VA-11 Hall-A: Cyberpunk Bartender Action เป็นเกมอินดี้ที่หลายคนต่างยกย่องว่านำเสนอโลก Cyberpunk ได้ดีอีกเกมหนึ่ง และล่าสุด เกมดังกล่าวกำลังมีกระแสตอบรับยอดเยี่ยมจากเหล่าผู้บัญชาการของชาว Girls’ Frontline ซึ่งปัจจุบัน เกม GF กำลังมีอีเว้นท์พิเศษ ซึ่งเป็นการ Collaboration ระหว่างสองเกม
ซึ่งตัวผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สนใจเกม VA-11 Hall-A เพื่อเตรียมตัวกับการเล่น Cyberpunk 2077 รวมถึงผมได้รับอิทธิพลจากเกม Girls’ Frontline ซึ่งหลังได้ลองเล่นเกมแล้ว ผมก็กล้ายืนยันอีกเสียงว่า VA-11 Hall-A เป็นเกมอินดี้คุณภาพคับแก้วและสมคำร่ำลือ ด้วยการนำเสนอ Cyberpunk ที่ไม่เหมือนใคร แต่คำว่า ‘ไม่เหมือนใคร’ จะแตกต่างจากเกมอื่นมากแค่ไหน ก็พบกับบทความนี้ได้เลย
เนื้อเรื่องย่อของ VA-11 Hall-A
Glitch City – 207X
เนื้อเรื่องของ VA-11 Hall-A จะเริ่มต้นในช่วงเวลาอนาคตของปี 207X ณ Glitch City ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งของฝ่ายรัฐบาลซึ่งใช้อำนาจกดขี่ข่มเหง โฉ้โกง กับมุ่งเน้นให้ผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเหล่าประชาชนตาดำ ๆ จะต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด หรือหนีออกจากเมืองแห่งนี้ ด้วยเหตุอาชญากรรมระหว่างแก๊งที่เกิดขึ้นทุกวัน, ฝ่ายรัฐบาลจับตามองชาวเมืองทุกฝีก้าวด้วยการฝัง Nanomachine ในร่างกาย และความยากจนที่ไม่มีทางไต่เต้าให้มีชนชั้นที่สูงขึ้น
เกมเมอร์จะรับบทเป็น Julianne Stingray (หรือมีชื่อเล่นว่า Jill) สาวบาร์เทนเดอร์ที่ทำงาน ณ บาร์เล็ก ๆ ย่านกลางเมืองแห่งหนึ่งมีชื่อว่า Valhalla โดยเรื่องราวชีวิตระหว่าง Jill กับชาวเมือง Glitch City ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์, หุ่นยนต์, ฝ่ายรัฐบาล หรือแอนดรอยด์ จะเล่าเนื้อเรื่องผ่านบาร์แห่งนี้ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ทำให้ลูกค้ากลับมามีชีวิตชีวา
จุดเด่นของ VA-11 Hall-A ที่นำเสนอโลก Cyberpunk ไม่เหมือนใคร
เรื่องราวเริ่มต้นที่โอเอซิสเล็ก ๆ เรียกว่า ‘Valhalla’
ก็บอกก่อนว่า VA-11 Hall-A ไม่ใช่เกมแอ็กชันปืนเดือด เหมือนเกม Cyberpunk ตัวอื่น ๆ แต่เกมนี้เป็นแนวอินดี้ ประเภท Visual Novel ของสัญชาติเวเนซุเอลา ที่สร้างโดย Sukeban Games ซึ่งตัวเกมจะเน้นการเล่าเรื่อง มีตัวละครแบบการ์ตูนญี่ปุ่น และภาพกราฟิกจี๊ดจ๊าดสไตล์ Retro คล้ายเกม Snatcher ของ Hideo Kojima ซึ่งเป็นแนว Visual Novel สืบสวน รวมถึงมีฉากหลังเป็นโลก Cyberpunk เหมือนกัน
แต่เนื้อเรื่องของ VA-11 Hall-A เป็นเกมแนวชิลล์เอ้าท์ซะมากกว่า เพราะ Jill เป็นเพียงบาร์เทนเดอร์สาวสวยคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตในเมือง Glitch City ที่ทำงานไปวัน ๆ แบบไม่มีเป้าหมาย เนื้อเรื่องเกมจึงไม่ค่อยมีจุดประสงค์ตายตัว
สิ่งที่ทำให้ VA-11 Hall-A มีเสียงตอบรับดี เพราะว่าบทพูดของแต่ล่ะตัวละครที่ถูกเขียนออกมาอย่างน่าสนใจ รวมถึงการออกแบบตัวละครมีลักษณะนิสัย รวมถึงการแต่งกายโดดเด่นเข้ากับโลกของ Cyberpunk อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้แม้ว่าเราจะไม่ค่อยเห็นรูปร่างของเมืองแบบเต็ม ๆ ตา แต่ด้วยองค์ประกอบที่กล่าวมา ทำให้เกมเมอร์รู้สึกผูกพันกับตัวละคร และตัวละครทุกตัวมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
ซึ่งแน่นอนว่า Cyberpunk เป็นโลกดิสโทเปียรูปแบบหนึ่งโดยมีนิยามว่า ‘เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่คุณภาพชีวิตตกต่ำ’ เกมนี้จึงมีบทสนทนาที่มีถ้อยคำรุนแรงมากมาย และมักนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาชนชั้น, การปฏิบัติทางเพศ, ความขัดแย้งทางการเมือง, ความใฝ่ฝัน, วัฒนธรรมกับเทคโนโลยี และมรสุมชีวิต ที่ไม่ได้ประสบเจอเพียงแค่ชาวเมือง Glitch City อย่างเดียว แต่รวมถึง Jill ก็มีปมด้อยกับบาดแผลในอดีต ซึ่งตัวเกมจะค่อย ๆ เปิดเผยออกมาทีล่ะนิด เกมนี้จึงจะมีเนื้อหา Lore เยอะ และมีการดำเนินเนื้อเรื่อง มีความน่าสนใจตลอดเกือบทั้งเกม
‘ความนิยมของกีฬาฟุตบอลลดลง กระแสมวยปล้ำเริ่มเข้ามาแทนที่’
ฉะนั้น ถ้าหากเกมเมอร์คาดหวังว่าจะเสพความโลกสวย ในท่ามกลางสภาพแวดล้อมดิสโทเปียบนเกม VA-11 Hall-A ก็คงต้องบอกเลยว่าเกมเมอร์ได้คิดผิดอย่างมหันต์ เพราะเกมนี้จะมีเนื้อหาตลกร้าย, ดูสมจริง, ดราม่า รวมถึงนำเสนอความเสื่อมทรามบนโลก Cyberpunk แบบถึงพริกถึงขิงสุด ๆ
‘Time to mix drinks and change lives’
ถึงเกมเพลย์จะออกแบบมาให้เล่นง่ายกับเพลิดเพลิน ตามสไตล์ Visual Novel ที่เน้นการเล่าเรื่อง แต่ระหว่างการเล่าเรื่อง ผู้เล่นจะต้องคอยเสิร์ฟเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่งเกมเมอร์สามารถเปิดไกด์ให้เพลเยอร์สามารถผสมเครื่องดื่มได้ถูกต้องตลอดเวลา พร้อมไม่มีการจำกัดเวลาว่าต้องเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เสร็จภายในเวลาเท่าไหร่
แม้กระทั่งเครื่องดื่มยังมีพื้นหลังของตัวเอง
แต่อย่างน้อย ตัวเกมจะมีความท้าทายอย่างหนึ่งที่ให้ผู้เล่นต้องคิดวิเคราะห์ก่อนเสิร์ฟเครื่องดื่ม เพราะว่าลูกค้าบางคนจะสั่งเมนูที่มีความหมายค่อนข้างกว้าง หรือขาดความชัดเจน เช่น ‘ขอเครื่องดื่มอะไรก็ได้ ไม่มีแอลกอฮอล์’ หรือ ‘ขอเครื่องดื่มแมน ๆ ขม ๆ หน่อย’ เป็นต้น แล้วถ้าหากสั่งเมนูพลาด ผู้เล่นจะถูกตัดเงินค่าเงินจ้างประจำวัน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนท์ และถ้าหาก Jill ไม่มีเงินพอจ่ายค่าเช่าห้อง ตัวเกมจะตัดเข้าฉาก Bad End กับ Game Over
นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีลูกเล่นสนุก ๆ เล็กน้อย อย่างเช่น บางเมนู ผู้เล่นสามารถใส่เครื่องดื่ม Karmotrine (เปรียบเสมือนเป็นปริมาณของแอลกอฮอล์) เท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งถ้าหากเกมเมอร์จะมอมเหล้าจนลูกค้าเมาสำเร็จ ลูกค้าจะเริ่มพูดจาสกปรกเลอะเทอะที่ชวนตลกซะไม่มี
บางที การมอมเหล้า Dorothy ทำให้ Jill ได้เห็นบทพูดชวนสยิวสุด ๆ ไม่เกรงใจใครแบบภาพนี้
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือเพลงประกอบของ VA-11 Hall-A ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแนว Techno, Electronics, Funk, Ambient ในยุค 80’s ซึ่งเปิดตามบาร์ต่าง ๆ แล้วด้วยเกมเพลย์เล่นง่าย พร้อมนำเสนอบทสนทนาน่าสนใจ จึงทำให้เกมนี้มีบรรยากาศ “ชิลล์เอ้าท์” เหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง
หนึ่งในเกมนำเสนอโลก Cyberpunk ดีที่สุด
สำหรับความคิดเห็นของผู้เขียน เกม VA-11 Hall-A ถือว่าจัดว่าเป็นเกม Visual Novel ที่ดีอีกเกมหนึ่ง เพราะองค์ประกอบเกมเกือบทุกอย่างสามารถนำเสนอโลกของ Cyberpunk ได้ตรงจุด
แต่แน่นอนว่าเกมนี้ไม่เหมาะสำหรับเกมเมอร์ทุกคน เพราะแม้ตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องยาวประมาณ 15-20 ชั่วโมงก็จริง แต่ด้วยการดำเนินเนื้อเรื่องจะเล่าเรื่องผ่านตัวอักษร ซึ่งจำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษในระดับกลาง, ไม่มีเสียงพากย์ประกอบ, ไม่มีฉากแอ็กชัน และมีระบบเกมเพลย์แบบชิลล์เอ้าท์ จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก ที่เกมเมอร์บางคนจะมองว่า VA-11 Hall-A เป็นเกมน่าเบื่อหรือชวนง่วงนอนจนเกินไป
แต่ถ้าหากเกมเมอร์มีความชื่นชอบ Cyberpunk หรือเป็นผู้เล่นสายเนื้อเรื่อง Singleplayer คุณจะต้องหลงรักเกม VA-11 Hall-A อย่างแน่นอน และล่าสุดมีข่าวว่า Sukeban Games กำลังพัฒนาเกม N1RV Ann-A ซึ่งเป็นภาคต่อของภาคแรก โดยมีแผนวางจำหน่ายช่วงปี 2020 นี้ ก็ไม่แน่ว่าผู้เล่นอาจจะได้มีโอกาสรีวิวเกมดังกล่าวในอนาคต
