มีไอเดียหลักที่แข็งแกร่งได้สำเร็จ
Spirit Mancer เป็นผลงานที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเกมเมอร์ชาวไทยที่อยากรวมสนับสนุนผลงานเกมอินดี้ของทีมไทย (ด้วยราคาเพียงแค่ 250 บาทบน STEAM) โดยเฉพาะผู้ชื่นชอบงานภาพพิกเซลและคนรักเกมแอกชั่นยุคเก่า
แต่หากมองผ่านเลนส์ของเกมเมอร์ที่ต้องการมาตรฐานระดับสูงหรืออยากได้ผลงานที่สมบูรณ์แบบในทุกแง่มุม นี่ก็เป็นผลงานที่อาจจะต้องขัดเกลากันต่อ
Spirit Mancer ยังมีช่องว่างให้เติบโตต่อได้อีก เพราะมันมีรากฐานที่น่าสนใจ เต็มไปด้วยไอเดีย แต่สำหรับตอนนี้ มันอาจยังไม่ใช่ผลงานยอดเยี่ยมที่เราแนะนำให้เกมเมอร์ทุกคนต้องเล่นกันให้ได้
สำหรับเกมเมอร์ไทยที่สนใจอยากร่วมสนับสนุน Sunny Syrup Studio ให้เติบโตหรืออยากลองสัมผัสเกมนี้ด้วยตัวเองก็ตามไปลองกันได้เลย: https://store.steampowered.com/app/2172580/Spirit_Mancer/