เราต่างได้เห็นซีรีส์ หรือภาพยนตร์ดัดแปลงจากวิดีโอเกมมาแล้วมากมายหลายเรื่อง แต่ส่วนมากจะหยิบเอาหนึ่งแฟรนไชส์ หรือเกมหนึ่งเกมมานำเสนอให้จบไปเลย แต่ความน่าสนใจของ Secret Level คือ พวกเขาหยิบเอาเกมและไอพีดัง ๆ ต่าง ๆ มานำเสนอในรูปแบบ Short Animation ที่ใช้การนำเสนอคล้าย ๆ กับ Love Deaths + Robots ที่แต่ละตอนมีความยาวไม่มากนักแทน จึงกลายมาเป็นมินิซีรีส์ความยาว 15 ตอนจบ ที่หยิบยืมเอาเรื่องราวของเกมต่าง ๆ มานำเสนอจนเป็น Secret Level เรื่องนี้
เรื่องราวฉบับ Secret ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนจากเกมที่คุณรัก
แม้จะตั้งชื่อว่า Secret Level แต่หากพิจารณากันแบบรายตอนแล้วนั้น มันเหมือนเป็นการหยิบยืมเอาเกมใดเกมหนึ่งมาเล่าเรื่องเสริม เป็นเรื่องราวลับที่อาจจะไม่ลับ แต่ในบางตอนก็หยิบยืมเอาเรื่องราวโดยตรงของเกมนั้นมาดัดแปลงและตีความเสริมเข้าไปเลย ยกตัวอย่างเช่น Sifu ที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า ตัวเอกของเกม มีพลังในการฟื้นคืนชีพจากเหรียญโบราณ แต่ทุกครั้งที่ฟื้นขึ้นมาก็จะแก่ขึ้น แต่ก็เก่งขึ้นเช่นกัน หรือจะเป็นของ Dungeons & Dragons ที่เล่าภารกิจเล็ก ๆ เพียงพอจะทำให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวและโลกของจักรวาลนี้ขึ้นมาบ้าง
แต่ก็มีบางตอนที่เป็นการเล่าเรื่องราวขยายของเกมนั้น ๆ ไม่ต้องมองไกล ให้ดู Concord ที่เป็นการเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักสู้กลุ่มหนึ่ง ที่ทำภารกิจขโมยของบางอย่างมา ก่อนจะปล่อยมันออกสู่จักรวาล ให้เหล่าฟรีกันเนอร์ได้นำไปใช้กันฟรี ๆ อันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดเป็นเนื้อเรื่องในเกมตามมา แต่น่าเสียดายที่เกมเพลย์มันดันออกมาเป็นแบบนั้น จนต้องปิดตัวไปเสียก่อน หรือจะเป็น Warhammer 40,000: Space Marine 2 ที่เล่าเรื่องราวต่อจากฉากจบของเกมด้วย และที่เด็ดสุดอย่าง Pac-Man ที่ไอเดียดีจน Bandai Namco หยิบไปสานต่อเป็นเกมกับ Shadow Labyrinth
กล่าวได้ว่า Secret Level ทั้ง 15 ตอนนั้น การที่เกมใด หรือตอนไหนก็ตาม เลือกที่จะนำเสนอแบบไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้สร้างอยากจะนำเสนอยังไง เพราะมันมีทั้งเล่าขยายก่อนเกิดเหตุการณ์ในเกม หลังเกิดเหตุการณ์ในเกม หรือหยิบเอาเรื่องราวจากเกมมาเล่าตรง ๆ เลยก็มี ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนก็ต้องชื่นชมว่า มันยอดเยี่ยมแทบจะทุกตอน ติดเพียงปัญหาเดียวคือ ความยาวต่อตอนนั่นเอง
การเล่าเรื่องที่ผสมวิสัยทัศน์ของ Tim Miller และผู้สร้างของแต่ละตอน
สำหรับใครที่ไม่ทราบ Secret Level ทั้ง 15 ตอนนั้น ได้รับการผลิตโดย Blur Studio นี่ไม่ใช่สตูดิโอหน้าใหม่แต่อย่างใด เพราะ Blur Studio Inc. นั้น โลดแล่นอยู่ในวงการผลิตงานโปรดัคชันมาตั้งแต่ปี 1994 แล้ว และผลงาน Movie, TV Series หรือแม้แต่วิดีโอเกมดัง ๆ พวกเขาก็มีส่วนร่วมมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Avengers: Age of Ultron (2015), Deadpool, Sonic the Hedgehog ทั้ง 3 ภาค หรือแม้แต่ Love, Deaths & Robots ซีรีส์ชื่อดังที่ทุกคนชื่นชมทาง Netflix
ส่วนของ Tim Miller นี่คือผู้กำกับมากฝีมือทั้งกำกับ เขียนบท อำนวยการสร้างผลงานเด่น ๆ ดัง ๆ มาแล้วหลายเรื่อง ผลงานเด่นของเขาเลยคือ การก้าวขึ้นมากำกับหนังใหญ่เป็นเรื่องแรกในชีวิตของเขานั่นคือ Deadpool เมื่อปี 2016 ซึ่งโด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างมาก ก่อนที่จะได้มาจับ Terminator: Dark Fate และ Love, Death & Robots ต่อ
จุดเด่นก็คือ Secret Level นั้น ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบเดียวกันกับ Love, Deaths & Robots คือจำนวนความยาวต่อตอนนั้นไม่ได้ยาวมากเท่าไร แต่จะเน้นความ Impact และกระแทกใจผู้ชม ซึ่ง Secret Level ทำส่วนนี้ได้ดีมาก ๆ เสียแต่ว่าบางเรื่องราวและบางตอนนั้น มันสั้นจนน่าใจหาย แถมตอนที่สั้นนั้นก็ดันสนุกถูกอกถูกใจผู้ชมซะด้วย เช่นตอนของ Sifu ที่ขายแอ็คชันแบบดุดันสะใจ แต่มีความยาวเพียงราว ๆ 8 นาที หรือตอนของ Mega Man ที่ไม่มีเกมภาคใหม่ทั้งที แต่อุตส่าห์มีส่วนร่วมในซีรีส์ชุดนี้ ตอนของ Mega Man กลับยาวเพียง 5 นาทีกว่า ๆ เท่านั้น และตอนที่รวมเกม PlayStation ที่อาจจะอีรุงตุงนังเกินไปเสียหน่อย จนขาดเสน่ห์และความน่าจดจำ
ซึ่งจริง ๆ จะบอกว่าเรื่องความยาวนั้น เป็นข้อเสียก็ไม่ถูกเสียทีเดียว อาจเพราะการหยิบยกเอาเรื่องราวเนื้อหาบางส่วนของเกมมาทำเป็นมินิซีรีส์แบบนี้ ถ้าเล่ายืดยาวเกินไป และหาทางจบในตอนไม่ได้ก็จะกลายเป็นค้างคาไปเสียเปล่า ๆ และเชื่อว่าหลังจากที่มันได้สตรีมสู่สายตาแฟน ๆ ไปแล้ว ทางผู้สร้างก็คงรับรู้แล้วว่าอะไรที่ควรค่าในการสานต่อนั่นเอง
ภาพรวมยังคงยอดเยี่ยม และได้ไปต่อใน Season 2
ถึงจะติดปัญหาเรื่องความยาวต่อตอนที่ไม่ได้มากมายอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกระแสที่ออกมาก็ค่อนข้างชัดเจนว่าประสบความสำเร็จ ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ทาง Amazon จึงไฟเขียวให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้ไปต่อใน Season ที่ 2 ซึ่งต่อจากนี้เราอาจจะต้องมารอชมกันว่า เกมใด จะได้ถูกหยิบมานำเสนอ และจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเรื่องราว หรือสานต่อจากของเดิมให้เป็นแบบใดบ้าง
