ถ้ามองวงการเกมทุกวันนี้หลายคนอาจจะหลงลืมกันไปแล้วว่า ในอดีตนั้นเกมโลกเปิด (Open-world) ยังไม่ใช่แนวกระแสหลัก ไม่ได้ฮิตระเบิดเหมือนอย่างทุก ๆ วันนี้
ผลงานเกม The Elder Scrolls IV: Oblivion ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการเกม RPG อย่างแท้จริง ผลงานเกมฝีมือของ Bethesda Softworks เกมนี้ไม่เพียงแค่เป็นการก้าวกระโดดของซีรีส์ Elder Scrolls แต่ยังกลายเป็นต้นแบบให้กับเกมยุคใหม่มากมายในยุคต่อมา
โลกแฟนตาซีที่มีชีวิต หายใจ และเลือกทางเดินเองได้
Oblivion พาผู้เล่นเข้าสู่ดินแดน Cyrodiil ที่กว้างใหญ่ เต็มไปด้วยรายละเอียด และโอกาสในการผจญภัยอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักรบผู้กล้า จอมเวทผู้ลึกลับ หรือหัวขโมยมือทอง ทุกเส้นทางคือทางเลือกของคุณเอง ระบบเกมให้ผู้เล่นมีอิสระในการสำรวจ ตัดสินใจ เสริมด้วยเนื้อหาที่อัดแน่นทำให้นี่เป็นเกมที่ติดตรึงในความทรงจำของหลาย ๆ คน
เควสต์ที่น่าจดจำมากกว่าคำว่า “ภารกิจ”
สิ่งที่ทำให้ Oblivion โดดเด่นคือเควสต์จากกิลด์ต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลึกซึ้งและการตัดสินใจที่มีผลต่อโลกในเกม โดยเฉพาะเควสต์ของ Dark Brotherhood และ Thieves Guild ที่ไม่ใช่แค่ “ทำภารกิจให้เสร็จ” แต่เป็นการดำดิ่งสู่โลกใต้ดิน จัดเป็น Quest Line ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขณะเดียวกันภารกิจย่อยอื่น ๆ ในเกมก็ล้วนแล้วแต่น่าจดจำ เรียกได้ว่าการออกแบบภารกิจเป็นหนึ่งสิ่งที่หลายคนเห็นตรงกันว่า Oblivion ทำได้ดีกว่าเกมภาคต่ออย่าง Skyrim เสียอีก
ระบบต่อสู้และพัฒนาตัวละครที่ยืดหยุ่นและทันสมัย (ในยุคนั้น)
Oblivion เปลี่ยนภาพจำของเกม RPG จากระบบเทิร์นเบสหรือคำสั่ง มาเป็นการต่อสู้แบบเรียลไทม์ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง พร้อมระบบพัฒนาทักษะที่เปิดกว้าง ไม่จำกัดผู้เล่นให้เดินตามกรอบเดิม ๆ คุณจะเป็นนักเวทใส่เกราะหนักก็ได้ หรือเป็นนักธนูที่ใช้เวทมนตร์ก็ไม่มีใครว่า แม้ระบบการพัฒนาตัวละครในเกมภาคต้นฉบับมันจะแปลก ๆ ชวนงงไปหน่อย แต่โดยรวมมันก็เปิดโอกาสให้ผู้เล่นปั้นแต่งตัวละครได้ตามใจ
เสียงตอบรับที่เกินกว่าคำว่า “ยอดเยี่ยม”
Oblivion ได้รับคำชื่นชมในระดับตำนานจากทุกสื่อ ตั้งแต่ IGN, GameSpot ไปจนถึงนิตยสารเกมชั้นนำทั่วโลก เกมคว้ารางวัล Game of the Year และ RPG of the Year มาครองหลายสำนัก และมียอดขายทะลุ 3 ล้านชุดในช่วงเวลาไม่นานหลังเปิดตัว ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นแล้ว แน่นอนว่า Skyrim นำพาเกมตระกูลนี้ไปสู่ความสำเร็จระดับใหม่และหลายคนก็ยังรอคอยภาคต่อของ Elder Scrolls มาจนถึงปัจจุบัน (รอจนแก่กันแล้ว)
มรดกที่ไม่เคยเลือนหาย
Oblivion คือหนึ่งในเกมที่กล้าเสี่ยง สร้างสรรค์ และมีอิทธิพลที่สุดในวงการเกม RPG มันไม่ใช่แค่เกมที่ “สนุก” แต่เป็นประสบการณ์ที่หล่อหลอมทัศนคติของผู้เล่นนับล้านทั่วโลก และกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับเกมยุคหลัง ทั้ง Skyrim, Dragon Age, The Witcher และอีกมากมาย เรียกได้ว่าเกมดังในยุคปัจจุบันต่างล้วนเดินตามเส้นทางที่ Oblivion ได้วางเอาไว้
การกลับมาในปี 2025 – Remastered ที่แฟนเกมรอคอย
ด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จในอดีต The Elder Scrolls IV: Oblivion ได้กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชัน Remastered ด้วย Unreal Engine 5 ที่ยกระดับกราฟิกให้ทันสมัย พร้อมเสียงพากย์ใหม่ และระบบที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น
เกมเมอร์รุ่นใหม่จะได้สัมผัสตำนานที่แท้จริง ส่วนแฟนเก่าจะได้หวนคืนสู่โลกที่ครั้งหนึ่งเคยหลงรัก ตัวเกมวางจำหน่ายกันแล้ว เราขอเชิญชวนทุกคนให้ไปลองสัมผัสกันได้ด้วยตัวเอง
