ปัจจุบัน เกมมิ่งเกียร์มีตัวเลือกให้ใช้งานมากมายอย่างไม่รู้จบ โดยตอนนี้ หนึ่งในแบรนด์หูฟังสำหรับเล่นเกมที่ได้รับความสนใจจากชาวเกมเมอร์ ก็คงไม่มีทางหนีพ้น EPOS แบรนด์เครื่องเสียงจากเดนมาร์กที่แยกตัวจาก Sennheiser แล้วหันมาผลิตหูฟังเล่นเกมรุ่นใหม่ แต่ยังมีสายเลือด DNA จากซีรีส์หูฟังเกมมิ่งของ Sennheiser เกือบครบครั้น
ครั้งนี้ เราจะมาแนะนำ EPOS H6PRO หูฟังเกมมิ่งแบบ Closed-Back ราคาระดับกลาง (มีอีกแบบเป็น Opened-Back ซึ่งมีรูระบายอากาศ) ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นยอดนิยมก่อนหน้านี้อย่าง H3 แล้วรุ่นนี้มีดีแค่ไหน มาพบกับคำตอบกันในบทความนี้
วัสดุทนทาน พรีเมียมสมราคา
EPOS H6PRO เปรียบเสมือนเป็นญาติห่าง ๆ ของรุ่น H3 ที่มีหน้าตาคล้ายกันเกือบทุกอย่าง ยกเว้นแต่มีการอัปเกรดวัสดุให้ทนทาน และดูพรีเมียมสมราคามากขึ้น
หูฟังใช้วัสดุพลาสติกเกรดสูง ตัวผลิตภัณฑ์มีความเรียบเนียนกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ส่วนแถบคาดศีรษะใช้วัสดุหนัง และตัวเลื่อนหูฟังเป็นเหล็ก ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมา ทำให้ตัวหูฟังมีความทนทานแข็งแรง จับครั้งแรกก็รู้เลยว่าเป็นงานประดิษฐ์ที่มีความประณีต
ด้านน้ำหนักของหูฟังจัดว่าค่อนข้างไปทางหนักเล็กน้อย แต่ไม่ได้เบาจนรู้สึกเปราะบาง หรือหนักเกินไป ส่วนรอบฟองน้ำหูฟังยังใช้วัสดุผ้ากับโฟมคุณภาพสูง เหมือนหูฟังรุ่น H3 ด้วยเหตุผลดังกล่าว H6PRO จึงเป็นหูฟังที่สวมใส่สบายได้นานหลายชั่วโมง โดยไม่รู้สึกร้อนอบในหู และบีบจนรู้สึกเจ็บบริเวณหู
บูมไมโครโฟนให้เสียงใสกริ๊ง ใช้งานสะดวก
นอกจากวัสดุมีการอัปเกรดแล้ว ตัวไมโครโฟนก็ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นอีกขั้น โดยด้านขวาของหูฟัง H6PRO เป็นบูมไมโครโฟนที่มีคุณสมบัติเด่น ให้เสียงพูดคุยที่คมชัดใสกริ๊ง ช่วยตัดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม และปรับหมุนความสูงได้
หากไม่ต้องการใช้ไมโครโฟน ก็สามารถถอดแล้วใช้แผ่นปิดได้ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยถนอมไมโครโฟนให้ใช้งานได้นานขึ้น ส่วนฝั่งขวามือของหูฟัง มีตัวหมุน Knob ที่ผู้ใช้สามารถปรับระดับความดังของเสียงได้อย่างรวดเร็ว
ในแพ็ก ประกอบไปด้วยสายหูฟัง 2 สายระหว่าง สายเสียบรูแจ็ก 3.5 mm ความยาว 1.5 เมตร และสายแจ็ก 3.5 mm แบบ 2 in 1 ใช้สำหรับเสียบเชื่อมต่อสัญญาณเสียงกับไมโครโฟน ความยาว 2 เมตร โดยทั้งสองสายผ่านการเคลือบด้วยวัสดุผ้า มีน้ำหนักเบา มีความคงตัว เก็บสายได้ง่าย และลดเสียงไมโครโฟรนิก (เสียงรบกวนที่เกิดจากสายกระทบกับของแข็ง)
และสุดท้าย H6PRO รองรับการใช้งานทั้งระบบ PC, เกมคอนโซล PlayStation, Xbox, Nintendo Switch และรวมไปถึงโทรศัพท์มือถือ กับ Soft Phone ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งครอบจักรวาลก็ว่าได้
ฟังสนุก มีส่วนช่วยให้เล่นเกมอินขึ้น
EPOS H6PRO ให้เสียงเบสที่ลงลึก เสียงย่านกลาง (ตัวอย่าง เสียงขับร้อง) จะถอยห่างจากตำแหน่งหน้าเวที ส่วนเสียงย่านสูงได้ยินอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้ให้เสียงแหลมเกินไปจนรู้สึก “บาดหู” เวทีของเสียงจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ หูฟัง H6PRO จึงมีโทนเสียงฟังสบาย ฟังสนุก เหมาะสำหรับฟังเพลงแนวป๊อป, EDM และเพลงทั่วไป รวมถึงคุณภาพเสียงมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนหน้านี้เล็กน้อย
เนื่องจากรุ่นที่รีวิวเป็นแบบ Closed Back จึงมีคุณสมบัติช่วยปิดเสียงรบกวนจากภายนอก รวมถึงเสียงจะไม่เล็ดลอดออกจากหูฟัง ที่อาจสร้างความรบกวนให้คนรอบข้างได้ ทำให้การใช้หูฟังตัวนี้ จะได้รับประสบการณ์ความ Immersive ระหว่างการเล่นเกมอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยคุณภาพเสียงที่ “แน่น” ให้เบสเป็นลูกชัดเจน คนชอบเล่นเกมแอ็กชัน FPS จะต้องชื่นชอบหูฟังตัวนี้ไม่ยาก
แต่เนื่องจากการดีไซน์แบบ Closed-Back ที่บริเวณรอบตัวหูฟังไม่มีรูระบายอากาศ ก็ส่งผลทำให้เวทีเสียงไม่ได้โปร่งกว้างเหมือนรุ่น Opened-Back ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบระหว่าง 2 รุ่น จะพบว่ารุ่น Opened-Back ได้ยินเสียงฝีเท้ากับตำแหน่งของผู้เล่นอื่นได้ดีกว่า และเสียงดังก้องกว่า
ถึงอย่างนั้น ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด H6PRO รุ่น Closed Back ถือเป็นหูฟังเกมมิ่งที่สามารถใช้ได้ทั้งฟังเพลงทั่วไป รับชมภาพยนตร์ และเล่นเกมทั้ง Singleplayer กับ Multiplayer หรือหมายความว่าเป็นหูฟังที่ใช้งานได้ครบจบในตัวเดียว
ปลดล็อกศักยภาพหูฟังกับไมโครโฟน ด้วยการ์ดเสียง GSX 300
EPOS H6PRO สามารถปลดล็อกศักยภาพให้ดียิ่งขึ้นได้ หากใช้งานร่วมกับ GSX 300 Gaming Series อุปกรณ์ External Sound Card ที่ออกแบบพัฒนาโดย EPOS Sennheiser เจ้าเดิม
GSX 300 Gaming Series คือการ์ดเสียงที่รองรับระบบเสียง 7.1 Surround ปรับแต่งเสียงสะท้อน (Reverb) ได้ตามที่ต้องการ, มีตัวหมุน Knob สำหรับปรับระดับความดังของเสียงใน PC และขับเสียง Hi-Res 24-bit/96khz ได้ เพียงแค่เสียบ H6PRO เข้ากับการ์ดเสียงนี้ จะสังเกตว่าเสียงหูฟังให้โทนเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และลดขนาดของเบสลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ หากลงโปรแกรม EPOS Gaming Suite แล้ว ผู้ใช้สามารถกดปุ่มลัดของการ์ดเสียง เพื่อเปลี่ยน Preset โทนเสียงของหูฟังได้ระหว่าง Flat (โทนเรียบ ไม่มีการปรับแต่ง EQ), Movie เหมาะกับการรับชมภาพยนตร์, ESports (Treble) เพิ่มย่านเสียงแหลม สำหรับการเล่นเกม FPS, Music สำหรับฟังเพลง และ Custom ซึ่งเป็นย่านเสียงที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่ง EQ ได้เองผ่านโปรแกรม
นอกจากนี้ GSX 300 สามารถเลือก Preset เสียงไมโครโฟนของหูฟังได้ระหว่าง Flat โทนเสียงเรียบ, Warm ให้เสียงสนทนาในโทนอุ่นฟังสบาย และ Crystal Clear ที่ให้เสียงเคลียร์คมชัด และแน่นอน ผู้ใช้สามารถปรับ EQ ของเสียงไมโครโฟน และการตั้งค่าอื่น ๆ เช่น Gain, Noise Cancellation ได้เหมือนกับเสียงหูฟัง
GSX 300 ใช้ร่วมกับหูฟังได้ทุกแบรนด์ทุกรุ่นที่มีสาย รวมถึงมีขนาดเล็ก พกพาใส่กระเป๋าได้สะดวก แต่แน่นอนว่าการ์ดเสียงนี้ เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับหูฟัง EPOS มากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ฟีเจอร์อาจไม่เยอะเท่ากับการ์ดเสียงรุ่นอื่น แต่ก็ถือใช้งานสะดวก ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ส่วนราคาก็จับต้องได้ ขายเพียง 2,990 บาทเท่านั้น
สรุป
EPOS H6PRO จัดเป็นหูฟังราคาระดับกลาง (6,990 บาท) ที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนกำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งที่มีบูมไมโครโฟนให้เสียงใสกริ๊ง มีเสียงเบสแน่นลงลึกใช้ฟังเพลงแนวสนุกสนาน เน้นสวมใส่สบาย แถมมีความแข็งแกร่งทนทาน ทำตกแล้วไม่พังง่าย ๆ
แม้น้ำหนักของมันอาจทำให้พกพาลำบากสักนิด แต่หากมองข้ามข้อเสียดังกล่าวไปได้ ถือว่าเป็นการอัปเกรดจากรุ่นก่อนไปในทิศทางที่ดีเลยทีเดียว
ใครที่สนใจ EPOS H6PRO ก็อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเว็บไซต์ EPOS อย่างเป็นทางการ
https://www.eposaudio.com/en/ch/gaming/products/h6pro-closed-sebring-gaming-headset-1000933
ข้อดี
- หูฟังมีความทนทาน ดูพรีเมียม
- สวมใส่สบายได้นาน
- ให้เสียงเบสลึก ฟังเพลงสนุก และมอบ Immersive ไปกับการเล่นเกม
- บูมไมโครโฟน ให้เสียงคุยใสกริ๊ง
- เข้ากับการ์ดเสียง GSX 300 และโปรแกรมของ EPOS ได้ดี
ไมโครโฟนถอดเก็บได้
ข้อเสีย
- น้ำหนักของหูฟังอยู่ระดับเกณฑ์ปานกลาง ค่อนข้างไปทางหนัก
- เวทีเสียงไม่โปร่งกว้าง ตามธรรมชาติของหูฟัง Closed-Back
สั่งซื้อทันทีผ่านร้านค้า EPOS ทางการที่ Shopee และ Lazada