BY Watchman
11 Feb 22 6:50 pm

WatchGame : ทำไมหนังที่ดัดแปลงจากเกมจึงมักห่วย ?

32 Views

คำว่า ‘ห่วย’ อาจฟังดูแรงไปหน่อย แต่ห่วยไม่ใช่แค่ไม่ดี แต่เป็นการพูดบอกเล่าเชิงถามในใจว่า “แย่ขนาดนี้เลยหรอ?” มันเป็นคำพูดติดปากจากหลายคนที่แม้ปราศจากอคติก่อนดูแต่หลังได้ดูหนังซีรีส์ที่เป็น game adaptation ก็มักจะพูดคำๆนี้ออกมาเหมือน ๆ กันเมื่อพบว่าเรื่องนั้นมีปัญหาด้านคุณภาพแง่ใดแง่หนึ่ง จนทำให้รู้สึกทำใจล่วงหน้าไว้แล้วว่าคาดหวังอะไรไม่ได้ ในเบื้องต้นจึงได้แค่หวังให้ทำออกมาได้ดีเท่าเกม ไม่ต้องมากกว่า แต่ขอภาวนาให้ไม่น้อยกว่าก็เกินพอ

นั่นสิ ทำไมกันนะ ? ทำไมมันถึงห่วยเสมอเลยล่ะ ?

สำหรับกรณีศึกษาที่ชัดเจนคือเรื่องล่าสุดอย่าง Resident Evil: Welcome to Raccoon City ที่เพิ่งจะเข้าโรงไป เป็นหนังที่โดยส่วนตัวไม่อยากจะเรียกว่าหนังซักเท่าไหร่ เพราะคุณภาพด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบท การกำกับการแสดง บทพูด ความสนุก แคสต์ติ้ง กับอะไรอีกมาก ยังไม่สามารถสู้หนังนักศึกษามหาวิทยาลัยได้ แต่กลับได้รับทุนสร้างสูงจากสตูดิโอใหญ่เพราะ Resident Evil มีแฟนเกมจำนวนมาก

หนังรีบู๊ตผีชีวะฉบับนี้ว่ากันตามตรงจึงไม่จำเป็นต้องสร้างหากจะสร้างมาแล้วคลอดออกมาเป็นผลงานที่ไม่มีวันได้สร้างภาคต่อเรื่องนี้และทำให้ภาคเก่าที่มี Milla Jovovich มาเล่นเป็นนางเอก (ในบทตัวละครที่ไม่ได้มีในเกม) ดูดีขึ้นมาเลยเช่นนี้

กลับมาเรื่องหนังดัดแปลงจากเกมห่วย อันที่จริงก็ต้องบอกว่ามันเป็นการโฟกัสอย่างหนึ่ง เหมือนถ้าเราเห็นเลขไหนบ่อย ๆ เช่น เลข 11 ตอน 11 โมง 11 นาที หรือเป็นป้ายทะเบียนรถ 1111 เราจะสังเกตแล้วรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมถึงเห็นมันบ่อยผิดปกติราวกับเป็นข้อผิดพลาดใน The Matrix ทั้งที่จริง ๆ ระหว่างวันเราก็ได้เห็นเลขอื่น ๆ มากมายแต่เราไม่ได้นับ Mass Effect เช่นเดียวกัน จริง ๆ แล้วมีหนังห่วยที่ไม่ได้ดัดแปลงจากเกมตั้งมากตั้งมาย ไม่ว่าจะเป็นดัดแปลงจากนิยาย หนังสือ เรื่องสั้น มังงะ การ์ตูน เรื่องจริง รวมถึงรีเมครีบู๊ตของหนังในตำนาน แต่พอมันเป็นหนังดัดแปลงจากเกม เราจึงโฟกัสมัน อันนี้ส่วนหนึ่ง

เช่นเดียวกัน จริง ๆ แล้วมีหนังห่วยที่ไม่ได้ดัดแปลงจากเกมตั้งมากตั้งมาย ไม่ว่าจะเป็นดัดแปลงจากนิยาย หนังสือ เรื่องสั้น มังงะ การ์ตูน เรื่องจริง รวมถึงรีเมครีบู๊ตของหนังในตำนาน

แต่สาเหตุ 90-95% ที่ทำให้โฟกัส ก็เพราะส่วนใหญ่มันห่วยเยอะจริง ซึ่งพอมาลองวิเคราะห์ดูแล้วก็เนื่องจาก

1. หนังที่ดัดแปลงจากเกม มักถูกเกมตีกรอบ เหมือนเราขับรถหลังจากเพิ่งเรียนขับรถมาแล้วถูกพ่อหรือแม่มานั่งข้าง ๆ เราจะรู้สึกเกร็ง ๆ จะขับก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ เกมเป็นสื่อบันเทิงนึงที่มีฐานแฟนๆสูงและค่อนข้างจะ worldwide ความคาดหวังของแฟนๆมีส่วนทำให้นักทำหนังหรือคนเขียนบทรู้สึกเกร็งได้ ไม่ว่าจะถูกเพ่งเล็งขนาดนั้นหรือไม่ก็ตม

2. เพราะเกมมักจะมี lore ละเอียดและการสร้างโลกที่กว้างใหญ่ มีวัตถุดิบให้หยิบจับมากมาย รวมไปถึงช่วงตอนต่างๆของเนื้อเรื่องที่สามารถหยิบยกมาใช้ได้ เป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าอันไหนหยิบมาใช้และเวิร์คไม่เวิร์ค ในขณะเดียวกันเกมบางเกมก็ไม่ค่อยมีรายละเอียดหรือเนื้อเรื่องอะไรมากนัก ก็เป็นเรื่องยากอีกที่จะคิดต่อยอดสร้างบ้านจากพื้นที่โล่งๆ

3. การดัดแปลงเป็นหนังที่เป็นอีกแพล็ตฟอร์มนึง วิธีการเล่าต่างกัน เวลาจำกัด โครงเรื่องกับองก์เรื่องแตกต่าง จึงต้องหยิบแค่บางส่วนมาใช้ รวมถึงดัดแปลง/ตัดทอนบางตัวละครกับเนื้อหาบางส่วนให้เหมาะกับการเล่าเรื่องแบบหนัง ทำให้ไม่ถูกใจแฟนเกม อาจแฟนเกมมองว่าไม่ faithful หรือไม่เที่ยงตรงต่อต้นฉบับ และต่อให้เที่ยงตรงก็เดิม ๆ ไปอีก ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ลอกมาแบบไม่ต้องดัดแปลงก็ได้

แต่ที่พูดมาจะบอกว่า 3 ข้อนี้ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำมันออกมาไม่ดี ฝั่งอื่น ๆ เองก็ประสบปัญหานี้เหมือนกันแต่บางเรื่องก็ยังทำออกมาดีได้ ไม่อย่างนั้นทุก adaptation ที่ดัดแปลงจากสื่ออื่น ๆ คงออกมาไม่ดีหมดแล้ว และแม้จะมีทั้งดีและไม่ดีปนกันไป จากสถิติ หนังซีรีส์ดัดแปลงจากเกมจะมีคำว่าห่วยแปะไว้เยอะสุดอยู่ดี

เมื่อพิจารณาแล้ว จะสามารถแบ่งหนังซีรีส์ดัดแปลงจากเกมที่พอนึกออกได้เป็นสามกลุ่ม คือ

กลุ่มแรก ‘ดี’ ที่พูดได้เต็มปากคือ Arcane

กลุ่มที่สอง ‘กลางๆกับโอเค’ ที่นึกออกคือ Silent Hill, Pokémon Detective Pikachu, Assassin’s Creed, Warcraft, Prince of Persia,Tomb Raider, Rampage, Mortal Kombat, Sonic the Hedgehog, Angry Birds The Movie และซีรีส์ The Witcher

กับกลุ่มที่สามคือ ‘อย่าหาทำ’ ได้แก่ HITMAN: AGENT 47, Need for Speed, Monster Hunter กับ Resident Evil ภาคเก่าๆทั้งหลาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาครีบู๊ตนี้

(ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น)

เมื่อลองมองดูทั้งสามกลุ่มน่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนแล้วว่าสาเหตุที่ Arcane ออกมาดีเพราะเจ้าของหรือ Riot Games ทำเอง คุมเอง ด้วยความที่ lore ของเกม League of Legends หรือ LoL แน่นและกว้างใหญ่ไพศาล อนิเมชั่นซีรีส์เรื่องนี้จึงเลือกใช้ได้ว่าจะนำตัวละครไหนมาใช้ เล่าในพื้นที่ไหน สร้างตัวละครไหนเพิ่ม และเล่นประเด็นอะไรที่น่าสนใจได้บ้าง ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากจะบูมและเป็นที่ยอมรับจนขยายฐานแฟนให้คนที่ไม่รู้จักสนใจเล่นเกม PC และมือถือแล้วยังส่งผลต่อ lore หลักและเนื้อเรื่องตัวละครที่ถูกอัพเดตให้เปลี่ยนตามซีรีส์ด้วย

ลงมาที่กลุ่มสองและสาม Silent Hill เป็นหนังที่ถือว่าสร้างความและความจดจำได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้เป็นหนังสมบูรณ์แต่เป็นหนังสนุกปนสยอง และเป็น a must สำหรับคนชอบลี้ลับ, Detective Pikachu เป็นหนังที่มีความกล้าเล่น ด้วยการนำวัตถุดิบจากโปเกมอนมาสร้างด้วยเรื่องราวของตัวเอง ตัวละครของตัวเอง, Mortal Combat เป็นหนังที่ตอบโจทย์แฟนๆเรื่องความโหด และความสะใจ, Rampage ก็มาไกลจากต้นฉบับ 8 bit มาก, Assassin’s Creed กับ Warcraft เป็นหนังที่ภาพสวยและถ่ายทำดี ขาดแค่เรื่องบทเท่านั้น, The Witcher เป็นซีรีส์ดัดแปลงจากเกมที่มีเนื้อหาแน่นแต่มีปัญหาด้านรสนิยมการแคสต์, คอสตูม, การออกแบบ, บท และการกำกับในซีซั่นแรก และซีซั่นสองแม้จะสนุกกว่าเดิมแต่ก็เห็นตรงนี้ได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะการที่ฉีกจากนิยายและเกมไปเรื่อยๆ ซึ่งแฟนๆต่างก็บอกว่าไม่เวิร์ค

ทีนี้ลองข้ามไปยังฝั่งอื่น ๆ จะเห็นว่าเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่าง Edge of Tomorrow ที่ดัดแปลงจากมังงะ All You Need Is Kill ถือว่าเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จทั้งคุณภาพและความสนุกจนหลาย ๆ คนชอบกว่าต้นฉบับ, หนังดัดแปลงจากมังงะ Rurouni Kenshin ก็เป็นหนังที่คนให้การยอมรับ หรือหนังอย่าง Blade Runner 2049 ที่ต่อยอดมาจากหนังไซไฟในตำนานอย่าง Blade Runner ก็มีคนไม่น้อยชอบกว่าภาคแรก และในทางกลับกันเกมภาคแยกที่ดัดแปลงจากซีรีส์ Game of Thrones ก็คุณภาพดีไม่แพ้ซีรีส์ (ตอนที่ยังดีๆนะ) เช่นกัน เพราะอยู่ในมือของ Telltale Games ในขณะที่หนังภาค prequel ของ Harry Potter ที่ชื่อ Fantastic Beasts ก็เขียนบทโดยผู้ให้กำเนิดอย่าง J.K Rowling แต่กลับออกมาอย่างที่เห็น

จากตัวอย่างทั้งสามกลุ่มกับตัวอย่างจากฝั่งอื่น สรุปได้ว่า สาเหตุที่แท้จริงก็แค่ เกมบางเกมควรเป็นแค่เกมไม่ต้องการการดัดแปลง เหมาะกับการเป็นเกมดีที่สุดด้วยอิสระในการสร้างสรรค์และเวลาที่ใช้เล่า หรือหากเป็นเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ทางค่ายต้องการกอบโกยจากทั้งคนที่เป็นแฟนเกมและคนไม่ใช่แฟนเกมกับเรื่องของการยื้อลิขสิทธิ์ไม่ให้ไปไหน ก็ควรที่จะไปอยู่ในมือของผู้กำกับและคนเขียนบทที่ใช่ (ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นผู้ให้กำเนิดหรือไม่) และจริงจังกับมันมากกว่านี้ และควรที่จะกล้า รู้ว่าควรกล้ากับสิ่งไหนกว่านี้ ให้เวลากว่านี้ และรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำกว่านี้

ท้ายที่สุดจึงขึ้นอยู่กับสตูดิโอที่จะมองเห็นว่าใครควรถือโปรเจ็คต์ adaptation นั้น ๆ และอยู่ที่ผู้ได้รับมอบหมายว่าจะมีเซ้นส์ในเรื่องพวกนี้ขนาดไหน เพียงแต่อย่างไรก็ตามสูตรนี้ก็ใช่จะได้ผลเสมอไป ชื่อเสียงผู้กำกับก็ไม่ได้เป็นตัวการันตีอยู่ดีว่าเมื่อนำเกมไปดัดแปลงแล้วจะออกมาดี และบางครั้งผู้กำกับดัง ๆ หรือรุ่นใหญ่ก็ปฏิเสธจะมาจับโปรเจ็คต์ดัดแปลงจากเกมเพราะตัวเองไม่เล่นเกม ผลคือโปรเจ็คต์นั้น ๆ มาตกอยู่ในมือผู้กำกับอินดี้หรือโนเนมซะส่วนใหญ่ นี่แหละคือที่เราเรียกว่า ‘อาถรรพ์’ ความที่มันไม่เคยตกไปอยู่ในมือคนถูกคนซักเท่าไหร่

ฉะนั้นสำหรับฝั่งแฟนๆแล้ว เมื่อได้ยินว่าเกมโปรดจะดัดแปลงเป็นหนัง จึงมีทางเลือกไม่มาก 1. ไม่คาดหวัง 2. ไม่ดู 3. ลุ้นว่าจะหมู่หรือจ่าเป็นรายเรื่องไปว่าเรื่องนั้นจะออกมาดีมั้ยโดยที่พอจะคาดเดาคำตอบได้ตั้งแต่ก่อนสร้าง ได้เห็นอะไร ๆ ระหว่างสร้างและตอนที่หนังเสร็จแล้วรอฉาย 4. บางคนถึงกับภาวนาว่าอย่ามายุ่งกับเกมที่เรารักเลย สร้างมาไม่ดีไม่ดูนะ แต่ถึงเวลาก็อดไม่ได้ที่จะดูซักหน่อยเหมือน Resident Evil: Welcome to Raccoon City ที่รู้ว่าจะเป็นยังไงแต่ก็ยังดู และดูจบก็ถึงกับช็อคว่าหนักกว่าที่คิด

จากนี้ไปจะมีทั้งหนัง Uncharted, ซีรีส์ Halo, Ghost of Tsushima, Mass Effect, Splinter Cell, Five Nights at Freddy’s, Metal Gear Solid, Minecraft: The Movie, Portal กับ The Last of Us และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ที่รู้ๆหนึ่งในเรื่องที่ต้องยอมรับตรงๆว่าคาดหวังที่สุดว่าจะออกมาดีคือ The Last of Us เพราะซีรีส์เรื่องนี้อยู่ในมือช่องคุณภาพอย่าง HBO และมีทั้งผู้กำกับ/คนเขียนบทที่กลับมาคุมงานสร้างและดูแลบท, คนทำดนตรีให้เกมที่กลับมาทำให้ซีรีส์, อำนวยการสร้างโดยโปรดิวเซอร์ซีรีส์ Chernobyl และนักแสดงนำที่การันตีฝีมือ

ผู้อ่านอยากดูเรื่องไหนที่สุดในนี้ อยากเห็นเรื่องไหนถูกสร้างเป็นหนัง (หรือไม่อยากก็ได้) และคิดว่าเรื่องไหนจะไหวไม่ไหว ลองมาทายกันเล่น ๆ ดีกว่า

===============

WatchGame คอลัมน์วิเคราะห์วิจารณ์หนังซีรีส์ที่สร้างจากเกมโดย Watchman

Watchman Watchman

A man who ชื่นชอบการดูหนังซีรีส์ ไซไฟ ปรัชญา Game of Thrones และชอบเขียนวิเคราะห์เป็นชีวิตจิตใจ

Back to top