ถ้าหากให้พูดถึงซีรีส์เกมสเกตบอร์ดเกมใดเกมหนึ่ง ก็คงไม่มีทางหนีแฟรนไชส์ Tony Hawk’s ที่เคยโด่งดังมาก ๆ ในสมัยเครื่อง PlayStation และ PlayStation 2 ทั้งในประเทศบ้านเรากับทั่วโลก แต่ทำไมเกมกีฬาสเกตบอร์ดที่หลายคนคิดว่าเป็นเกมเฉพาะกลุ่ม ได้กลายเป็นเกมกีฬายอดนิยมในอดีตนั้น บทความนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังครับ
สเกตบอร์ดเป็นกีฬา Extreme ชนิดหนึ่งที่เคยได้รับความนิยมสำหรับหมู่วัยรุ่นในช่วงปี 70’s จนถึง 00’s เนื่องจากเป็นกีฬาเสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุ และมีท่าทักษะต่าง ๆ สุดเฟี้ยวฟ้าวดูเท่โดนใจเหล่าชายได้ไม่ยาก
แต่ว่าช่วงปี 90’s จู่ ๆ กีฬาสเกตบอร์ดได้มีกระแสโด่งดังและรับความสนใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จากที่เคยเป็นกีฬาของกลุ่มคนมั่วสุมและเหล่าอันธพาล กลายเป็นกีฬาท้องถิ่นกับป๊อปคัลเจอร์ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ทีมงาน Activision จึงติดต่อกับ Neversoft เพื่อพัฒนาเกมสเกตบอร์ดตามกระแส
Tony Hawk นักสเกตบอร์ดระดับตำนาน
ตอนแรก ทีมงาน Activision มีไอเดียเสนอให้ทำเกมสเกตบอร์ดเป็นเกมแนวแข่งขันประลองความเร็ว (Racing) คล้ายกับเกม Top Skater และ Skate or Die แต่ Neversoft ยืนยันว่าทีมงานมีความสามารถมากพอ พร้อมพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถสร้างเกมที่เหนือขั้นยิ่งกว่านั้น ทีมงาน Activision จึงเดินหน้าติดต่อ Tony Hawk โดยตรง เพื่อนำตัวเขาและนักกีฬาสเกตบอร์ดคนอื่นลงไปในเกม พร้อมใช้เทคโนโลยี Motion Capture กับอัดเสียงพากย์ ซึ่งนี่คือจุดกำเนิดของเกมซีรีส์ Tony Hawk’s เกมสเกตบอร์ดที่ฉีกกฎทุกความสมจริง โดยภาคแรกมีชื่อว่า Tony Hawk’s Pro Skater
เกมเพลย์ของ Tony Hawk’s แตกต่างจากเกมกีฬาอื่น ๆ เพราะขณะที่เกมกีฬาหลายเกมพยายามนำเสนอให้เกมมีความเรียลคล้ายกับชีวิตจริงมาก แต่ไม่ใช่สำหรับซีรีส์ Tony Hawk’s เนื่องจากเกมนี้เน้นระบบเกมการเล่นที่สนุกสนาน เร้าใจมากกว่าความสมจริง
โครงสร้างของเกมภาค Pro Skater จะมีลักษณะเป็นเกมอาร์เขตคลาสสิกให้เกมเมอร์ทำ Objective หรือ Task ต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน 60 วินาที อย่างเช่นทำคะแนนสูงสุด, ทำคะแนนคอมโบสูงสุด, เก็บตัวอักษร S-K-A-T-E ให้ครบ, เก็บม้วนวิดีโอพิเศษ และเก็บคอลเล็กชัน โดยถ้าหากเกมเมอร์สามารถทำ Task ครบตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ผู้เล่นสามารถปลดล็อกด่านต่อไปได้
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เกม Tony Hawk’s ได้เฉิดฉายขึ้นมานั้น ไม่ใช่เพราะเกมแนวสเกตบอร์ดที่วัยรุ่นชื่นชอบและมีชื่อ Tony Hawk นำหน้าอย่างเดียว แต่เป็นเพราะระบบเกมเพลย์เข้าถึงง่าย แต่เล่นให้เทพยาก โดยเฉพาะระบบคอมโบที่ผู้เล่นต้องคอยใช้เทคนิคต่าง ๆ ตั้งแต่ท่าเบสิก, ท่าพิเศษ, การ Grinding หรือข้ามแพลตฟอร์ม ซึ่งยิ่งกระทำเสี่ยงมากเท่าไหร่ คะแนนก็ยิ่งคูณเยอะเท่านั้น (รวมถึงหากออกท่าซ้ำเดิม ๆ ก็ทำให้คะแนนลดลงด้วย) และแน่นอนว่าหากผู้เล่นพลาดท่าจนล้มเมื่อไหร่ คะแนนที่สะสมมาทั้งหมดจะสูญหายในพริบตาทันที
นอกจากนี้ การออกแบบสนามสเกตบอร์ดก็ถือว่าสร้างสรรค์เหมือนกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในสนามล้วนเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเก็บคะแนน และแผนที่มีขนาดใหญ่พอให้เกมเมอร์สามารถลองสำรวจที่ลับได้ ไม่ว่าจะเป็นสนามพิพิธภัณฑ์, โรงเรียน หรือซานฟรานซิสโก ทุกด่านล้วนมีเอกลักษณ์และท้าทายในรูปแบบของมันเอง
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเพลงประกอบในเกม ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความเร้าใจระหว่างการเล่นและจับบรรยากาศคัลเจอร์ของกีฬาสเกตบอร์ด ด้วยการนำเพลงลิขสิทธิ์จากวงร็อก เมทัล กับพังก์ชื่อดัง ตั้งแต่ Dead Kennedys, Goldfinger, Suicidal Tendencies กับวงอื่น ๆ ซึ่งนับว่าเป็นองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ทำให้เกม Tony Hawk’s ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม
แม้ Tony Hawk’s Pro Skater มีระยะเวลาการเล่นเพียง 2 ชั่วโมง (ถ้าไม่นับ Speed Run ที่สามารถจบเกมได้ใน 5-7 นาที) และเป็นเกมขนาดเล็กที่ไม่ค่อยมีคอนเทนต์หากเทียบกับเกมสมัยนี้ แต่สำหรับสมัยเกม PlayStation แล้ว Tony Hawk’s เป็นเกมสเกตบอร์ดที่ดีที่สุดในยุคนั้น และเกมเมอร์หลายคนนิยมเลือกเล่นเกมดังกล่าวเพื่อใช้ท้าแข่งกับเพื่อน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ชาวไทยนิยมเล่นกันตามร้าน หรือก็ต้องบอกเลยว่า Tony Hawk’s Pro Skater เป็นเกมสามัญประจำบ้านของ PlayStation อีกเกมหนึ่งก็ว่าได้
หลังจากซีรีส์ Tony Hawk’s Pro Skater ดำเนินมาถึงภาคที่ 4 ทางทีมงาน Neversoft กับ Activision เริ่มมีความคิดเห็นว่าอยากจะให้ซีรีส์เกมมีความหลากหลาย และมีความแตกต่างจากภาค Pro Skater อย่างเห็นได้ชัด ทางทีมงานจึงตัดสินใจสร้างเกมภาคใหม่ขึ้นมา โดยมีชื่อต่อท้ายว่า Underground
Tony Hawk’s Underground เป็นซีรีส์เกม Tony Hawk’s ภาคแรกที่มีเนื้อเรื่องอย่างจริงจัง ! … ซึ่งความจริงแล้ว เนื้อเรื่องภาค Underground ก็ไม่ได้มีเนื้อหาดรามาเกี่ยวกับวงการกีฬาสเกตบอร์ดอะไรหรอก แต่เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักสเกตบอร์ดชื่อดัง ผู้เล่นจึงออกผจญภัยหลายแห่งทั่วโลก (หรือโดนลักพาตัวในภาคสอง) เพื่อสร้างชื่อเสียงแก่ตนเอง “ด้วยเส้นทางที่ไม่ซ้ำกับใคร”
ขณะที่เนื้อเรื่อง Tony Hawk’s Underground ไม่ได้มีคุณภาพดีที่สุด แต่เนื้อหาจัดว่ามีความสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น เน้นความเป็นคอเมดี้ กวนโอ๊ย กับสร้างความปั่นป่วน/ทำลายล้างเป็นหลัก และมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ มากมายที่ภาค Pro Skater ไม่มี เช่นระบบการตกแต่งตัวละคร, ระบบ Task ตามสปอนเซอร์, เก็บสเกตบอร์ดให้สามารถเดินด้วยเท้า และแน่นอนว่าโหมดอาร์เขตคลาสสิกยังคงมีให้เล่นอยู่ในภาคนี้
Tony Hawk’s Underground ประสบความสำเร็จทั้งยอดขายกับกระแสรีวิวตามหลัง Pro Skater 4 แบบติด ๆ ทำให้เกมดังกล่าว ถูกสร้างภาคต่อจนเกิดเป็น Underground 2 และ American Wasteland โดยเกมทั้งสองภาคยังคงนำเสนอเนื้อหาเหมือน Underground ภาคแรกก็คือการสร้างความปั่นป่วนกับชื่อเสียงไปทั่วโลก พร้อมอัปเกรดฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้ตัวเกมมีความสดใหม่ตลอดเวลา เช่นการตกแต่งสเกตบอร์ด, ตกแต่งสเปรย์, ระบบสร้างด่าน และโหมดขับขี่ BMX (สำหรับภาค American Wasteland)
แต่แล้วซีรีส์เกม Tony Hawk’s ก็เริ่มมาถึงจุดตกอับ เมื่อเกมเข้าสู่ภาค Proving Ground หรือเกม Tony Hawk’s ภาคที่สองของเครื่องเกมเจเนอเรชันที่ 7 (PlayStation 3, Xbox 360) ซึ่งมีกระแสยอดขายที่ไม่ดี และมีกระแสรีวิวทั้งคนชอบกับคนไม่ชอบ เนื่องจากการนำเสนอขาดความมีเสน่ห์แตกต่างจากยุคสมัย Underground, กราฟิกไม่สวยงามกับการ Optimized มีปัญหา รวมถึงเกมเมอร์เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับเกมเพลย์ Tony Hawk’s ที่แทบไม่นวัตกรรมใหม่ ๆ มานานแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลหลัก ทำให้หลายคนเริ่มหันไปเล่นซีรีส์เกม SKATE ของค่าย EA Black Box ซึ่งมีจุดเด่นด้านระบบเกมการเล่นกึ่งสมจริงกึ่งอาร์เขต และโหมด Multiplayer มีความสนุกสนานกว่า
แล้วชะตากรรมแฟรนไชส์เกม Tony Hawk’s ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ก็ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ “ซีรีส์ได้ตายจากไปอย่างสงบอย่างไม่เป็นทางการ” เพราะเกม Tony Hawk’s Ride, Shred และ Pro Skater 5 ซึ่งพัฒนาโดย Robomodo มีกระแสรีวิวในแง่ลบเป็นอย่างมากติดต่อกันสามภาคจนเป็นเหตุทีมงานถูกยุบในปี 2016, ส่วนทีมงานทำเกม Tony Hawk’s ต้นฉบับอย่าง Neversoft ได้ประกาศยุบในปี 2017, ซูเปอร์สตาร์อย่าง Tony Hawk เองก็ลดบทบาทการเล่นสเกตบอร์ดลง เนื่องจากอายุมากขึ้น (ปัจจุบัน อายุ 51 ปี) , ลิขสิทธิ์ Tony Hawk หมดสัญญา รวมถึงปัจจุบัน กีฬาสเกตบอร์ดไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับยุค 90’s-00’s จึงเป็นเหตุให้เกมประเภทสเกตบอร์ดหลายเกมได้เริ่มตายหายจากไปอย่างช้า ๆ จนไม่มีเกมใหม่ให้เล่นแล้ว ณ ตอนนี้
