Smurfing หรือ Smurf คือคำที่หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยิน เวลาที่เล่มเกมประเภทที่มีการ PvP โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมที่มีการจัดอันดับผู้เล่น (Rank game) ซึ่งการ Smurf ก็ถูกกระทำด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างแตกต่างกันไป ทั้งที่ไม่ส่งผลกระทบกับคนอื่น และทั้งที่มีผลทำให้สังคมของเกมนั้นแย่ลงเลยทีเดียว
เมื่อปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา นักเขียนผู้ไม่เผยนามท่านหนึ่งจากเว็ปไซต์ gamespace.com ได้ทำการเรียบเรียง เรื่องการ Smurf ไว้อย่างน่าสนใจ ซึ่งอาศัยประสบการณ์ในการเล่น League of Legends (LoL) ของเขาในการเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเราจะมาดูกันว่า ในมุมของผู้เล่นเกม MOBA ชื่อดังระดับโลกเกมหนึ่งนั้น เขาได้มองการ Smurf ของเกมที่กำลังเล่นอยู่ในรูปแบบไหนบ้าง เรามาชมไปพร้อม ๆ กัน
ประวัติความเป็นมาของการ Smurf
แม้ว่าจะไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการระบุว่าไว้ว่า คำว่า “Smurf” และ “Smurfing” มีการเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 1996 (พ.ศ. 2539) ซึ่งมันก็มีความหมายเช่นเดียวกับที่เราหลายคนเข้าใจกันอยู่ตอนนี้
โดยมันเริ่มจากโปรเพลเยอร์ 2 รายที่เล่นเกมได้เก่งมาก ๆ (ไม่ได้ระบุไว้ว่าเป็นเกมไหน) ได้ทำการสร้าง ID เพื่อลงมาเล่นกันเพลเยอร์คนอื่น ๆ เนื่องจากในหมู่ผู้เล่นในแรงค์เดียวกับเขานั้นมีน้อยมาก ๆ ซึ่งชื่อ ID ที่พวกเขาทั้งสองใช้นั้นก็คือ “Smurfette” และ “Papa Smurf”
ทั้ง “Smurfette” และ “Papa Smurf”คือตัวละครในการ์ตูน The Smurfs ตัวการ์ตูนสีฟ้าที่มีความสูงเพียงเท่าแอปเปิ้ล 3 ผลเรียงต่อกัน และอาศัยอยู่ในบ้านเห็ด มีภาษาพูดและท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์ บิดาผู้ให้กำเนิด Smurf คือ Pierre Culliford (Peyo) นักเขียนการ์ตูนชาวเบลเยี่ยม โดยชื่อแรกที่เขาใช้คือ Les Schtroumpfs ต่อมาเมื่อได้ตีพิมพ์ไปยังเยอรมันได้ใช้ชื่อว่า The Smurfs ทำให้ชื่อนี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก (Wikipeidia)
ดังนั้น คำว่า Smurf จึงเป็นคำที่ถูกเรียกตามโปร 2 ท่านที่ได้กล่าวไป มิได้เกิดขึ้นเพราะการเรียกชื่อตามลักษณะของตัว Smurf แต่อย่างใด ซึ่งการ Smurf ก็สามารถแบ่งได้อีก 2 แบบนั่นก็คือ
- Low-Level Smurfs – คือกลุ่มผู้เล่นที่ทำการ Smurf เพราะต้องการเกมที่ยากน้อยลง หรือไม่ก็อยากเล่นเกมที่มีผู้เล่นหลากหลายมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ Level ของ ID หลักของพวกเขาจะไม่สูงมากนัก
- Elo Smurfs – คือกลุ่มผู้เล่นที่ทำการ Smurf โดยการจงใจปกปิดฝีมือและ ID ที่แท้จริงของตัวเอง และจะมีอยู่จำนวนหนึ่งที่มีจุดประสงค์ในทางที่ไม่ดี เช่นการกลั่นแกล้งผู้เล่นคนอื่น ๆ โดยเฉพาะกับผู้เล่นที่ไร้ประสบการณ์
การ Smurf และเกม LoL
จากลักษณะของการ Smurf ที่กล่าวไปด้านบน ก็เป็นที่ชัดเจนว่า เกมที่จำเป็นต้องมีการต่อสู้อย่างยุติธรรมอย่าง LoL นั้น ย่อมจะได้รับผลกระทบจากการ Smurf เป็นอย่างมาก แต่ในเรื่องนี้ก็เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้เล่น LoL เช่นเดียวกับที่ผู้เล่นเกมอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน นั่นก็คือ แท้ที่จริงแล้วการ Smurf นั้นเป็นเรื่องที่ผิดหรือไม่ ?
เหตุผลก็คือ แม้จะทำการ Smurfs ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ แต่อย่าลืมว่าฝีมือในการเล่นของเรานั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นนั้นแล้ว นี่ก็จะยังถือเป็นการ “เอาเปรียบ” ผู้เล่นอื่นๆ อยู่หรือเปล่า ? และในความเป็นจริง ก็ไม่ได้มีกฏข้อไหนที่ห้ามการกระทำที่เป็นการ Smurf นั้นเลยด้วยซ้ำ
สำหรับใน LoL ก็ดูเหมือนว่า Riot จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับเรื่องนี้พอสมควร โดยจะเห็นได้จากที่ Riot ได้อธิบายเรื่องของการ Smurfs ไว้ในหน้าเว็ปไซต์ของตัวเอง โดยที่ไม่ได้มีการดำเนินเชิงรุกกับผู้ที่ Smurfs แต่อย่างใด และแทนที่ด้วยการดูแลไม่ให้เกิดการต่อสู้กันระหว่างผู้เล่นที่มีระดับฝีมือที่ต่างอย่างไม่เป็นธรรมให้ได้มากที่สุด
โดยหนึ่งในวิธีที่ Riot ใช้คือ การปล่อยให้มีการซื้อขาย ID Level 30 อันเป็นเลเวลขั้นต่ำในการเข้า Rank game ได้อย่างอิสระ ซึ่งแนวคิดก็คือ อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ผู้เล่นโหมด QM ไม่ต้องเจอกับเหล่าโปรที่ลงมา Smurft มากนัก และฝ่ายที่จะ Smurfs เองก็ได้ประโยชน์ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเล่นให้ถึง Level 30 ด้วยตัวเอง ซึ่งจะประหยัดเวลาได้พอสมควร
พูดง่ายๆ ก็คือ Riot ไม่ได้ละเลยปัญหาการ Smurfs โดยได้ทำการประนีประนอมกันระหว่างผู้เล่นทุกกลุ่ม ทั้ง Low-Level Smurfs และ Elo Smurfs กับกลุ่มผู้เล่นทั่วไปแทน เพราะการ Smurfs มันมีทั้งผู้ที่ใช้มันโดยไม่เป็นพิษเป็นภัย และผู้ที่จงใจใช้มันอย่างผิด ๆ จึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกคนทั้งสองกลุ่มออกจากกัน แล้วจัดการผู้ที่กระทำผิดอย่างถูกต้อง ในเรื่องนี้จึงอาจเรียกได้ว่า การลดและป้องกันเท่าที่จะทำได้ (ปล่อยให้ขาย ID) จึงเป็นทางเลือกที่แย่น้อยที่สุดที่ Riot เลือกมาใช้
เหตุผลอื่นๆ ของการ Smurf
นอกจากเรื่องของการ Smurf เพื่อการเล่นที่ง่ายขึ้น หรือเหตุผลที่ไม่สมควรอื่น ๆ ที่กล่าวไปด้านบน gamespace.com ก็ยังได้อธิบายถึงเหตุผลอื่นๆ ที่ผู้คนอาจเลือกที่จะทำการ Smurf ได้เพิ่มเติมอีก ดังต่อไปนี้
- เพื่อผ่อนคลายในการเล่นเกม – การเล่นในแรงค์สูงๆ นั้นเป็นเกมที่มีความกดดัน และความเครียดในการเล่นที่สูงมาก ผู้เล่นบางคนอาจทำการ Smurf เพียงแค่อยากได้เกมที่มีความกดดันน้อยกว่าก็เป็นได้ ตรงนี้จะต่างกับหมู่ Low-Level Smurfs ตรงที่เหตุผลไม่ได้มาจากศัตรูที่เก่งขึ้น แต่มาจากตัวของผู้เล่นเองที่ต้องการเกมที่เล่นได้สนุกมากขึ้นก็เท่านั้น
- ต้องการเล่นกับเพื่อน – แน่นอนว่าในโหมด Rank หากเรามีอันดับดับที่สูงเกินไป ก็อาจจะเกิดความลำบากหากจะต้องเล่นกับเพื่อนหลายๆ คน การ Smurf จึงเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหานี้
- ต้องการทดลองเทคนิคใหม่ ๆ – ในบางครั้ง ผู้เล่นในระดับสูง ๆ ก็ชอบที่จะสร้าง ID สำรอง โดยเหตุผลที่ว่า ในแรงค์ต่ำ ๆ หรือในโหมดปรกตินั้นมักจะมีอิสระในการเล่นที่มากกว่า (อย่างน้อยก็ในการเลือก Champion) อย่างเช่นการเล่น Xayah และ Rakan ทำให้ผู้ที่รับผลกระทบก็มักจะเป็นเหล่าผู้เล่นแรงค์ต่ำ และกับผู้เล่นใหม่ที่ต้องเจอโปรในร่าง Smurf เหล่านี้อยู่เสมอ ซึ่งนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการ Smurft ที่ไม่ผิดกติกา แต่ก็สร้างความวปั่นป่วนให้กับเกมอยู่เช่นกัน
สรุปเรื่องของการ Smurf และเกม LoL
ที่สุดแล้ว gamespace.com ก็ให้ความเห็นว่า แม้การ Smurf จะไม่สามารถแก้ไขให้ตกไปได้อย่างหมดจด แต่การควบคุมให้มีการ Smurf อย่างเหมาะสมก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น เพราะผู้เล่นหลายคนก็ทำการ Smurf ด้วยเจตนาที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย เช่นการเล่นกับเพื่อน และการฝึกซ้อมเทคนิคต่าง ๆ ดังที่กล่าวได้กล่าวไปข้างต้น
LoL ก็ถือเป็นอีกเกมที่ได้เจอกับปัญหาการ Smurf และก็ได้พยายามจัดการมันอย่างเหมาะสมที่สุดตามรูปการของมัน เพราะปัญหาการ Smurf เป็นเรื่องที่ทุกเกมจะต้องเจอ ไม่เว้นแม้กระทั้งคู่แข่งอย่าง Dota 2 ที่ได้กลายเป็นประเดนที่ Valve ถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า วงการเกมในอนาคตนั้นจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า “Smurf” ที่เริ่มต้นจากโปร 2 คนเมื่อปี 1996 นี้ ก็คงจะคู่กับเกมออนไลน์ไปอีกนานเท่านานอย่างแน่นอน
Source : gamespace.com