เกมที่มาแปลก ด้วยการขนเอาดาราและนักแสดงชื่อดังจากยุค 80-90 มาใช้ในเกมกันอย่างเต็มอัตรา มันจะออกมาเป็นอย่างไร ขอเชิญพบกับ Crime Boss: Rockay City
Story
Travis Baker ชายหนุ่มผู้มีความทะเยอทะยานได้เดินทางมายังเมือง Rockay City เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเต็มไปด้วยอาชญากรรม แก๊งนักเลงคอยคุมพื้นที่แต่ละโซนเอาไว้ เป้าหมายของเขาก็ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากขึ้นเป็นใหญ่แทนทุกคนที่นี่ และกลายเป็นเจ้าพ่ออาชญากรรมคนใหม่ที่อยู่เหนือทุกแก๊ง งานนี้เขาจึงต้องมีคนช่วยเหลือในการก่อร่างสร้างแก๊งของตัวเอง กับนักบัญชีและเลขาสาวสุดเซ็กซี่ และผู้ช่วยมากฝีมือ และตัวเขาเองก็ต้องเข้าสู่สงครามแก๊งกลางเมืองที่ไม่มีใครยอมใครกันเลย และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของเกมนี้
หากคุณรู้สึกว่าเกมมันดูเรียบง่าย และดูหลงยุคมากคุณก็คิดถูกแล้ว เพราะมันน่าจะชัดเจนตั้งแต่การขนเอาทัพนักแสดงชื่อดังในยุค 80-90 มานำแสดงและพากย์เสียงในเกมนี้แล้ว ว่าเขาต้องการจะขายอะไร ทำให้สภาพเกมของมันออกมาในรูปแบบของหนังแอ็คชั่นสมัยก่อน ที่มีสถานการณ์ มีเนื้อเรื่องปูพื้นไปสู่การบู๊มากกว่า และมันก็เป็นเหมือนแก๊งนักเลงเน้นยิงเท่านั้น ใครหวังว่ามันจะวางแผนเฉียบคม มีหักเหลี่ยมขิงไหวชิงพริบกัน บอกเลยว่าผิดหวัง และถ้าจะให้พูดกันแบบแฟร์ ๆ เนื้อเรื่องแบบนี้มันก็ยังน่าผิดหวังอยู่ดี มันเหมือนเนื้อเรื่องแบบเส้นตรงที่ไม่มีอะไรเลย เดาทางได้ง่ายมาก เพราะการกระทำบางอย่างของผู้เล่นก็ทำให้เกิดเหตุการณ์และเนื้อเรื่องในแบบที่เราเดากันได้ ยิ่งใครดูหนังมาเยอะ ๆ บอกเลยว่าคิดไว้แบบไหน ก็จะออกมาเป็นแบบนั้นแหละ
แต่สิ่งที่ทำให้เนื้อเรื่องของเกมนี้มันดูแย่ ก็คือส่วนของการเรียบเรียงและการเล่าเรื่อง เหมือนเกมนี้เขาอยากรีบสร้าง รีบทำ รีบออกมาก ๆ ลำดับการเล่าเรื่องจะงงแบบงงมาก ๆ ชนิดที่ว่าต่อให้คุณตั้งใจดู Cutscene แค่ไหน คุณก็ยังสามารถงงได้ จากการลำดับฉากและ Cutscene ของตัวเกมมันเอง คุยเรื่องนึงอยู่ดี ๆ ตัดฉากมาอีกเรื่องเฉยเลย หรือฉากนึงเป็นตัวละครนี้อยู่ ตัดฟึ่บกลับมาอีกตัวแบบไม่ทันตั้งตัวซะอย่างนั้น แล้วมันเล่าเรื่องแบบนี้แทบจะทั้งเกม ชนิดที่ว่าถ้าเล่นธรรมดาก็ไม่รู้เรื่องแล้ว ใครสาย Skip นี่ งงหนักแน่นอน คือเขาไม่ได้ใส่ใจหรือเรียบเรียงการเล่าเรื่องให้มันเข้าใจง่ายเลย คงเพราะคิดว่าเนื้อเรื่องตัวเองมันก็ไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว แค่การไต่เต้าของแก๊งอาชญากรรมเท่านั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ทำออกมาแบบนี้ ผมก็ว่าเขาดูขาดการขัดเกลาไปมากเลยทีเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละ ดูจากปกเกมแล้ว ก็คงมีไม่กี่คนหรอก ที่คิดว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้มันจะดี
Presentation
ถ้าจะบอกว่าเกมนี้มันได้แรงบันดาลใจ ก็คงเป็นแรงบันดาลใจจาก Payday ก็คงเป็นแรงบันดาลใจที่สูงลิ่วเลยทีเดียว รูปแบบการนำเสนอของ Crime Boss จะมีความคล้ายคลึงกับ Payday อย่างหนัก นั่นคือการวางแผน การจัดการทรัพยากรที่เรามี ก่อนเลือกภารกิจออกไปปล้น ที่จะเป็นเกมการเล่นให้เราจับปืนยิง ปล้นทรัพย์กันจริง ๆ เชื่อว่าแว่บแรกที่ใครผ่านมาเห็น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ ว่ามันคือ Payday ยิ่งตอนเล่นนี่ยิ่งใช่ มีขู่ตัวประกันให้นั่งลง หมอบลง ใช้เคเบิลไทด์มัดแขน เพื่อป้องกันไม่ให้ไปกดโทรศัพท์หรือสัญญาณเตือนภัยแจ้งความ มีการลอบเร้นหลบกล้องวงจรปิด มีการปลดล็อคประตู ทั้งหมดที่ว่ามา ใครเล่น Payday มาก่อนก็จะไม่แปลกใจหรือตื่นเต้นใด ๆ เลย
ในด้านของคัทซีนและการนำเสนอ อย่างที่ได้บอกไปในช่วงเนื้อเรื่อง ว่ามันทำแบบรีบ ๆ งง ๆ เล่าฉากนึง หนีไปอีกฉากนึงเฉย แถมคำพูดและบทสนทนาบางช่วงก็คือเข้าขั้น Cringe ไปเลย อย่างที่บอกว่าเกมนี้มันอยู่ผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย มันเหมือนเป็นเกมสนองนีดผู้สร้างที่อยากจะทำเกมรวมดารา มีพล็อตเชย ๆ บ้าน ๆ แต่ดันมาออกเอาในปี 2023 ก็ไม่รู้ว่าจะมีเกมเมอร์กี่คนที่อินไปกับอะไรแบบนี้ แต่ลำพังแค่แนวคิดตั้งต้นก็ว่าตกยุคแล้ว การนำเสนอยังแย่ไปอีก มันเลยกลายเป็นส่วนที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรจริง ๆ ในเกม
ที่จะมีความแตกต่างไป ก็คงจะเป็นเรื่องของรูปแบบการนำเสนอ แม้ว่าเกมจะให้เราเล่นจบเป็นรอบ ๆ เหมือนกันกับ Payday แต่ระบบ Progression ของเกมนี้นั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง การเติบโตของผู้เล่นในเกมนี้จะเป็นการที่แก๊งเราจะได้ขยายอำนาจมากขึ้นจากเงินที่ได้มา และนำเงินมาจ้างสมาชิกแก๊งใหม่ ๆ รวมไปถึงตกแต่งอัปเกรดสถานที่แก๊งของเราให้สวยงามยิ่งขึ้น อันนี้ผมว่าไอเดียเขาดีอยู่บ้าง คือของตกแต่งในสำนักงานแต่ละชิ้นนี่คือจะเป็นพวกของโบราณ ของเก่ามีราคาที่แพงมาก ๆ กว่าจะปลดล็อคได้มาก็อาจจะต้องเล่นเก็บเงินกันสักหน่อย แต่ก็แลกมากับโบนัสแก๊งที่สูงเอาเรื่อง มันให้อารมณ์ประมาณว่าเนี่ย แก๊งเรารวยนะ ยิ่งรวยยิ่งทรงพลัง เหมือนอวยเงินตรานั่นแหละ แต่ในวงการอาชญากรรมมันก็คือเรื่องจริงดี ๆ นี่เอง
และแม้ตัวเกมจะนำเสนอทุกอย่างที่แก๊งอาชญากรรมแก๊งนึงจะทำได้ ตั้งแต่ตุนสินค้าส่งออก ขายยาเสพติด มีรถซูเปอร์คาร์สุดหรูไว้ขับ แต่สิ่งที่เกมนี้มันนำเสนอออกมา ก็เป็นเพียงแค่ผ่านหัวข้อ ผ่านตัวอักษร ผ่าน Text คือการนำเสนอของเกมนี้มัน Cheap มาก ทำให้อารมณ์ร่วมบางทีมันหายไปเลย อย่างเช่นเกมมันบอกว่าตอนนี้แก๊งเรามีเงินขนาดนี้ สามารถรับเงินจากกิจการต่าง ๆ ได้ ทั้งยาเสพติด ของฟุ่มเฟือยหรูหรา แต่สิ่งที่เกมนำเสนอก็คือภาพนิ่งและตัวอักษรเท่านั้น และอีกหลาย ๆ ส่วนของเกมที่เลือกนำเสนอด้วยวิธีง่าย ๆ แบบนี้ และใครที่ไม่ชอบวัฒนธรรมกาชา ต้องบอกว่ามันตามมาหลอกหลอนคุณในเกมนี้ด้วย แต่มันไม่ใช่ระบบการจ่ายเงินจริง เติมเงินซื้อของอะไรแบบนั้น เกมแค่เอาระบบกาชามาใช้ในเกมเฉย ๆ โดยเราจะต้องใช้ระบบนี้ในการสุ่มหาตัวละครสมาชิกแก๊งใหม่ ๆ ซึ่งอันนี้เดี๋ยวเราจะเอาไว้อธิบายกันในส่วนของเกมเพลย์ แต่เจอระบบนี้เข้าไปก็ถือว่าอึ้งอยู่เหมือนกันที่เขากล้าใส่มา
ในด้านของกราฟิก ก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรมาก มันยังดูสวยงามกว่าเกมบางเกมด้วยซ้ำไป และด้วยความที่เกมนี้ไปขนเอานักแสดงมาพากย์เสียง และ Motion Capture กันมากมาย ทำให้เราจะได้ยินเสียงพากย์ระดับคุณภาพ แต่ปัญหามันก็คงอยู่ที่เรื่องของการเล่าเรื่องตามที่บอกไว้ และถึงแม้จะได้นักแสดงมาโมแคปฯให้ แต่บางช่วง บางซีนก็ต้องบอกกันตรง ๆ ว่าแอนิเมชั่นมันแข็งมาก ๆ อันนี้ก็ว่าอะไรนักแสดงไม่ได้ มันอยู่ที่ฝั่งทีมพัฒนาเกมล้วน ๆ เลย ส่วนระบบการยิงต่อสู้ อันนี้ผมว่ามันจืดมาก มันดูป๊อกแป๊ก ๆ เหมือนไม่ได้ถือปืนยิงกันจริง ๆ Power และความรู้สึกของการยิงปืนเกมนี้ จะว่ามันทำออกมาได้ต่ำกว่ามาตรฐานเลยก็ว่าได้
ด้านของระบบเกมการเล่น นอกจากแคมเปญเนื้อเรื่องแล้ว ยังมีโหมด Crime Time ที่เป็นการตั้งห้องหรือหาห้องเล่นกับผู้เล่นอื่นผ่านระบบ Matchmaking หรือระบบออนไลน์ แต่ใครคิดจะมาเล่นตอนนี้ บอกเลย ร้างมาก วันนึงมีห้องอยู่แค่ 1-2 ห้องเท่านั้น คนหนีไปเกมอื่นกันหมดแล้ว แต่โชคดีที่โหมด Crime Time นี้ เรายังสามารถเสกบอทมาเล่นเป็นเพื่อนได้ อีกโหมด คือโหมด Urband Legend ซึ่งมันก็คือโหมดเนื้อเรื่องนั่นแหละ แต่สามารถชวนเพื่อนมาเล่น Co-op ด้วยกันได้ 3 โหมดหลัก ๆ นี้ก็ถือว่าเกมมีคอนเทนต์ที่น้อยมาก และมีแค่โหมดเนื้อเรื่องกับ Co-op เท่านั้น
ภาพรวมในส่วนของคอนเทนต์และการนำเสนอของ Crime Boss ก็ต้องบอกว่ามีทั้งดี และแย่ปะปนกันไป ถือเป็นเกมระดับกลาง ๆ แต่ถ้านำไปเทียบกับเกมฟอร์มยักษ์ที่แห่กันออกมาอย่างถล่มทลายในปี 2023 นี้ ไม่แปลก ถ้ามันจะโดนมองว่าด้อยกว่า หรือถูกมองข้ามไปเลย
Gameplay
หลัก ๆ แล้ว เกมเพลย์ของ Crime Boss ก็คือการจับปืนยิง แต่เราไม่ได้แค่ออกไปปล้น เพราะในเกมนี้มีภารกิจหลากหลายรูปแบบ แม้ว่าจะเป็นการถือปืนออกไปยิงแก๊งอื่น แต่บางครั้งรูปแบบภารกิจก็ไม่เหมือนกัน ในโหมดเนื้อเรื่องนั้น หน้าที่ของเราคือการไปตบตีกับแก๊งอื่น ๆ และขยายดินแดนออกไป เกมก็พยายามจะสร้างความซับซ้อน และบรรยากาศสงครามแก๊งขึ้นมา โดยแก๊งแต่ละแก๊งจะมีสีของตัวเองและยึดครองพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งอยู่ การทำภารกิจหลักไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเปิดทางให้เราเลือกที่จะไปเปิดวอร์กับฝั่งตรงข้าม และหากเอาชนะได้ก็จะยึดพื้นที่นั้นมาได้ ฟังดูเหมือนจะเป็นสุดยอดเกมยกพวกตีกันที่ยิ่งใหญ่ แต่เอาเข้าจริงมันก็แค่เกมยิงแหลก ที่พอถึงช่วงสงครามแก๊งก็จะเหมือนกับโหมดเกมยิงแบบ Knockout ทีมไหนสมาชิกทีมแพ้หมดก็จบกัน
หลังจากยึดพื้นที่ได้แล้ว บางพื้นที่เราสามารถที่จะแบ่งเงินลงทุนไปลงทุน ตั้งกิจการได้และรับเงินแบบ Passive Income รายวัน หัวใจสำคัญของเกมนี้คือเงินนี่แหละ เงินจะใช้ทำแทบทุกอย่างในเกม ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ้างสมาชิกแก๊งใหม่ ๆ ใช้ลงทุนก่อตั้งกิจการ โดยเงินส่วนมากจะได้มาจากการบุกตีแก๊งอื่น และก่อตั้งกิจการเสริมของตัวเอง
อย่างที่บอกไปว่า รูปแบบการเล่นของภารกิจนั้นจะไม่เหมือนกัน บางช่วงก็จะเป็นการบุกไปปล้นร้านค้าของแก๊งศัตรู บางช่วงจะถึงขั้นบุกปล้นธนาคารกันเลยทีเดียว โดยแต่ละภารกิจ เราจำเป็นจะต้องเลือกสมาชิกแก๊งของเราสูงสุด 4 คน ไปออกปฏิบัติภารกิจ (1 คนเราคุมเอง ส่วนอีก 3 จะเป็น A.I.) สมาชิกแก๊งแต่ละคนก็ตามที่บอกในช่วง Presentation ว่าเกมดึงเอาระบบกาชามาใช้เลย การจะได้สมาชิกแก๊งใหม่ ๆ เราต้องไปสุ่มหาเอา โดยทุก ๆ การสุ่มแต่ละครั้งจะใช้จำนวนเงินสูงขึ้นเรื่อย ๆ แถมดีไม่ดี ระบบนี้มันแย่ยิ่งกว่าเกมกาชา เพราะมันไม่มีอะไรการันตีให้เราเลยว่าจะได้สมาชิกแก๊งระดับคุณภาพ บางทีอาจจะต้องหมุนจนเงินทุนหมดตัวกันเลยทีเดียว
สมาชิกแก๊งแต่ละคนจะมีอาวุธและความสามารถที่ต่างกัน และเมื่อพาไปทำภารกิจต่อสู้บ่อย ๆ ก็จะมีความสามารถมากขึ้น เราสามารถโปรโมทหรือทำการเลื่อนขั้นสมาชิกคนนั้นได้ และสมาชิกแก๊งระดับสูง รวมไปถึงหัวหน้าแก๊งอย่าง Travis Baker ของเราเอง เวลาที่เลเวลอัป ก็จะมีการเลือกความสามารถเสริมของตัวเอง ซึ่งเลือกได้ครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ต้องเลือกและพิจารณากันดี ๆ ว่าจะเอาความสามารถใดใส่ให้ตัวละครของเรา เพราะจากที่ดูนี่เหมือนมันจะรีเซ็ทไม่ได้ด้วย
ทีนี้มาดูระบบเกมเพลย์ระหว่างเล่นกันบ้าง บอกเลยว่า Payday เป็นยังไง เกมนี้ก็เป็นอย่างนั้น บางภารกิจเราสามารถลอบเร้นได้ โดยกดสั่งให้ลูกทีมของเราข่มขู่ตัวประกัน จับมัดเคเบิลไทด์ไว้ แล้วค่อย ๆ ฉกของหรือทรัพย์สินมีค่าออกไป จะต่างจากตรง Payday หน่อยเดียวตรงที่เวลาเริ่มปล้นนี่ เราไม่ต้องควักหน้ากากมาใส่เท่ ๆ แล้ว แต่มองอีกมุมนึงก็คือปล้นกันแบบเห็นหน้าเห็นตาแบบนี้เลยนะ ใจถึงกันทั้งแก๊งจริง ๆ อาจจเพราะเมืองนี้ อาชญากรรมมันเป็นเรื่องปกติกันไปแล้วก็ได้
ระหว่างการปล้นเนี่ย เราก็จะมีการติดตั้งเลื่อยยนต์เจาะตู้เซฟต่าง ๆ โดยเราสามารถบูสท์ความเร็วในการเจาะได้ด้วยการเข้าไปกด ถ้าพลาดขึ้นมาก็ต้องรอคูลดาวน์และใช้เวลาที่นานขึ้น เมื่อเจาะตู้เซฟเสร็จ เราก็โกยของมีค่าเข้ากระเป๋า แล้วก็หลบหนีไปยังจุดหลบหนีได้เลย ซึ่งระบบนี้ก็เหมือนกับ Payday อีก คือตัวละครเราเวลาแบกของหนักหรือกระเป๋าเนี่ย จะใช้ได้แค่ปืนพกเท่านั้น และมุมกล้องเราจะเอียง ๆ หน่อยนึงด้วย ภารกิจแต่ละภารกิจก็จะระบุยอดว่าเราต้องโกยเงินเท่าไรถึงจะเผ่นแน่บแล้วคุ้มค่า จริง ๆ ถ้ามันขึ้นว่า Objective not Complete เราสามารถกดหนีก็ได้แหละ แต่ของรางวัลที่ได้จะไม่คุ้มค่า
และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวัน เราสามารถกดจบวันได้เลย ถามว่าทำไมต้องจบวัน เพราะในแต่ละวันนั้น สมาชิกแก๊งของเราจะออกไปทำหน้าที่ของตัวเองได้เพียงวันละ 1-2 รอบเท่านั้น เสร็จแล้วต้องไปพักผ่อน และสมาชิกในแก๊งจะมีอาการบาดเจ็บได้ หรือถ้าเอาไปล้มในเกมการเล่นสักสองรอบ สมาชิกแก๊งคนนั้นก็จะตายไปเลย อยากได้ก็ต้องไปหาคนใหม่เพิ่มเอา ดังนั้นจงระวังสมาชิกแก๊งที่มีสเตตัสหรือคุณภาพและอาวุธที่ดี ตายไประวังจะเสียดายเอาได้
ในด้านของการดีไซน์ภารกิจต้องบอกว่าค่อนข้างซ้ำซากและย่ำแย่พอสมควร หลายภารกิจก็แค่เปลี่ยนฉากเท่านั้น แต่เงื่อนไขในการผ่านก็แบบเดิม ที่แย่ไปกว่านั้นคือ โบนัสในการเล่นแบบบู๊แหลก หรือลอบเร้นนั้น มันแทบจะไม่ให้ความคุ้มค่าเลย ท้ายที่สุดจะบู๊หรือจะลอบเร้นก็ไม่ต่างกัน แถมบางทีการลอบเร้นยังเสียเวลาโดยใช่เหตุซะมากกว่า ซึ่งก็ชัดเลยว่ามันเป็นผลจากการดีไซน์เกมที่ขาดการขัดเกลาจริง ๆ
หลัก ๆ ของเกมนี้จึงอยู่ที่โหมดเนื้อเรื่อง เพราะถ้าใครจะจัดเกมนี้มาเล่นออนไลน์ ก็คงต้องบอกว่าช้าไปเยอะ เหมือนรีวิวเราเนี่ยแหละ โดนเกมใหญ่กลบซะนาน เพิ่งได้ลองมาจับเกมนี้เล่นกัน แต่ถ้าใครมีเพื่อน อยากลองของแปลก อยากลองอะไรใหม่ ๆ เกมนี้ก็น่าสนใจอยู่ ถ้าไม่ติดเรื่องราคา เพราะบอกตรง ๆ ว่า ราคานี้ กับคุณภาพนี้ กำเงินไปซื้อ Payday 2 แล้วบวก DLC เพิ่มอีกนิดหน่อยคุ้มกว่า หรือไปรอ Payday 3 เลยก็ได้เช่นกัน
Performance
กลับกลายเป็นว่า สิ่งที่เราโอเคที่สุดในเกมนี้ น่าจะเป็นในส่วนของ Performance นี่แหละ บอกไว้ก่อนว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้ก็ถือว่าผ่านขั้นแนะนำของมัน และเราตั้งค่ากราฟิกให้อยู่ในขั้นสูง ทำให้ได้ภาพกราฟิกและแสงเงาที่สวยงามมาก แต่เฟรมเรทก็แทบไม่ดรอป หรือมีปัญหาอะไรเลยในระหว่างการเล่น เรียกได้ว่าเป็นการ Optimize เกมที่ทำการบ้านมาดีพอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็ใช่ว่ามันจะยอดเยี่ยมอะไรมากขนาดนั้น เพราะแม้เกมจะลื่นก็จริง แต่ปัญหาเกมล่ม หรือเกม Crash นี่บอกเลยว่าหนักหน่วงมาก เจอแทบจะทุกรอบหลังจบเกม เด้งออกรัว ๆ จนบางทีอยากเลิกไปเลยก็มี
ส่วนของการ Setting Option ต่าง ๆ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีกว่าหลาย ๆ เกมเช่นกัน โดยเฉพาะตัวเลือกในการ Setting หรือตั้งค่าปุ่มที่ให้อิสระมาก เยอะมาก ๆ รวมไปถึงพวกการตั้งค่า ความเร็วการเคลื่อนที่ Dead Zone และอื่น ๆ ถือว่าเยอะมากจริง ๆ แต่เชื่อเถอะว่าเราคงไมไ่ด้ปรับมันจนหมดแน่ ๆ ส่วนของกราฟิกอาจจะปรับได้ไม่เยอะเท่า แถมไม่มีภาพ Pre Setting ให้ดูด้วยว่าปรับยังไงได้แบบไหน แต่เชื่อว่าคนที่เล่นเกมมาเยอะ ๆ ก็น่าจะรู้ถึงแต่ละหัวข้อได้ไม่ยากนัก ทำให้ภาพรวมของ Performance ในเกมนี้ค่อนข้างน่าประทับใจกว่าหลาย ๆ เกมเลยทีเดียว
Crime Boss: Rockay City ถือเป็นเกมโคลน Payday เลยก็ซ่าได้ แต่เพราะตัวเกมคงเอางบไปลงกับนักแสดงซะจนหมด หลายอย่างในเกมมันเลย Cheap เกินไปมาก แม้ระบบบางอย่างจะดี แต่ก็ไม่ใช่เกมที่คุณต้องเล่นหรือห้ามพลาดแต่อย่างใด อย่างน้อยก็โชคดีที่มันไม่ใช่เกมที่ย่ำแย่ไปรอบด้านแบบเกมอื่น ๆ ที่เคยมี ก็ถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ สำหรับเกมนี้