เพราะมื้อที่สุขที่สุด ก็คืออาหารจากฝีมือบุคคลอันเป็นที่รัก
หากใครกำลังรู้สึกเหนื่อยล้าจากภาระหน้าที่ ขาดแรงใจ หรือเดียวดายเพราะห่างไกลครอบครัว บางที “Venba” อาจเป็นเกมที่คุณควรได้ลองสัมผัสสักครั้ง
นี่คือเกมจากทีมงานสัญชาติอินเดียอย่าง Visai Games ที่เลือกใช้งานศิลป์แบบภาพวาดชวนสะดุดตาผู้ที่ผ่านไปผ่านมา ขณะเดียวกันก็ยังชูจุดเด่นความเป็น “Narrative Cooking” ให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินกับการเล่าเรื่องและทำอาหารไปด้วยพร้อม ๆ กัน
(มีการเปิดเผยเนื้อหาในช่วงต้นเกมเล็กน้อย)
เรื่องราวของเกมนี้ พาผู้เล่นไปรู้จักกับครอบครัวชาวอินเดีย ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในแคนาดาเพื่อแสวงหาโอกาส โดยมี “Venba” เป็นศูนย์กลางของเหตุการณ์ต่าง ๆ , Venba เป็นทั้งภรรยาและแม่ผู้มีเสน่ห์ปลายจวักเป็นอาวุธ เธอคือคนที่จะไม่ยอมปล่อยให้สามีกับลูกชายต้องทนหิว และพร้อมเข้าครัวเพื่อทำสารพัดอาหารอินเดียรสเลิศ ด้วยสูตรเด็ดที่สืบทอดมาจากแม่ของเธออีกทีหนึ่ง
ตัวเกมเลือกที่จะเล่าเรื่องสลับกับพาร์ททำอาหาร (ที่หนักไปในเชิงพัซเซิล) อยู่เป็นระยะ เพื่อให้ผู้เล่นได้ค่อย ๆ สำรวจ Venba และครอบครัวของเธอในแต่ละช่วงเวลา พร้อมกันก็ยังเป็นโอกาสที่ผู้เล่นจะได้ซึมซับเสน่ห์ของอาหารอินเดีย ที่แม้ว่ากราฟิกของอาหารจะไม่ได้สมจริง แต่ด้วยงานกำกับศิลป์อันยอดเยี่ยม ร่วมกับเสียงเอฟเฟคต์ของเครื่องเทศที่กำลังสัมผัสผิวกระทะร้อน ๆ ก็อาจทำให้คุณเล่นไป น้ำลายสอไปในยามดึกได้ไม่รู้ตัว
อีกหนึ่งจุดขายในเกม Venba ซึ่งไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือดนตรีอันชวนติดหู และกลมกล่อมไม่แพ้เมนูที่ผู้เล่นกำลังทำอยู่ตรงหน้า หากใครที่เคยดูหนังอินเดียแล้วชื่นชอบบรรดาเพลงประกอบ ก็น่าจะหลงรักเกมนี้ได้ไม่ยากเลย ขณะเดียวกันมันก็ไม่ได้ปรุงรสไว้จัดมากนัก จึงยังพอจะเป็นดนตรีที่เข้าถึงได้กับผู้เล่นทุกกลุ่ม ทำนองเดียวกันกับบรรดาอาหารในเกม ซึ่งต่อให้คนไทยอย่างเรา ๆ จะไม่ได้คุ้นเคย แต่ผู้พัฒนาก็ยังมีหลากหลายกลวิธีให้เราจินตนาการถึงรูป รส กลิ่น และสัมผัสของแต่ละเมนูได้อยู่ดี
ดังนั้นแล้ว ฉากหน้าของเกมจึงเป็นการใช้อาหารเพื่อสื่ออารมณ์และเรื่องราว ซึ่งบางช่วงจังหวะก็มอบกลิ่นอายที่ชวนให้นึกถึงหนังดังเมื่อสิบปีก่อนอย่าง The Lunchbox อยู่เนือง ๆ ทั้งนี้ผู้พัฒนาก็ไม่ได้ปล่อยให้เราอิ่มอร่อยไปกับสารพัดเมนูตรงหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมี Aftertaste ที่สอดแทรกสารต่าง ๆ ผ่านชีวิตครอบครัวของ Venba เอาไว้ด้วย
แน่นอนว่าชีวิตนั้นไม่ได้มีแค่ยามสุข เกมนี้จึงเลือกที่จะเล่าในบริบทรสชาติที่แตกต่างกัน ทั้งด้านความหวัง ความฝัน และการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งแม้ว่าเรื่องราวของครอบครัวอินเดียที่อาศัยในต่างแดน อาจไม่ได้เกี่ยวพันกับผู้เล่นหมู่มาก แต่ขอเพียงแค่มีประเด็นย่อยสักประเด็นหนึ่งที่ทำงานกับเราได้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณเข้าอกเข้าใจในตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของพ่อ แม่ หรือลูกก็ตาม
เสน่ห์ในการเล่าเรื่องของ Venba คือผู้พัฒนาเลือกที่จะนำเสนอข้อคิดออกมาอย่างนอบน้อม ไม่พยายามจะสั่งสอนผู้เล่น ขณะเดียวกันก็วางบทพูดเอาไว้อย่างเรียบง่ายและชาญฉลาด ทำให้เราได้รับรู้อุปนิสัยของแต่ละคนอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น มันจึงออกมาเป็นเกมที่กระชับ เหมาะสำหรับการเล่นรวดเดียวให้จบ แต่ความสั้นของเกมก็ถือได้ว่าเป็นข้อเสียด้วยเช่นกันในอีกมุมหนึ่ง
โดยรวมแล้ว, เกม Venba สามารถนำเสนอความเป็น Narrative Cooking ได้จริง ๆ ตามเป้าประสงค์ของทีมผู้พัฒนา มันเริ่มต้นกับเมนูง่าย ๆ เพื่อเปิดต่อมรับรส พาเราไปรู้จักกับเหล่าตัวละคร ก่อนจะกระแทกเข้ามาด้วย Main Course รสชาติเข้มข้นชวนหยิบเข้าปากจนหมดจาน ส่วนเมนูหลัง ๆ จะเป็นอะไรบ้างนั้น เราก็อยากให้คุณได้มาลองชิมกันเอง ซึ่งปัจจุบันเกมนี้วางจำหน่ายแล้วทั้งบน PC (Steam), Switch, PlayStation 5, Xbox รวมถึงลงให้กับ Xbox Game Pass ด้วย
แม้ตัวเกมจะไม่ได้หวือหวา เล่นจบแล้วไม่ถึงขั้นอยากเดินเข้าร้านอาหารอินเดียทันที แต่เชื่อว่าหลายคนจะรู้สึกอยากกลับบ้านไปทานกับข้าวฝีมือครอบครัวกันบ้างแน่นอน ซึ่งขอเพียงเท่านั้น ก็ถือว่าเรื่องราวของ Venba ได้ทำหน้าที่ไปโดยลุล่วงแล้ว