BY Aisoon Srikum
18 Nov 21 5:43 pm

รีวิว Halo Infinite Multiplayer ครบเครื่องสมรภูมิเล็ก-ใหญ่ ในรูปแบบ Free to Play

41 Views

2021 นี้ ถือเป็นปีที่ดุเดือดสำหรับแฟนเกม FPS อย่างแท้จริง เพราะเกมระดับ AAA ต่างรวมตัวกันมาเปิดให้บริการในช่วงท้ายปีนี้กันหมด ไม่ว่าจะเป็น Battlefield 2042, Call of Duty: Vanguard และปีนี้ยังมีคนโดดมาร่วมวงเพิ่มอีกเกม นั่นคือ Halo Infinite ที่โหมดออนไลน์เปิดให้เล่นกันแบบฟรี ๆ ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม ทำให้แฟนเกมหลายคนมีโอกาสได้สัมผัสหนึ่งในซีรีส์เกมยิงระดับตำนานเกมนี้ และมันจะสุดยอดขนาดไหน วันนี้เชิญพบกับบทความรีวิว Halo Infinite Multiplayer

Presentation

20211116022709 1

แน่นอนว่า ด้วยความที่มันเป็นโหมดออนไลน์โดยเฉพาะ ดังนั้นเราจะเข้ามาพูดในส่วนของ Presentation กันเลย เพราะไม่มีโหมด Story ให้พูดถึงกันอยู่แล้ว โหมดมัลติเพลเยอร์ของเกมนี้ในตอนนี้จะมีทั้งหมด 10 แผนที่ แบ่งเป็นโหมด Quick Play 7 แผนที่ และโหมด Big Team Battle อีก 3 แผนที่ และจะมี Objective ของโหมดเกมมาเป็นเงื่อนไขในการเอาชนะ และโหมดเกมนี้ก็ค่อนข้างหลากหลายด้วย

สเกลของเกม Halo Infinite นั้น ต้องบอกว่ามันคือการออกแบบเกมมาให้อยู่ตรงกลางระหว่างผู้เล่นที่ชอบการต่อสู้ขนาดเล็กอย่าง Call of Duty และชอบการต่อสู้ขนาดใหญ่ แต่ไม่ใหญ่เท่า Battlefield 2042 เกมนี้มีทุกอย่างมอบให้คุณทั้งหมด แถมยังลงตัวมาก ๆ สำหรับโหมด Quick Play นั้น จะเป็นโหมดเกมการเล่นขนาดเล็กแบบ 4vs4 และมีโหมดแยกย่อยลงไปอีก เช่น Capture the Flag หรือโหมดยึดธง ที่หลายคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นโหมดที่สนุกมาก ๆ ของ Halo ซึ่งการยึดธงนั้นจะมีทั้งแบบยึดธงเดียวแล้วชนะจบเป็นรอบ ๆ ไป หรือยึดให้ได้ 3 ธงถึงจะจบ / โหมด Strongholds ที่เราต้องยึดพื้นที่ให้ได้อย่างน้อย 2 ใน 3 จุด และยังมีโหมดคลาสสิคอย่าง Slayer หรือถ้าเอาง่าย ๆ ก็คือ Team Deathmatch โหมดนี้จำนวนแผนที่ที่รองรับจะเยอะที่สุดเช่นกัน

20211116095005 1

ในขณะที่โหมด Big Team Battle จะเป็นสมรภูมิการต่อสู้ขนาดใหญ่ระดับ 12vs12 (รวม 24 คน) และมีโหมดแยกย่อยลงไปคือ Total Control ที่เป็นการยึดจุดทั้ง 3 ให้ได้ทั้งหมด ถึงจะได้แต้ม / Stockpile อันนี้สนุกมาก เพราะเราและทีมจะต้องร่วมมือกันขโมย Power Seed กลับมาใส่ที่ฐานของเรา เมื่อใส่ครบ 5 อันจะได้ 1 คะแนน ทีมไหนได้ 3 คะแนนก่อนก็ชนะไป และทีวุ่นวาย ดุเดือด ลุ้นระทึกกันมากคือ Capture the Flag ที่มีสเกลใหญ่ขึ้น โดยเราจะต้องทำการขโมยธงศัตรูกลับมาที่ฐานของเรา แต่ด้วยสเกลผู้เล่นขนาด 24 คน ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดากันออกอยู่แล้วว่ามันจะวุ่นวาย ดุเดือดขนาดไหนในแต่ละรอบ

เรื่องของการดีไซน์แผนที่นั้น ถือว่าทำออกมาได้ดี จากที่เล่นมา แต่ละแผนที่ก็จะมีจุดยุทธศาสตร์เป็นของตัวเอง ดังนั้นผู้เล่นหน้าใหม่อาจจะต้องทำการจดจำ และศึกษาแต่ละจุดในแผนที่ให้ดี เพราะการรู้แผนที่ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว นอกจากนั้นเกมนี้ การรู้แผนที่จะมีส่วนกับเกมเพลย์การเล่นในการได้ไอเทมพิเศษ หรือจุดที่ยานพาหนะดรอปลงมาด้วย การเข้าถึงสิ่งของพวกนี้ก่อนก็อาจจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกันขึ้นมา

20211118000242 1

นอกจากนั้น ด้วยความที่ตัวเกมเป็นเกมเล่นฟรี สิ่งที่เกมพ่วงนำเสนอมาให้คือระบบ Progression ของตัวละครผ่านสิ่งที่เรียกว่า Battle Pass ที่น่าจะเห็นกันแทบทุกเกมในสมัยนี้อยู่แล้ว และส่วนของการปรับแต่งต่าง ๆ ต้องบอกว่าเกมนี้นั้นมีค่อนข้างน้อยมาก ส่วนมากจะเน้นหนักไปที่ชุดเกราะ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของตัวละคร ส่วนปืนนั้นแต่งได้น้อยมาก สกินก็ไม่ค่อยจะมี คือเกมนี้จะเน้นหนักไปที่การปรับแต่งตัวละครและพวก Nameplate (ป้ายชื่อ) มากกว่า พวกชุดเกราะนี่ แต่งได้ยันส่วนไหล่ ส่วนเกราะอกกันเลยทีเดียว จะมิกซ์ให้มันมีหลายสีก็ยังได้ ส่วนปืนนั้น ไม่ค่อยให้ความสำคัญนัก ส่วนมากจะเป็นการเปลี่ยนสีเท่านั้น ใครที่ไม่ค่อยอินกับแฟชั่นก็ไม่มีปัญหา ส่วนคนที่อินกับแฟชั่นก็จะเสียเงินน้อยหน่อยนั่นแหละ เว้นแต่บางคน ที่เห็นอะไรสวย ๆ โดดเด่นกว่าคนอื่นไม่ได้ ต้องเสียเงินทุกที อันนี้ก็คงไม่รอดตามเดิม

Gameplay

2021 11 18 173047

2021 11 18 173047

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า นี่คือประสบการณ์เกม Halo “ภาคแรก” ของผู้เขียนเลย ด้วยความที่ Halo ภาคเก่า ๆ มันก็อยู่บน XBOX จึงไม่ทันเล่นในช่วงแรก และแม้ว่ามันจะกลับมาขายใหม่ในรูปแบบ Master Chief Collection แต่ก็รู้สึกว่าไม่อินกับตัวเกมมากขนาดนั้น จนได้มาลองเปิดใจเล่น Infinite นี้อีกรอบ และน่าจะเป็นภาคที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดแล้ว

สำหรับคนที่เล่น Call of Duty หรือ Battlefield หรือเกมยิงอื่น ๆ มามากกว่า เกมนี้คุณอาจจะต้องปรับตัว และทำความเข้าใจกันสักพักหนึ่ง สิ่งที่แตกต่างกันออกไปคือเรื่องของ Gunplay และการยิงของเกมนี้จะไม่ค่อยเหมือนเกมอื่น ใครที่ชอบการยิงแบบดุดัน หนักแน่น แบบอยู่ในสงครามจริง ๆ คุณอาจจะต้องฝ่าด่านของอารมณ์ความรู้สึกตอนยิงสักนิด (คนเล่นบางคนก็ซีเรียสตรงจุดนี้พอสมควร) เพราะปืนของเกมนี้มันจะไม่ได้ยิงแบบเร้าใจมากนัก เพื่อนของผู้เขียนคนบอกว่าปืนในเกมนี้มันเหมือนยิง BB Gun กันซะมากกว่า

และเกมนี้จะมี TTK (Time To Kill) หรือเวลาที่ใช้ในการฆ่ากันค่อนข้างสูงมาก ไม่ใช่เกมยิงแปปเดียวตายแบบเกมอื่น แต่รูปแบบการฆ่ากันของเกมนี้จะเป็นการเน้นยิงให้เกราะแตก หรือยิงไปสักพักนึง แล้ววิ่งเข้าไปสับศอกฆ่ากันด้วย Melee Attack มากกว่า คือเกมนี้การโจมตีด้วยการสับศอกมันค่อนข้างแรงมาก และใช้ปิดเกมได้ค่อนข้างดี ตอนแรกผู้เขียนก็งงว่าทำไมมันยิงตายกันยากขนาดนี้ จนโดนคนอื่นสับศอกเข้าบ่อย ๆ จนคอแทบหัก ถึงรู้ว่าเขาเล่นกันแบบนี้ และพอคุณเข้าใจกติกาการเล่นและรูปแบบการฆ่าแล้ว คุณก็ค่อย ๆ สนุกไปกับตัวเกม

2021 11 18 173151

2021 11 18 173151

ใน Halo Infinite นั้น ผู้เล่นจะเริ่มต้นมาด้วยอาวุธปืนหลักของตัวเองอย่าง MA40 Assault Rifle ถ้าอยากได้ปืนประเภทใหม่ ๆ ก็ต้องไปวิ่งหาเอาในฉาก นอกจากนั้นยังมีเหล่าปืนพิเศษที่มีให้เก็บอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pulse Carbine ปืนก้อนพลังงานสุดแสบ Needler ปืน Aimbot ตัวจี๊ด หรือ Plasma Pistol ปืนพกพาแบบพลังงานสูงที่สามารถชาร์จยิงได้ และภาคนี้ยังมี Energy Sword ดาบพลังงานสุดโกงที่ตบทีเดียวตายได้ แต่ก็ต้องใช้งานในระยะประชิดเท่านั้นด้วย อาวุธต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เกมเพลย์การเล่นสนุกขึ้น เพราะแทบจะเป็นตัวพลิกเกมในบางสถานการณ์ โดยอาวุธทั้งหมดในเกมนี้จะมีมากถึง 24 ประเภทให้ได้เลือกใช้งานกัน

อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้โหมดการเล่นมันมีหลากหลายรูปแบบมาก ๆ ถ้าอยากเล่นสเกลเล็ก ก็ให้เล่นโหมด Quick Play แต่ถ้าอยากสัมผัสสเกลใหญ่ก็ต้อง Big Team Battle ซึ่ง Big Team Battle นี้ น่าจะเป็นประสบการณ์แท้ ๆ ของ Halo Infinite ด้วยความวุ่นวาย ดุเดือด ลุ้นระทึกแทบจะตลอดเวลา และด้วยความที่มันมีโหมดการเล่นอยู่เพียง 3 โหมดเท่านั้น เรามักจะได้สัมผัสประสบการณ์เกมทั้ง 3 โหมดแทบจะวนเวียนเปลี่ยนกันไปตลอดเวลา จะติดก็แต่เรื่องแผนที่ที่มันน้อยไปหน่อย เลยมักจะได้แผนที่ซ้ำ ๆ กันแต่เปลี่ยนโหมดเท่านั้น

2021 11 18 173236

2021 11 18 173236

ความมันของเกมนี้คือการชิงจุด ชิง Objective กัน และเราต้องเน้นการทำงานเป็นทีมแทบจะตลอดเวลา ด้วยความที่เงื่อนไขการเอาชนะนั้น หากไม่ใช่โหมด Slayer การฆ่ากันก็แทบจะไร้ความหมาย นอกจากถ่วงเวลาทีมศัตรูให้อ่อนกำลังลงช่วงหนึ่ง หัวใจสำคัญคือการทำ Objective เช่นโหมด Stockpile ที่ต้องแย่ง Power Seed กันมาใส่ฐาน แต่การถือ Power Seed อยู่ เราจะไม่สามารถใช้อาวุธปืนได้ แต่เราสามารถขว้าง Power Seed ไปข้างหน้าได้ หากผู้เล่นช่วยเหลือกัน ขว้าง Power Seed ส่งต่อ ๆ กันไป และแบ่งจำนวนคนกลุ่มหนึ่งให้คอยยิงป้องกัน จึงจะเป็นทางออกที่ดี หรือโหมดยึดธง ที่คนถือธงเองจะไม่สามารถใช้อาวุธได้เช่นกัน แต่สามารถตีประชิดได้ ก็ต้องการผู้เล่นในทีมมาคอยคุ้มกันหรือเบิกทางให้ การเล่นในโหมด Big Team Battle จึงไม่ใช่เกมที่ผู้เล่นจะมาเปรี้ยวฉายเดี่ยวเป็น One Man Show ได้ เพราะถ้าคิดจะทำอย่างนั้นก็แพ้แน่นอน

สเกลความใหญ่ของแผนที่ในโหมดนี้คือใหญ่มาก ถ้าวิ่งนี่ใช้เวลานานแน่นอน เกมจึงใส่ยานพาหนะที่หลากหลายเข้ามาในเกม มีทั้งแบบที่ติดอาวุธ นั่งได้หลายคน หรือยานรบแบบติดอาวุธแต่ขับได้คนเดียว ความรู้สึกตอนนั่งรถกัน 4 คน แล้วซิ่งไปโจมตีศัตรูนี่มันเป็นอะไรที่เท่มาก แต่ถึงอย่างนั้น ยานพาหนะก็ไม่ได้ทำให้เรามีเปรียบอะไรขนาดนั้น ดีไซน์แผนที่ มันไม่ได้เอื้อให้คนมีรถได้เปรียบ แค่ทำให้เราไปถึงจุดที่ต้องการเร็วขึ้น และว่ากันตามตรง ผู้เขียนรู้สึกว่ายานพาหนะของเกมนี้มันขับยากและควบคุมยากเอาซะมาก ๆ เริ่มเล่นครั้งแรกนี่คว่ำกับชนจนไม่รู้จะคว่ำยังไง และที่แสบที่สุดเลยคือ มันสามารถขับชนศัตรูให้ตายไปเลยก็ได้ถ้าความเร็วสูงพอ แต่มันก็เป็นปัญหาตามมาคือ การขับยานพาหนะ มันจะชนเพื่อนทีมเดียวกันตายได้ด้วย บางครั้งนี่ทำ Objective ใกล้เสร็จแล้ว โดนเพื่อนร่วมทีมที่มีจิตวิญญาณนักซิ่งขับมาชนเราตายซะอย่างงั้น หัวนี่ร้อนจนแทบจะทอดไข่ได้เลย

2021 11 18 173358

2021 11 18 173358

นอกจากนี้เรายังมีตัวช่วยเสริมอย่าง Gadget หรืออุปกรณ์เสริมให้ใช้งาน ซึ่งก็เหมือนกับอาวุธหรือยานพาหนะ คือจะหาเก็บได้ตามฉาก และมันจะช่วยให้การเล่นของเราพลิกแพลงได้มากขึ้น เช่น Active Camo ที่เอาไว้ล่องหนพรางตัวชั่วคราว , Overshield ที่จะช่วยบูสท์เกราะเราให้มากข้ึ้นไปอีก วิ่งห้าวได้มากขึ้น , Grappleshot ที่ทำให้เรายิง Grappling Hook ได้ แถมการควบคุม Graplling Hook ในเกมนี้ก็ทำได้ดีมากเสียด้วย

Halo Infinite จึงมีแทบจะทุกอย่างที่ระบบเกม Multiplayer เจ๋ง ๆ เขามีกัน และที่สำคัญคือ มันเล่นฟรี ถ้าตัดระบบ Battle Pass ออก (ซึ่งบอกเลยว่าไม่น่าสนใจมากเท่าเกมอื่น) นี่จึงเป็นเกมฟรีที่สีศักยภาพมากพอจะไปต่อได้ยาว ๆ แต่ผู้เล่นบางคนอาจจะต้องปรับตัวกับระบบการยิงแน่นอน เพราะ Halo ก็เป็นเกมที่อยู่มานานแล้ว

Performance

20211118173557 1

20211118173557 1

อาจเพราะเป็นการปล่อยตัวเกมแบบแยกเดี่ยวออกมา ทำให้ Halo Infinite น่าจะเป็นโหมดออนไลน์ที่กินพื้นที่ฮาร์ดไดร์ฟน้อยที่สุดแล้ว โดยมันมีไซส์ติดตั้งเพียง 26GB เท่านั้น (อ้างอิงจาก Steam PC) แต่ปัญหาของมันดูจะเป็นเรื่องของการกินสเปคคอมพิวเตอร์ในการเล่นระดับหนึ่ง ใครที่คอมพิวเตอร์อยู่ในระดับต่ำนั้นอาจจะลำบากสักเล็กน้อยกับอาการกระตุกที่เกิดขึ้นบางช่วง โดยเฉพาะในโหมด Big Team Battle ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก เรื่องของกราฟิกนั้น บางส่วนอาจจะดูแข็ง ๆ ไปบ้าง แต่ Halo นั้น แทบไม่เคยจะเปลี่ยนแนวทางในด้านกราฟิกของตัวเองอยู่แล้ว ใครที่คาดหวังจะเล่นเกมภาพสวย ๆ อลังการ ๆ นั้น Call of Duty กับ Battlefield ยังคงตอบโจทย์กว่าอยู่ดี เพราะมันไม่ได้สวยมาก ถึงขั้นที่ว่าปรับ Low ก็ยังแทบจะไม่เห็นความต่างสักเท่าไรนัก

และด้วยความที่เกมนี้เป็นของเครื่อง XBOX มาก่อน การตั้งค่าด้วยจอยคอนโทรลเลอร์ของเกมนี้จึงค่อนข้างละเอียดมาก สามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบมาก ใครที่ใช้จอยก็สามารถปรับแต่งให้เข้ากับการใช้งานได้ นอกจากนั้นเกมก็ถือว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มากนัก อาจจะมีบ้างเรื่องปิงที่บางทีก็พุ่งสูงขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ อาจจะเป็นส่วนของการเชื่อมต่อเกม

20211118173600 1

20211118173600 1

Halo Infinite คือประสบการณ์เกม Multiplayer แบบเล่นฟรี ที่ให้ประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยม ถ้าจะมีข้อเสียก็คงเป็นส่วนของระบบ Battle Pass ที่ยากจนเกินไป แต่ในเมื่อมันไม่ส่งผลกระทบกับเกมเพลย์การเล่นก็แทบจะไม่ใช่ปัญหา แต่ในส่วนของเซิร์ฟเวอร์เองที่มีปัญหาบ้างประปรายก็ถือเป็นเรื่องปกติของเกมที่มีจำนวนผู้เล่นสูง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับอนาคตแล้วว่า Halo Infinite จะส่งมอบคอนเทนต์ที่น่าสนใจมาดึงผู้เล่นเอาไว้ได้อย่างตลอดรอดฝั่งหรือไม่

Verdict 8.5/10

 

 

 

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top