กลายเป็นเกมอินดี้ม้ามืดประจำปีกันไปเลยทีเดียว สำหรับเกม RPG ผสม Life Simulator สุดแหวกแนวอย่าง DAVE THE DIVER เกมนี้มันมีอะไรดี มาหาคำตอบกันใน Article Review ของเรากัน
Story
ในขณะที่ Dave นักประดาน้ำหุ่นหมีร่างท้วม กำลังพักร้อนด้วยความสบายใจเฉิบ เขาก็ได้รับสายจาก Cobra เพื่อนสนิทของเขาโดยบอกว่าจะเลี้ยงซูชิเป็นอาหารเลิศรส Dave ไม่รอช้า แพ็คกระเป๋ารีบบึ่งมาหาเพื่อนฝูง แต่แท้จริงแล้ว นี่คือคำเชิญทางอ้อมของเพื่อนสนิทที่พาให้เขามารู้จักกับ Giant Blue Hole น่านน้ำที่มีความลึกลับซ่อนอยู่นั่นคือทุก ๆ ครั้งที่เราดำลงไปในน้ำทุก ๆ วัน สภาพแวดล้อมใต้น้ำจะถูกเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีเหตุผล เขาปิ๊งไอเดียในการตามหาวัตถุดิบที่สดใหม่ทุกวัน และนำไปประกอบอาหาร และเปิดกิจการร้านซูชิ โดยมี Bancho เชฟยอดฝีมืออีกคนที่กลับมาทำธุรกิจร้านอาหารอีกครั้ง โดย Dave จะรับหน้าที่ดำน้ำหาวัตถุดิบ Bancho จะปรุงซูชิขาย หลังจากดีลธุรกิจกันลงตัว ด้วยความเห็นแก่กินของ Dave ภารกิจการดำน้ำหาปลาที่สดใหม่ทุกวันจึงได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อม ๆ กับความลับใต้ทะเลที่ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยมากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้จะเปิดฉากเรื่องด้วยความเรียบง่ายเหมือนเกมอินดี้ที่ไม่มีอะไร แต่หากเราตั้งใจอ่านบทสนทนาดี ๆ เกมนี้จะซ่อนปมบางอย่างเอาไว้ผ่านข้อความไฮไลท์สี ที่มีการเอ่ยถึง แต่ก็จะยังไม่เล่าในตอนนั้น ค่อย ๆ ยั่วผู้เล่นให้เล่นต่อไปเรื่อย ๆ และทุก ๆ ครั้งที่มีการเปิดตัวละครใหม่ ก็จะมาพร้อมจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว เช่นนักศึกษาสาวที่ต้องการมาสืบหาความผิดปกติของท้องทะเลแถบนี้ แถมยังมาจิกหัวใช้งานเราด้วยการขอให้เก็บเอาสิ่งของใต้ทะเลขึ้นมาให้ หรือโอตาคุร้านอาวุธที่พูดจาดูถูกหุ่นและร่างกายของเราทั้งที่ตัวเองก็ไม่ต่างกัน หรือการเปิดตัวนักโบราณคดีที่มาขอให้เราช่วยสืบหาอารยธรรมของชนเผ่าใต้ทะเล เรียกได้ว่าเกมนี้สร้างตัวละครขึ้นมามากมาย โดยเชื่อมโยงเรื่องราวของแต่ละตัวเข้ากับระบบของเกมได้อย่างแนบเนียน ในขณะเดียวกันก็ใส่มุกจิกกัด หรือบทสนทนาที่จะสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนเล่น ทั้งความฮา ความกวน และความ WTF ให้กับคนเล่น
ที่ชื่นชอบอีกอย่างคือ ตัวเกมมีการนำเสนอวัฒนธรรมและโลกยุคปัจจุบันให้เข้ากับโลกในเกมได้อย่างแนบเนียน อย่างเช่น Dr.Bacon นักโบราณคดีที่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากเรา ก็เพราะเขาดันไปลงทุนกับเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีจนเจ๊ง ไม่มีเงินจ้างคนมาช่วยต่อ หรือการโน้มน้าวให้ Bancho เจ้าของร้าน รู้จักการเล่น Social Media เพื่อที่จะดึงดูดคนมาที่ร้าน เป็นความครีเอทของทีมพัฒนาที่ขยันหาวิธีในการเชื่อมโลกในเกมกับโลกความเป็นจริงได้อย่างดีเยี่ยม
เพียงแต่ในด้านของการเล่าเรื่อง เกมนี้จะใช้วิธีการเล่าแบบ Text Based ผ่านการ Conversation หรือการสนทนาเพียงเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นสายขี้เกียจ อาจจะไม่ถูกใจเอาได้ และมีบางช่วงที่การคุยกันถือว่ายืดยาวเอาเรื่อง ถึงแม้ว่ามันจะ Skip ฉากได้ แต่รับรองว่าคุณจะตกหล่นบทสนทนาที่เป็นส่วนหนึ่งและเป็นสีสันของเกมนี้ไปอย่างแน่นอน
Presentation
หากจะบอกว่าเกมอินดี้กับกราฟิกแบบ Pixel เป็นของคุ๋กันก็คงไม่ผิด เพราะเกมนี้เองก็ใช้กราฟิกนำเสนอแบบ Pixel เช่นกัน ฉากหลังของเกมนี้ส่วนมากเราจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกใต้ทะเลบ่อย ซึ่งใครเป็นโรคกลัวน้ำหรือใต้ทะเล ก็ไม่ต้องกลัว เพราะค่อนข้างจะสดใส และสว่างไสวกว่าเกมใต้ทะเลอื่น ๆ แต่ก็อาจจะมีศัตรูที่หลายคนกลัว หรือไม่ชอบอยู่บ้าง เช่น Giant Squid แต่หากเทียบกับเรื่องบรรยากาศแล้ว DAVE THE DIVER นั้น ถือว่ามีความน่ากลัวน้อยกว่า และทุกคนก็น่าจะเล่นได้ ฉากน้ำลึกมืด ๆ นั้นไม่ค่อยจะมีให้เห็นเท่าไร มีอารยธรรมใต้น้ำสวยงามให้เราได้เพลิดเพลินไปกับมันด้วย
ด้วยการนำเสนอของตัวเกม ทำให้มันจัดอยู่ในหมวดเกมเล่นเพื่อผ่อนคลายเลยก็ว่าได้ และเพราะเกมนี้ถูกจัดอยู่ในหมวด Roguelike ทำให้ทุก ๆ การลงน้ำของเรา จะได้พบเจอกับสถานที่ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากขนาดนั้น อะไรที่เป็น Key Mission หรือเป็นเส้นทางในการดำเนินเรื่องราวต่อ ก็มักจะอยู่ที่จุดเดิมเสมอ แค่สภาพรอบ ๆ จะเปลี่ยนไปก็เท่านั้น
สิ่งที่ค่อนข้างเหลือเชื่อเลยสำหรับเกมนี้ คือคอนเทนต์ที่ค่อนข้างเยอะมาก ๆ มากชนิดที่ว่าคุณเล่นไปหลายชั่วโมงแล้ว ก็ยังมีการปลดล็อค New Content ออกมาให้เล่นกันได้เรื่อย ๆ การดำน้ำลงใต้น้ำของเราแต่ละครั้งจะไม่ใช่แค่การหาปลา แต่จะมีระบบเกมที่ออกมาส่งเสริมให้การเล่นของคุณติดพันมากยิ่งขึ้น เช่น จากการดำน้ำหาปลามาทำซูชิเฉย ๆ ก็จะมีคำไหว้วานจากนักศึกษาสาว ให้ช่วยเก็บพืชหรือสิ่งของใต้ทะเลมาวิจัย แลกกับค่าตอบแทนเป็นเงินรางวัลและไอเทมเสริม หรือการเก็บเศษวัตถุดิบต่าง ๆ ใต้ทะเลเช่นแร่ ไม้ เชือก เศษเหล็ก มาคราฟท์เป็นอาวุธเป็นต้น แต่ใช่ว่าเราจะมีอิสระในการตามเก็บทุกอย่าง เพราะเราจะโดนจำกัดด้วยขีดจำกัดของอ๊อกซิเจน และความลึกของการดำน้ำที่จะอัปเกรดผ่านชุดและอุปกรณ์ของตัวละครได้ทีหลัง
ตัวเกมจะมีสองเวลา สองรูปแบบเกมเพลย์ ช่วงเวลากลางวันคือการดำน้ำลงไปหาของ และอีกช่วง คือช่วงเวลากลางคืน ที่เราจะต้องเปลี่ยนจากนักประดาน้ำ มาเป็นเด็กวิ่งงานเสิร์ฟอาหารของร้านซูชิกลางน้ำ ทั้งสองกิจกรรมนี้จะมีรูปแบบการเล่นและความท้าทายที่ต่างกันไป เรียกได้ว่าเล่นกันคนละแบบเลยก็ว่าได้ ทำให้เกมนี้คอนเทนต์จัดว่าแน่นมาก ๆ
อีกอย่างที่เป็นข้อดีเลยคือพวกฉากและดนตรีประกอบ แม้เกมนี้จะมีความเป็น RPG เบา ๆ จากการเก็บเงินมาอัปเกรดร้าน หรืออัปเกรดชุดตัวละครรวมไปถึงอาวุธ แต่สิ่งที่ทำให้เราเพลิดเพลินไปตลอดเวลาในการเล่นเกมนี้ คือเรื่องของ Mood ภายในเกม รวมไปถึงดนตรีประกอบ ก็ทำให้เรารีแลกซ์ และผ่อนคลายแทบจะตลอดเวลาที่เล่นเกมนี้ เป็นเกมอินดี้ที่เก็บรายละเอียดในด้านคุณภาพได้ดีไม่แพ้เกมใหญ่ ๆเลยด้วยซ้ำ
หลัก ๆ แล้วคอนเทนต์ของเกมคือเนื้อเรื่องแบบเส้นตรง แต่ระหว่างการดำเนินเรื่อง เราจะได้พบเจอกับเหตุการณ์มากมายที่เป็นภารกิจรอง แต่มันก็ไม่ได้โดดเด่นเกินจนลืมหรือกลบว่าเป้าหมายหลักของเกมคืออะไร ถือเป็นการดีไซน์ที่สมดุลดีมากสำหรับเกมอินดี้
Gameplay
สิ่งที่ DAVE THE DIVER เป็น คือความเป็นเกม RPG แต่เป็น RPG ที่เข้าถึงง่าย และไม่ต้องการการ Grinding อะไรขนาดนั้นด้วย ด้วยความที่ตัวเกมหลัก ๆ แบ่งออกเป็นสองช่วง กลางวันและกลางคืน ทำให้เกมเพลย์ทั้งสองแบบมีรูปแบบการเล่นที่ต่างกันออกไป
เริ่มจากช่วงเวลากลางวัน ในเวลากลางวันนั้น เราสามารถดำน้ำลงไปหาวัตถุดิบและปลาได้สองช่วง คือช่วงเช้า (Morning) และช่วงบ่าย (Afternoon) ซึ่งการดำน้ำแต่ละครั้งจะโดนจำกัดด้วยขีดความสามารถของชุดดำน้ำที่เราใส่อยู่ ในช่วงแรกเราก็อาจจะดำน้ำได้ไม่นาน และไม่ลึก เพราะถังอ๊อกซิเจนยังมีปริมาณความจุที่น้อยอยู่ รวมไปถึงชุดก็ทนแรงดันน้ำลึก ๆ ไม่ไหว ที่หนักกว่านั้นคือเก็บปลาได้ไม่กี่ตัว หรือเก็บของได้ไม่กี่ชิ้นเพราะกล่องเก็บของยังไม่สามารถรองรับของหนัก ๆ ได้ ทำให้ช่วงแรกผู้เล่นจะต้องบริหารจัดการหลายสิ่งหลายอย่าง เช่นลงไปเก็บปลาสายพันธุ์อะไรดี หรือเก็บของทั่วไปอะไรดี ถึงจะเหมาะสม และทำรายได้ให้กับเราได้มากที่สุด เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ เราก็จะสามารถเก็บเงินได้เยอะขึ้น ก็นำมาอัปเกรดอุปกรณ์และชุดต่าง ๆ
ในการล่าปลา ช่วงแรกเราก็จะมีอาวุธเพียงแค่หยิบมือ อย่างเช่นปืนฉมวก และปืนพื้นฐาน จนกระทั่งเราปลดล็อคสูตรการสร้างมากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้การลงน้ำแต่ละรอบมีเป้าหมายมากขึ้น และเราก็จะติดลูปการฟาร์มวนไป และคอนเทนต์ใหม่ ๆ ยังมีทั้งระบบสะสมการ์ดที่อาจจะไม่ได้ให้รางวัลอะไรมาก แต่ก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง หรือการช่วยนักศึกษาสาวเก็บของมาทำวิจัย ก็ทำให้เรามีของรางวัลเช่นเงิน และไอเทมใช้มากขึ้นด้วย
อาวุธที่ต่างกันจะทำให้เรามีรูปแบบการเล่น รวมไปถึงวิธีการจับปลาที่หลากหลายมากขึ้น อย่างเช่นปืนยิงสลบ เมื่อยิงโดนอาจทำให้ปลาตัวนั้นหลับ และเราสามารถเอามีดเข้าไปฟันได้ชิล ๆ หรือปืนพิษที่เราจะต้องควงเมาส์สักรอบสองรอบก่อนจับเป็นต้น ตรงนี้มองว่ามันเพิ่มความหลากหลายได้ก็จริง แต่ก็แอบน่ารำคาญเวลาต้องมานั่งแอ็คชั่นท่าพิเศษเพื่อจับปลา ท้ายที่สุดแล้ว การอัป Harpoon หรือปืนยิงฉมวกให้เลเวลสูง ๆ จนมีดาเมจแรง อาจจะมีประโยชน์มากกว่าการหาอาวุธดี ๆ ใช้ เพราะอาวุธก็ต้องใช้กระสุนด้วย หากกระสุนหมดก็ยิงไม่ได้ ส่วนกล่องกระสุนก็หาได้จากในใต้น้ำนั่นเอง
ในขณะที่ช่วงกลางคืน จะเป็นช่วงการไปทำงานที่ร้านซูชิ ตรงนี้เราสามารถนำเอาปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่หามาได้ มาทำการ Research วิจัยเป็นสูตรอาหารใหม่ ๆ ได้ ในขณะที่อาหารจานเก่า หากเราไปล่าปลาตัวเดิมมาเป็นวัตถุดิบ เราสามารถอัปเกรดอาหารเมนูนั้นสำหรับขายเพื่อทำกำไรได้มากขึ้นได้ด้วย และเราสามารถจัดเมนูในร้านที่จะเปิดวันนั้นได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อเราเปิดร้าน ตัวเกมก็จะนำเสนอเกมเพลย์เป็นสไตล์ Dash ที่เราจะต้องเสิร์ฟอาหารให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า เพื่อรับทิปพิเศษ ลูกค้าบางคนเข้ามาก็ต้องการน้ำชาเพื่อเป็นออร์เดิร์ฟ เราต้องบริหารจัดการตรงนี้ให้ดี และเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ลูกค้าที่มีชื่อเสียงและความโด่งดังก็จะมาเยือนร้านเรา โดยพวกเขาจะต้องการเมนูพิเศษที่เราอาจจะต้องไปเสี่ยงภัยกันสักหน่อย เช่นล่าฉลามเป็นต้น และในส่วนของการบริหารร้านซูชินั้น เราสามารถอัปเกรดร้านเพิ่มความสวยงาม รวมไปถึงจ้างพนักงานเพิ่มได้ แล้วแต่งบและรายได้ของเราด้วย เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระงานไม่ให้เราต้องวุ่นวายในช่วงเวลาเปิดร้านมากเกินไป
ตัวร้านยังมาพร้อมกับระบบค่าชื่อเสียงโดยเกมจะใช้แอป Cooksta (แอปในเกม) ลูกค้าที่มากินอาหารร้านเราแล้วเราบริการดี ลูกค้าก็จะโพสท์แนะนำลงในโซเชียล และทำให้ร้านโด่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนปลดล็อคเกรดของร้านได้ ร้านที่มีเกรดเยอะ เราจะสามารถเพิ่มเมนูต่อวันลงไปได้มากขึ้น ขายได้มากขึ้นก็หมายถึงเงินที่เยอะขึ้น และมีโอกาสดุึงดูดลูกค้า
ดังนั้นความสนุกของเกมนี้จึงมาในรูปแบบของการติดพัน การวนหาปลาที่เราต้องการเพื่ออัปเกรดเมนูจานโปรดของเหล่าลูกค้า ค้นพบเจอเรื่องราวใหม่ ๆ ในโลกใต้ทะเลผ่านตัวละครต่าง ๆ ต่อให้คุณไถแต่เนื้อเรื่องหลัก คุณก็จะยังมีอะไรให้ทำอีกมากมายชนิดเล่นกันไม่หวาดไม่ไหว เทียบกับราคา คอนเทนต์ เกมเพลย์แล้ว บอกเลยว่า คุ้มมาก ๆ
Performance
เรื่องของกราฟิกสำหรับเกมอินดี้นั้น รับประกันว่าหายห่วง ด้วยการนำเสนอแบบพิกเซลกราฟิก สำหรับตัวละครนั้น จะเห็นชัดเลยว่าเป็นพิกเซลกันแบบตรง ๆ ในขณะที่พวกฉากนั้น เรียกได้ว่าทำออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะหากมองผ่าน ๆ ทั่วไป เราอาจจะเดากันไม่ออกเลยว่ามันคือพิกเซลจริง ๆ
แต่ถึงแม้ตัวเกมจะต้องการ CPU ขั้นต่ำในระดับเพียง i3 เท่านั้น แต่สิ่งที่เกมนี้ต้องการจริง ๆ ก็คือ Ram เพราะตัวเกม Recommend ตัว Ram มากถึง 16GB ในขณะที่การ์ดจอแห่งชาติอย่าง GTX 750Ti ก็สามารถเล่นได้แล้ว ดังนั้นใครคิดจะเล่นเกมนี้ ก็จัด Ram ไว้ให้เพียงพอก็พอแล้ว
ปัญหาต่าง ๆ ในระหว่างเกมการเล่นก็แทบไม่เจอเลยในระหว่างการเล่น ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทีมงานจัดการและแก้ไขกันมาตั้งแต่ช่วง Early Access แล้ว ทำให้ช่วงเกมออกจริง แทบไม่มีปัญหาใด ๆ ในระหว่างการเล่น ถือว่าหายห่วงแบบ 100% ในเรื่องของ Performance
DAVE THE DIVER กลายเป็นเกมอินดี้ที่คอนเทนต์เยอะเกินราคา สอดแทรกความฮาและความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าสิ้นปีนี้ เราจะได้เห็นเกมนี้เดินหน้ากวาดรางวัลจากหลาย ๆ เวทีแน่นอน
