‘สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง’ ชื่อนี้ กลายเป็นที่คุ้นหูเมื่อไม่กี่ปีก่อน เพราะการพัฒนาอันก้าวกระโดดของเทคโนโลยี มือถือไม่ได้ทำหน้าที่เพียงโทรเข้าโทรออกเหมือนเมื่อก่อน ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิงรูปแบบไหน สมาร์ทโฟน ทำได้เกือบทั้งหมด จนถูกขนานนามว่าเป็นปัจจัย 5 ของมนุษย์
โดยเฉพาะการเล่นเกม ที่ได้รับการโฟกัสมากเป็นพิเศษ ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ ๆ ทั้งหลายปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทำขึ้นมาขยายขีดจำกัดการเล่นเกมมือถือให้ไปไกลกว่าเดิม ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนเกมมิ่งคึกคักเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยมาลองหยิบสมาร์ทโฟนเกมมิ่งมารีวิว กับ ROG Phone 3 สมาร์ทโฟนเกมมิ่งจาก ASUS ผู้มีชื่อลือชาในเรื่องการเล่นเกมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผลลัพธ์จะเป็นยังไง ไปดู
ดีไซน์เกมเมอร์ เพื่อเกมเมอร์
ROG Phone เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เริ่มตั้งแต่การไม่เลือกใช้เทคโนโลยีจำพวกกล้อง Punch Hole เพื่อไม่ให้มีอุปสรรคด้านการเล่นเกม หน้าจอให้มา 6.59 นิ้ว เป็นแบบ FHD+ รีเฟรชเรท 144 Hz ซึ่งถือว่าเยอะที่สุดในตอนนี้ สิ่งที่โหดที่สุดคือหน้าจอเคลมว่าใช้เวลาตอบสนองเพียง 1 มิลลิวินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่ากดปุ๊ปออกเลย
ในเรื่องของหน้าจอทำได้ค่อนข้างดี ที่เห็น ๆ เลยคือตอบโจทย์เกมเมอร์มาก ๆ เมื่อลองเอาไปเทียบกับรุ่นอื่น ๆ การใช้คำสั่งในเกมถือว่าเร็วกว่ามาก แค่เอานิ้วไปแตะ ๆ ไม่ต้องลงน้ำหนัก หน้าจอก็ตอบสนองแทบจะทันทีทันใด สมคำล่ำลือ 1 มิลลิวินาที
วัสดุรอบเครื่องถือว่าพรีเมี่ยม เป็นกระจก Corning Gorilla Glass 6 ด้านหน้า ผสม Gorilla Glass 3 ด้านหลัง รอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม เห็นว่าเป็นกระจกแบบนี้หลายคนอาจจะคิดว่ามันติดรอยนิ้วมือง่าย แต่ ROG Phone 3 ไม่ได้มีปัญหานั้น ส่วนตัวลองใช้แบบไม่ใส่เคสเลยประมาณ 2-3 วัน รอยนิ้วมือแทบจะไม่เห็น ด้วยสีของด้านหลังเครื่องที่ออกแบบมาดีอยู่แล้ว
ความรู้สึกในการจับถือใช้งานจริง ROG Phone 3 มีขนาดเครื่องที่ค่อนข้างไปทางใหญ่ ด้วยขนาดกว่า 171 × 78 × 9.85 มม. และน้ำหนักที่สูงถึง 240 กรัม ประมาณสองขีดได้ เมื่อรวมกับหน้าจอที่ใหญ่ ใช้มือเดียวแทบไม่ได้ ทำให้การใช้งานข้างนอกค่อนข้างลำบาก
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการตอบสนองหน้าจอที่สูงจนเกินไป จริง ๆ ตรงหัวข้อนี้เราบอกไปแล้วว่ามันเจ๋งมาก ๆ เมื่อเราเล่นเกม แต่มันค่อนข้างน่ารำคาญเมื่อเรากำลังดูวิดีโอ กำลังเล่นโซเชียล เพราะถ้าหากส่วนใดส่วนหนึ่งของมือไปโดนหน้าจอ แม้สักนิดเดียว มันจะนับว่าการทัชเกิดขึ้นทันที และด้วยขอบของมือถือที่ค่อนข้างบาง โอกาสลั่นสูงมาก
เรื่องดีไซน์ถือเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ตัวดีไซน์ของเครื่องรุ่นนี้ยังไม่หนีห่างจากรุ่นก่อนหน้ามากนัก ยังสื่อถึงความเป็นเกมเมอร์ได้ค่อนข้างดี แต่ส่วนตัวไม่ค่อยถูกใจกับการโชว์ดีไซน์แบบนี้ในที่สาธารณะเท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครอยากแสดงตัวเลยว่า ‘ฉันเป็นเกมเมอร์’ มือถือเครื่องนี้น่าจะเหมาะกับคุณ
ครบเครื่อง เรื่องเล่นเกม
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม ตรงนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด แน่นอนว่า ROG Phone รุ่นก่อน ๆ สร้างความเชื่อมั่นให้นักเล่นเกมขนาดไหน ด้วยความเร็วระดับเทพ การระบายความร้อนที่ดี และโปรแกรมช่วยเหลือชาวเกมเมอร์ ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้
และใน ROG Phone 3 เราก็บอกว่ามันยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ด้วย Snapdragon 865+ ชิปเซ็ตที่แรงที่สุดในโลกตอนนี้ บวกกับระบบระบายความร้อน และแอปพลิเคชัน Armoury Crate ที่ช่วยดึงประสิทธิภาพของชิปเซ็ตออกมาให้สูงเหนือรุ่นอื่น ด้วยฟังก์ชัน X Mode ที่จะเร่งความเร็วของมือถือให้สูงขึ้น ราวกับการ Overclock ในคอมพิวเตอร์
จากการทดสอบในเกม Asphalt 9: Legends เกมแข่งรถกราฟิกระดับเทพ ที่อยู่คู่กับ ROG Phone มาตั้งแต่รุ่นก่อน ในรุ่นนี้ตัวเกมสามารถเร่งเฟรมเรทได้ถึง 144 FPS เท่าจอกันเลยทีเดียว เมื่อรวมกับความเร็วในการทัชระดับเทพ ทำให้ตัวเกมแสดงผลออกมาได้ดี แถมเล่นได้สนุกไม่ติดขัด ไม่มีอาการหัวร้อน และไม่เมื่อยนิ้วด้วย แต่ตรงนี้เครื่องแอบร้อน ๆ อยู่บ้าง เราเลยหยิบอุปกรณ์เสริม Cooling Fan มาใส่ ก็ช่วยลดความร้อนไปได้บ้าง
ตรงนี้ขอสักเล็กน้อย ปกติแล้วเราจะชอบ Cooling Fan ของ ASUS มาก เราเรียกมันว่าเป็น ‘ไฮไลท์’ ของมือถือรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะมันให้ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างเล่น ไม่ใช่แค่เครื่องมันเย็นอย่างเดียว มือเราก็เย็นสบายด้วย แต่สำหรับ Cooling Fan 3 ตัวนี้ ไม่แน่ใจว่าตัวที่เราใช้ มันมีปัญหาหรือเปล่า เพราะความแรงของพัดลม ถือว่าเบากว่าสองรุ่นก่อน ๆ มาก ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันช่วยลดอุณภูมิเครื่องได้ แต่สำหรับฟังก์ชันที่เราชอบอย่างการทำให้มือเย็นสบาย ตรงนี้ถือว่าไม่ตอบโจทย์
ทดสอบอีกเกมกับ Honkai Impact 3rd เกมที่ทลายมือถือเรือธงมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น วันนี้มาทดสอบกับ ROG Phone 3 ในแบบ 120 FPS ถือว่าลื่นดีไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่างที่บอก มันแอบ ๆ เครื่องร้อนอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ใส่เคสที่เป็นพลาสติก หรือไม่ได้ใส่ Cooling Fan ไว้เสมอ บอกเลยว่าต้องมีแอบ ๆ วางมือถือกันบ้าง เพราะมันร้อนเอาเรื่องเลยทีเดียว
สรุปในส่วนของ Gaming ถือว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน ไม่มีส่วนไหนบกพร่อง ยังคงรักษาความเป็น ROG Phone เอาไว้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งถ้าวันนี้ขอให้ GamingDose แนะนำมือถือแอนดรอยด์ไว้เล่นเกมสักเครื่อง เอาแบบซีเรียสจริง ๆ เราแนะนำ ROG Phone 3 แบบไม่คิดอะไรมาก เพราะทั้งฮาร์ดแวร์ ทั้งซอฟต์แวร์ เรียกได้ว่าสุดจริง แต่คราวหลังขอพัดลมเย็นกว่านี้หน่อยนะ (ฮา)
แต่ไม่ใช่ที่สุด ในชีวิตประจำวัน
สำหรับการทดลองใช้งาน ROG Phone 3 ในสถานการณ์จริง ขึ้นรถ ลงเรือ ปีนเขา ลงห้วย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ROG Phone 3 เป็นมือถือที่เล่นเกมได้ยอดเยี่ยมจริง แต่การใช้งานในชีวิตประจำวันถือเป็นอีกเรื่อง
อย่างที่เอ่ยไปในข้างต้น ROG Phone 3 มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เทอะทะ มีน้ำหนักที่อยู่ในเกณฑ์สูง การจับถือในชีวิตประจำวัน อาจให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยระดับหนึ่ง สำหรับผู้เขียน การจะหยิบ ROG Phone 3 ออกมาจากกระเป๋า เรียกได้ว่าต้องระวังมาก ๆ เนื่องจากเป็นคนมือเล็ก และผลสืบเนื่องนั้นทำให้เราใช้มือถือรุ่นนี้ด้วยมือเดียวไม่ได้ เวลาขึ้น Sky Train ในช่วงเวลาคึกคัก จึงทำได้แค่เปิดฟังเพลงในกระเป๋ากางเกงไป
ซึ่งขนาดของมันก็มีปัญหามาจนถึงช่วงเวลานอน หลาย ๆ คนในที่นี้น่าจะชอบเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียง ผู้เขียนก็เช่นกัน การเอา ROG Phone 3 เข้านอน ถือว่าเป็นอุปสรรคระดับหนึ่ง อย่างแรกเลยคือเรื่องการตอบสนองที่สูงมาก เวลาดู Netflix หรือแอปพลิเคชันภาพยนตร์อื่น ๆ หลายท่านคงจะคุ้นชินกับการแตะสองครั้งด้านขวา เพื่อกรอหนังไปข้างหน้า หรือแตะสองครั้งด้านซ้าย เพื่อกรอย้อนกลับไป ตรงนี้ล่ะที่ ROG Phone 3 สร้างปัญหา เพราะขอบที่บาง เพราะหน้าจอที่ตอบสนองเร็ว การที่ชิ้นเนื้อบางอย่างของเราไปโดนหน้าจอ มันจะนับว่าแตะทันที ทำให้บางครั้ง เราต้องมานั่งหงุดหงิดกับการกรอหนังกลับไปกลับมา โดยที่ไม่ได้อยากจะไปแตะอะไรมันเลย แถมบางครั้งกรอมั่วไปโดนช่วงสำคัญ โดนสปอยล์ด้วยซ้ำ
แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องขอชมเลยคือ แบตเตอรีขนาด 6,000 mAh ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ตรงนี้ถือเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากที่สุดเท่าที่ใช้งานมา เนื่องจากหน้าจอที่รีเฟรชเรทสูง ๆ เราจะรู้กันว่า มันกินแบตเตอรี่มาก ทำให้มือถือส่วนใหญ่ที่มีโหมดนี้ จะใช้งานไม่ได้ทั้งวัน
ผู้เขียนหยิบ ROG Phone 3 เข้าไปทำงานโดยไม่ได้หยิบชาร์จเจอร์ไปด้วย แล้วเปิด 144 Hz ทั้งวัน โดยทั้งวันนั้นใช้งานแบบหนักหน่วงมาก ทั้งเล่นเกม ดูหนัง โทรศัพท์ ฟังเพลงค้างไว้เกือบตลอดทั้งวัน เพื่อหวังเล็ก ๆ ว่ามันจะร่วงไปก่อน (แอบชั่ว) แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ROG Phone 3 ผ่านจุดนั้นมาได้ ผู้เขียนยังจำได้เลยว่า ตอนกำลังก้าวขาขึ้น Sky Train เพื่อกลับที่พัก แบตเตอรี่ของ ROG Phone 3 ยังเหลือราว ๆ 35%
แต่โดยรวม ถือเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์อึดอัด เนื่องจากน้ำหนัก ความใหญ่ของเครื่องเอย การดู Media ไม่ลื่นไหลเอย ทำให้เราต้องคอยมาระวังอะไรที่ไม่ควรระวังตลอด ส่งผลให้เราไม่ค่อยสนิทใจเท่าไหร่ที่จะใช้งาน แต่ตรงนี้ถือเป็นแค่ความคิดเห็นของผู้เขียนคนเดียวนะ ถ้าคุณเป็นคนมือใหญ่ และไม่หงุดหงิดกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ROG Phone 3 ก็น่าจะตอบโจทย์
สรุปแล้ว ROG Phone 3 ถือเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่คุณภาพยอดเยี่ยม ในด้านการเล่นเกมถือว่าเป็นที่สุด ด้วยฮาร์ดแวร์ระดับท็อป ผสมกับซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไปอีกขั้น แต่ตัวเครื่องยังติดปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเรื่องขนาด และน้ำหนัก แต่โดยรวมแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์เกมเมอร์อย่างแท้จริง หากคุณรู้ตัวว่าคุณเองเป็นเกมเมอร์ตัวยง เราคิดว่า ROG Phone 3 ตัวนี้ คือสมาร์ทโฟนสำหรับคุณ