ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกมแนว Sandbox หรือแนว Survival นั้น ยังคงเป็นที่นิยมอยู่เสมอแม้เวลาจะผ่านมานานเท่าไร และเครื่องเกมจะผ่านไปกี่ Generation แล้วก็ตาม สาเหตุเพราะความสนุก เล่นง่าย สะดวกสบาย แถมติดพันง่ายสุด ๆ และหากคุณยังไม่เบื่อเกมแนวนี้ วันนี้เรามีอีกเกมมานำเสนอ กับ Dysmantle หลังจากเห็นข่าวคราวมานานนับปี ในที่สุดก็ออกวางจำหน่ายซักที แล้วมันจะคุ้มค่ากับการรอคอยหรือน่าเล่นมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราหยิบมารีวิวให้ชมกัน หลังจากเล่นกันจนติดหนึบเลยทีเดียว
Story
แม้ว่าคุณจะเบื่อเรื่องราวของเหล่าซอมบี้แค่ไหน ก็อาจจะต้องเจอมันอีกครั้งในเกมนี้ และโชคดีที่มันไม่ใช่ซอมบี้แท้ ๆ เหล่าผู้ติดเชื้อในเกมนี้จะมีรูปร่างคล้ายกับพวก Cordyceps ใน The Last of Us แต่เหมือนแค่รูปร่าง เพราะเกมเพลย์นั้น Casual กว่ามาก
เนื้อเรื่องของเกมคือเราเป็นชายหนุ่มไร้ชื่อผู้อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง แต่เกาะก็ถูกรุกรานโดยเชื้อร้ายนี้ ผู้คนอพยพออกจากเกาะ แต่เราซึ่งอาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยต่อจนของกินของใช้หมด เราจึงต้องขึ้นมาบนพื้นดินอีกครั้ง และต้องหาทางเอาตัวรอดไปพร้อม ๆ กับหาทางออกจากเกาะ
เนื้อเรื่องเหมือนหนังเกรดบีทั่วไปที่คุณน่าจะเคยพบ เคยผ่านหูผ่านตามาแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เกมที่มีความเป็น Sandbox อย่างนี้ ย่อมมีการเล่าเรื่องที่ไม่ปะติดปะต่อกันนัก เพราะเราจะต้องหาของ คราฟท์ของ เอาตัวรอด เปิดแผนที่ หาของใหม่ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเนื้อเรื่องคืออะไร เราเองก็คงไม่รู้เหมือนกัน เพราะเราจะจมดิ่งไปกับการหาของคราฟท์ ตีมอน เก็บเลเวลล้วน ๆ
Presentation
ปกติแล้วเกมแนวผู้ติดเชื้อ ซอมบี้ แบบนี้หลายคนอาจจะคิดว่ามันต้องเป็นเกมแนว Survival แน่ ๆ แต่เราจะบอกว่าคุณคิดผิดครับ.. แกนหลักของเกมนี้คือความเป็น Action RPG ที่มีระบบ Craft มาเป็นเป้าหมายรอง ตัวละครของเราจะไม่จำเป็นต้องหาน้ำ หาอาหารกิน ไม่มี Stamina ไม่ต้องนอนพัก เราสามารถลุยได้ยาว ๆ ไม่ว่าโลกในเกมจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน
ที่เซอร์ไพรส์ก็คือแผนที่ในเกมที่มีขนาดใหญ่มาก มากกว่าที่เราคาดคิดไว้มาก ในช่วงแรกเราจะยังไม่เห็นแผนที่ในเกมทั้งหมด และเกมนี้ใช้วิธีเปิดแผนที่แบบเดียวกันกับที่เกมอื่นใช้ นั่นคือเราต้องหาเสาวิทยุให้เจอ และเมื่อเปิดการทำงานแล้วเราจึงจะมองเห็นสภาพโดยรวมของโซนนั้น ๆ
ตัวเกมจำลองโลกหลังการล่มสลายออกมาได้ดี เราจะได้เห็นซากบ้าน ซากรถ และอื่น ๆ อีกมาก รวมไปถึงรอยแยกปริศนาที่เนื้อเรื่องของเกมยังเล่าไม่หมด และด้วยความที่ตัวเกมตอนนี้ยังเป็น Early Access อยู่ ฟีเจอร์บางอย่างของเกมจึงยังไม่พร้อมให้ใช้งานในตอนนี้
คอนเซปต์หลักของเกมนี้คือ ทั้งหมดในเกมประมาณ 99% จะสามารถทุบทำลายได้ ของทุกอย่างเมื่อทำลายแล้วจะกลายไปเป็นวัตถุดิบให้เราได้เก็บมา เช่นกองขยะที่ทำลายแล้วอาจได้เป็นเศษพลาสติก โต๊ะ เก้าอี้เมื่อทำลายก็จะได้ไม้และเหล็ก หรือถ้าเป็นพวกทีวี วิทยุ ก็จะได้เป็นเศษเหล็กและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ไม่เว้นแม้แต่พวกซอมบี้ที่อาจจะได้ผ้า สังเกตได้ว่าเราสามารถหาวัตถุดิบได้จากการทำทุกอย่างภายในเกม เกมนี้จึงมีความเป็น Casual พอสมควร ไม่ได้เล่นยากหรือฮาร์ดคอร์อะไร เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมสบาย ๆ แต่ก็ไม่ง่ายเกินไปนัก
และที่น่าสนใจคือตัวเกมมีเรื่องของสิ่งลี้ลับโบราณเข้ามาผสมผสาน เพราะในเกมแฝงมาด้วยสุสานโบราณลึกลับที่เพิ่มกลไกการเล่นแบบเกม Puzzle เข้ามา และอาจจะนำเอาสมบัติที่ดรอปจากสุสานพวกนี้ไปใช้ในฟีเจอร์เกมในอนาคต
หากใครชื่นชอบบรรยากาศโลกหลังการล่มสลาย เกมนี้ถือว่าจำลองออกมาได้ดี และด้วยกราฟิกแบบการ์ตูนทำให้มันไม่กินสเปคเครื่องมากเท่าที่ควร และเกมในตอนนี้เป็น Single Player ไม่มีโหมดออนไลน์หรือ Co-op ใด ๆ แต่ในราคา 251 บาท (ราคาโปรโมชั่นเปิดตัว) กับคอนเทนต์เกมที่เล่นได้เกิน 10 ชั่วโมงแน่ ๆ ถือว่าคุ้มแน่นอน หากคุณชอบเกมแนวนี้ เพราะมีการยืนยันแล้วว่าเมื่อตัวเกมออกจาก Early Access จะมีราคาที่สูงขึ้น หากคุณชื่นชอบเกมแนว Sandbox ไม่เน้นเอาตัวรอด เน้น Action เกมนี้คุณจะชื่นชอบได้ไม่ยาก
Gameplay
อย่างที่เราบอกกันว่าเกมนี้ไม่ใช่แนว Survival เป็นหลัก แต่เป็น Action RPG เราจะเริ่มต้นมาด้วย Crowbar หรือชะแลงกู้โลกที่สามารถเข้าไปทุบตีกับเหล่าซอมบี้ได้ แน่นอนว่าเมื่อมีความเป็น RPG เราจึงมีระบบเลเวล การฟาร์ม และการอัปเกรดมากมาย
การอัปเลเวลตัวละครนี้ได้จากการทำทุกอย่างตั้งแต่ตีซอมบี้ ไปจนถึงนำเอาทรัพยากรกลับไปใส่ไว้ในกล่อง Store Material แต่หากอยากได้ EXP สูง ๆ ก็ต้องเล่นไปตามเนื้อเรื่องหรือทำ Side Quest ต่าง ๆ ของบางอย่างจะปลดล็อคได้เมื่อเลเวลถึง เช่นอาวุธที่ดีขึ้น, ที่สะเดาะกุญแจ, หม้อหุงอาหารระดับสูงที่สามารถปรุงอาหารระดับสูงได้ และอื่น ๆ อีกมากมาย
สกิลภายในเกมนี้จะแบ่งออกเป็น 4 สายหลัก ๆ คือ Misc (ของจิปาถะ) Supplies (ของใช้ต่าง ๆ) Tools (อุปกรณ์เสริมในการต่อสู้และดำรงชีวิต) และ Outfits หรือเสื้อผ้าของเรา เมื่อเลเวลสูงขึ้นเราจะปลดล็อคของใหม่ ๆ ในแต่ละสายได้มากขึ้นด้วย
ทั่วแผนที่ในโลกจะมีกองไฟหรือ Campfire ถ้าเราไปนั่งพัก จะเป็นการเติมพลังชีวิตและกระสุนของอาวุธทั้งหลาย (รวมพวกมีดขว้าง) และเลห่าซอมบี้ที่คุณฆ่าไป จะเกิดใหม่ทั้งหมดด้วย ระบบนี้คล้าย ๆ กับ Dark Souls นั่นเอง ส่งผลให้คุณสามารถฟาร์มไอเทมที่ต้องการได้่สบาย ๆ นี่คือสาเหตุที่ผู้เขียนบอกว่าเกมไม่ได้เล่นยากขนาดนั้น และระบบการต่อสู้เองก็ไม่ยากจนเกินไปด้วย คุณสามารถใช้วิธี Hit & Run วิ่งไปตีไปได้ แถมตัวเกมยังมีการกลิ้งหลบได้ด้วย และด้วยความที่มันไม่มี Stamina เลยยิ่งสบาย นับตั้งแต่เล่นมา ผู้เขียนยังไม่เคยเจอศัตรูตัวไหนที่ทำให้ตึงมือจนรู้สึกสู้ไม่ไหวเลย แม้แต่บอสก็ใช้วิธีตีแล้ววิ่ง หรือกลิ้งหลบเอาได้
ใกล้ ๆ กับกองไฟจะมี Store Material หากช่องเก็บของคุณเต็มและคุณไม่ต้องการจะนั่งกองไฟ คุณสามารถเดินไปกด E ที่กล่องเก็บของได้ เพื่อส่งของเข้าไปในคลัง และระบบจะนับรวม ไม่ว่าคุณจะถือของอยู่หรือเก็บไว้ในคลัง ก็สามารถใช้คราฟท์ไอเทมหรืออัปเกรดไอเทมได้เลย โดยไม่ต้องถือรวมกันไว้ให้วุ่นวาย ถือเป็นระบบที่ดีมาก
เกมจะมีระบบภารกิจหลักให้เราดำเนินไปตามเนื้อเรื่อง แต่ก็ใช่ว่าจะดิ่งลุยเนื้อเรื่องจนจบเกมได้ เพราะเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ เราต้องพาตัวเองไปฟาร์มเพิ่มเลเวลก่อน เพื่อปลดล็อคหรือหาทางไปโซนพื้นที่ใหม่ ๆ และการเก็บเลเวลในเกมนี้ก็ยากเอาเรื่องเลย นอกจากการตีมอน ทำลายสิ่งของแล้ว ยังมี Side Quest ให้ทำ ซึ่งจะปรากฎอยู่ตามแมปต่าง ๆ แต่ที่ไวที่สุดน่าจะเป็นการสะสม Medals หรือเหรียญรางวัล เงื่อนไขการได้ก็ง่าย ๆ คือทำตามที่ระบบกำหนดไว้ เช่นเดินทางให้ครบ, เปิดเสาวิทยุ 4 เสา, ล่าสัตว์ 10 ตัว พวกนี้จะได้ EXP สูงมาก
หน้าจอเมนูการคราฟท์ก็ถือว่าทำได้ดี หากเราอยากโฟกัสการคราฟท์ของชิ้นไหนเป็นพิเศษก็สามารถกด Track ให้แสดงไว้ที่หน้าจอด้านขวาได้ เมื่อของครบเราจะรู้ได้ทันที เป็นอีกระบบที่อำนวยความสะดวกสบายในการเล่น ไม่ต้องงงว่าเราจะคราฟท์หรือหาของอะไรอยู่
ด้วยความที่เกมเพลย์เข้าถึงง่ายแบบสุด ๆ และการเล่นก็ไม่ได้ยาก เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบเล่นเกมสายชิลล์ แต่อาจจะเสียเวลาไปกับการฟาร์มของ แน่นอนใครที่ไม่ชอบเล่นเกมแบบ Griding หาของอัปเกรดวนไปก็อาจจะเบื่อเกมนี้ก็ได้ แต่ในฐานะคนที่ชอบ กับคอนเทนต์เกมที่มีมากกว่า 10 ชั่วโมง เกมนี้ถือเป็นอีกเกมที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ
Performance
เป็นหนึ่งในเกม Early Access ไม่กี่เกมที่ต้องชื่นชมในเรื่องของ Performance อาจเป็นเพราะตัวเกมเป็นแนวการ์ตูน ภาพสีสวย ๆ จึงทำให้มันไม่ค่อยกินสเปคเครื่อง และตลอดเวลาที่เล่นมาเกือบสิบชั่วโมง ก็ยังไม่มีอาการเกมแครช เด้งหลุด เซฟพัง เสียงหาย อะไรเลยสักอย่าง แต่จะให้คะแนนเต็มเลยก็อาจจะไม่แฟร์เพราะมันคือช่วง Early Access ปัญหาที่ผู้เขียนไม่เจอ คนอื่นอาจจะเจอก็ได้เหมือนกัน
ในส่วนของ Setting ก็ปรับรายละเอียดได้น้อยไปหน่อย แต่ฟีเจอร์ที่สำคัญนั้น มีให้ปรับแต่งแบบครบเครื่อง ที่ต้องติหน่อยคือเรื่องเสียงที่มีตัวเลือกให้ปรับน้อยไปนิด
Dysmantle อาจจะเป็นเกมแนวที่หลายคนเล่นกันจนเอียนแล้ว แต่สำหรับแฟนเกม Sandbox ผสมกับการเอาตัวรอดเล็ก ๆ น้อย ๆ เน้นไปทางต่อสู้เอามัน เกมนี้ถือว่าสนุกใช้ได้ และเรามารอดูกันว่าในช่วงที่เกมเต็ม 1.0 นั้น จะสนุกขนาดไหน และตอนนี้หลายคนเรียกร้องระบบออนไลน์มาก ก็ไม่รู้ทางผู้พัฒนาเขาจะว่ายังไงเหมือนกัน
