ม้ามืดในวงการเกมปีนี้ ไม่มีใครไม่พูดถึง Hades เกมที่อยู่ดี ๆ ก็กลายมาเป็นที่พูดถึงจากสื่อทุกสำนัก และแน่นอนว่า GamingDose เองก็ด้วย นอกจากที่มันจะได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ของโลกอย่าง The Game Awards แล้ว เรายังเลือกให้เกมนี้มาเข้าชิงในฐานะเกมยอดเยี่ยมของปี 2020 อีกด้วย ว่าแต่มันมีดีอะไร วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
Hades เป็นเหมือนกับผลงานที่ Supergiant Games ได้ตกผลึกมาจากสามผลงานก่อนหน้าอย่าง Transistor, Bastion และ Pyre โดยระบบการต่อสู้และงานศิลป์ที่ดูแล้วเหมือนหยิบ Pyre มาต่อยอดปรับปรุงให้มันดีขึ้น และมันโดนใจใครหลายคน + เข้าถึงคนได้มากขึ้น ด้วยการใช้ธีมของเทพกรีกที่ทุกคนรู้จักกันดี มาตีความและเล่าเนื้อเรื่องใหม่ ทำให้ดึงดูดคนที่สนใจในตำนานเทพกรีกให้หันมาลองเล่นเกมนี้กันด้วย
การออกแบบความยากของเกมที่ทำออกมาได้พอดิบพอดี แม้ว่าผู้เล่นจะต้องตายซ้ำซากเพื่ออัปเกรดตัวละคร แต่เพราะความสนุกของระบบ Combat ที่ชวนให้ผู้เล่นแก้มือใหม่ทุกครั้งหลังตาย ประกอบกับอาวุธที่หลากหลายรูปแบบ ที่จะส่งผลกับรูปแบบการโจมตีกับบัฟที่เราได้รับระหว่างการเล่น อันนี้ว่าทำดีแล้ว แต่ข้อจำกัดการที่ผู้เล่นใช้อาวุธเดิมแล้วบอสจะไม่ดรอปของพิเศษให้ ก็ยิ่งท้าทายให้ผู้เล่นต้องจับอาวุธทุกชนิดในการลุยใหม่ เพื่ออัปเกรดตัวละครให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนของงานศิลป์ และดนตรีประกอบก็ต้องบอกว่าสมกับเป็น Supergiant Games มันถูกต่อยอดและทำออกมาได้อย่างลงตัวด้วยโทนสีสด เล่นแล้วสบายตา ในบางช่วงที่เกมแทบจะกลายเป็นแนว Bullet Hell จากการโจมตีของเหล่าศัตรู ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกลายตาหรือปวดตาแต่อย่างใด (อาจจะแล้วแต่คนด้วย) แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นการออกแบบที่ยอดเยี่ยมและเข้าถึงแฟนเกมได้ทุกกลุ่ม ทุกประเภท
ไม่น่าแปลกใจ ท่ามกลางยักษ์ใหญ่อย่าง Ghost of Tsushima และ The Last of Us Part II นั้น Hades เป็นอีกเกมที่เปิดตัวแบบเงียบ ๆ หลังอยู่ในช่วง Early Access มาเกือบ 2 ปี และท้ายที่สุด ด้วยกระแสปากต่อปากและสื่อหลากหลายสำนัก เกมนี้พิสูจน์แล้วว่า มันมีคูณภาพที่มากพอไม่แพ้เกมใหญ่ ๆ เลย และในภาพรวม เกมนี้ก็ถึงพร้อมด้วยศักยภาพที่จะเข้าชิง Game of the Year อย่างแท้จริง รวมไปถึง The Best 2020 จาก GamingDose ของเราด้วย
