สำหรับซีรีส์ Fallout และเกมอื่น ๆ ของ Bethesda แล้ว สิ่งที่หลายคนจดจำได้จากตัวเกมนอกจากเรื่องราวและระบบการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ไอเท็มจำพวกของกินเองก็เป็นสิ่งหลายคนจดจำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Sweetroll ที่เคยเล่าให้ฟังกันไปแล้ว แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องดื่มอีกอย่างหนึ่งของเกม Fallout ที่มีโอกาสปรากฏตัวออกมาภาคหนึ่ง และคาดว่าหลาย ๆ คนน่าจะจำมันได้ นั่นก็คือ Sunset Sarsaparilla นั่นเอง
แต่เรื่องราวที่ซ่อนอยู่ของมันนั้น กลับเป็นสิ่งที่เรียกว่าเศร้าสร้อยอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะมันเต็มไปด้วยความสูญเสียและเรื่องราวที่ไม่ดีอีกหลายอย่างเกิดขึ้นหลังจากนั้น…
ต้นกำเนิดของเครื่องดื่มแสนอร่อย
ต้นกำเนิดของเครื่องดื่มชนิดนี้นั้นมีจุดเริ่มต้นขึ้นในปี 1918 จากร้านเหล้าเล็ก ๆ ในเมืองอันห่างไกลแห่งหนึ่ง ที่อยากคิดค้นเครื่องดื่มสูตรใหม่ของตนให้บริการลูกค้า ซึ่งในยุคนั้นเครื่องดื่มแบบอัดแก๊สให้ความรู้สึกซ่านั้นยังมีไม่มากนัก และตนเองก็ให้ความสนใจมาก แต่ก็ไม่มีลูกค้าประจำคนไหนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเขา จนกระทั่งวันหนึ่งมีชายแปลกหน้าที่เจ้าของร้านไม่รู้จัก เข้ามาแนะนำเครื่องดื่มรส Sarsaparilla ที่ทำมาจากพืชตระกูลเถา เรียกกันสั้น ๆ ว่า Sarsi ซึ่งเป็นสูตรลับของครอบครัวให้กับเจ้าของบาร์ พร้อมกับเซ็นสัญญาจะแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเจ้าของบาร์ก็ตอบตกลง
เมื่อเจ้าบาร์ลองชิมเครื่องดื่มตัวนี้แล้วก็พบว่ามันมีรสชาติที่อร่อยล้ำอย่างยิ่ง ซึ่งเขาได้ใช้สูตรเครื่องดื่มนี้ทำออกมาขายในชื่อ Sunset Sarsaparilla และมันก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สร้างผลกำไรมากมายให้กับเจ้าของบาร์อย่างมหาศาล จนกลายเป็นผู้มีหน้ามีตาในสังคม แต่เพื่อเป็นการตอบแทนชายแปลกหน้าที่จากไปก่อนเวลาอันควร เขาก็ได้ว่าจ้างบริษัทรับทำพิธีฌาปนกิจให้กับเขาอย่างยิ่งใหญ่ด้วย
เมื่อร่ำรวยมากขึ้น เจ้าของบาร์ก็ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในเมืองที่ใหญ่กว่าเดิมอย่าง New Vegas และก่อตั้งบริษัทกับโรงงาน Sunset Sarsaparilla ผลิตเครื่องดื่มสูตรพิเศษนี้ออกวางขายมานับตั้งแต่นั้น
ก่อนที่ The Great War จะเริ่มต้นขึ้น มีหลายบริษัทที่พยายามติดต่อขอซื้อกิจการของ Sunset Sarsaparilla หลายเจ้าด้วยกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธไปทั้งหมด ซึ่งก็รวมไปถึง John-Caleb Bradberton เจ้าของบริษัทเครื่องดื่มชื่อดังอย่าง Nuka-Cola เองก็ให้ความสนใจและเข้ามาเจรจาด้วยเช่นกัน ทำให้ทาง Nuka-Cola ต้องทำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรส Root Beer ออกมาสู้ในชื่อ Nuka-Wild ออกวางขายในพื้นที่รอบ New Vegas แทน และยังวางแผนสร้างสวนสนุก Nuka World เพื่อดึงลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก กะว่าให้ Sunset Sarsaparilla เจ๊งไปเลยนั่นเอง
ช่วงเวลาหลังสงคราม
ก็แน่นอนล่ะ ในยุคที่ทุกอย่างล่มสลายไปแล้วแบบนี้ ใครจะสนกันว่าจะเอามาได้ยังไง จะฆ่าคนหรือขโมยมา ก็ไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้วนี่นา…
เบื้องหลังอันแสนเศร้า
ในเควส Legend of The Star หากผู้เล่นรวบรวมฝาจีบ Star Bottle Cap ได้จนครบ ก็สามารถนำให้กับเจ้าหุ่นต้อนรับ Festus ในโรงงาน Sunset Sarsaparilla ได้เลย หากแต่สิ่งที่ได้รับนั้นไม่ใช่ของมีค่าใด ๆ กลับกลายเป็นแค่เรื่องเล่าต้นกำเนิดของเครื่องดื่มชนิดนี้เท่านั้น สร้างความงุนงงให้กับเราอย่างยิ่ง พร้อมกับขึ้นข้อความว่า Quest ล้มเหลว
ทว่าทุกอย่างยังไม่จบลง เพราะเจ้าหุ่น Festus ได้บอกกับเราว่าประธานของ Sunset Sarsaparillaจะเป็นผู้มอบรางวัลนี้ให้เราเอง พร้อมกับขึ้นเควสใหม่ A Valuable Lesson นำทางเราไปสู่ห้องลับของบริษัท ที่เต็มไปด้วยฝาจีบ Bottle Cap และเหรียญตรา Sunset Sarsaparilla Deputy Badge มากมาย พร้อมกับศพของ Allen Marks นักล่าผู้ก่อคดีติดตัวมานับไม่ถ้วนเพื่อค้นหาความลับของดวงดาว หลังจากที่ได้ยินตำนานดังกล่าว และออกรวบรวมฝาจีบในตำนานจนครบ 50 ชิ้น แม้จะต้องฆ่าคนที่ถือครองมันอยู่ก็ตาม
ทว่าหลังจากที่เขาเข้ามาถึงห้องเก็บของลับนี้แล้ว ประตูห้องก็ปิดลง ทำให้เขาไม่สามารถออกไปไหนได้อีก ทำได้แค่นอนรอความตายในห้องนี้
“มันคงจบลงแล้วล่ะ เหลืออากาศอีกไม่มาก อาจจะแค่อีกไม่กี่นาที และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องแสดงให้เห็น”
“มันคงเป็นเรื่องตลกสำหรับฉันล่ะนะ มันไม่ควรจะไปฆ่าคนพวกนั้นเลย น่าจะอยู่ที่บ้าน และดูแลแม่ให้สบาย”
“แม่.. บอกกับฉันเสมอ ว่าคนที่ทำแต่เรื่องแย่ ๆ ออกไปลักขโมย ฆ่าคน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะมีจุดจบอย่างอนาถในที่สุด..”
และเมื่อยิ่งสืบสาวหาข้อมูลในโรงงานแห่งนี้ เราก็ยิ่งพบว่าโรงงาน Sunset Sarsaparilla แห่งนี้มีปัญหาและมรสุมแอบซ่อนเอาไว้อยู่มากมาย ทั้งอุปกรณ์ชำรุดเสียหายหลายรายการแล้วไม่ได้รับการซ่อมแซม บุคลากรหลายแผนกไม่ได้รับการใส่ใจ และที่แย่ที่สุดคือเรื่องของ Star Bottle Cap ที่แท้จริง
จนถึงแม้สงครามจะเริ่มและจบลงไปแล้ว ผู้คนที่หิวกระหายในรางวัลอันลึกลับนี้ ก็ยังคงค้นหามันต่อไป กลายเป็นหนึ่งในตำนานเปื้อนเลือดที่อยู่คู่กับดินแดน Mojave Wastland มาจนถึงทุกวันนี้…