คำว่า “ฟาร์ม” หรือ “Grind” สำหรับเกมเมอร์บางคนอาจมองเป็นคำวิจารณ์ด้านลบ แต่ผู้เล่นบางกลุ่มไม่ร้อนหนาวกับคำนี้ บางคนมองว่าเกมออกแบบมักง่าย แต่บางคนสามารถเล่นได้เพลิดเพลิน
ทำให้เกมที่มีเนื้อหาเน้นฟาร์ม, ทำภารกิจเดิม ๆ และเก็บกล่องกราบไหว้ RNG เช่น Anthem, Destiny หรือ The Division ภาคแรก จึงมีกระแสวิจารณ์เกมแบบผสม เพราะคอนเทนต์น้อยและเกมเพลย์ขาดความสร้างสรรค์
แต่ผู้เล่นบางส่วนหรือส่วนใหญ่ ยังคงสามารถสนุกสนานกับเกมเหล่านั้น เพลเยอร์หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าเกม Grind มีเพชรงามตรงไหนและเพราะอะไร บทความนี้อาจช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกเคลียร์กระจ่างไม่น้อยครับ
เกมส่วนใหญ่เหมาะสำหรับการฆ่าเวลา
เกมเมอร์ผู้สามารถ Grind ได้อย่างสบายใจกับรู้สึกไม่น่าเบื่อ ส่วนใหญ่ยกเหตุผลสุดเรียบง่ายว่า เพราะสนุกและสามารถเล่นฆ่าเล่นเวลา
ผู้เล่นสายนี้จะไม่ค่อยซีเรียสกับการเล่นเกมเชิงเจาะลึกหรือพยายามมองหานวัตกรรมแปลกใหม่ พวกเขาเล่นเกมเพื่อต้องการผลาญเวลาเมื่อมีเวลาว่าง หรืออยากผ่อนคลายจากการทำงานหลังเลิกเรียนแล้วเท่านั้น
เท่าสังเกตเห็นจากเว็บบอร์ด r/TrueGaming ของ Reddit – เกมเมอร์ผู้ชื่นชอบ MMORPG หรือ MMO Shooting ส่วนใหญ่ที่จะเลือกปิดเพลงประกอบของเกม แล้วเปิดเพลงเบา ๆ รู้สึกผ่อนคลายอย่าง Ambient, Classical, Lo-fi music หรือ Podcast เพื่อให้สามารถ Grind ไอเท็มอย่างเพลิดเพลิน
และตัวเกมมักมีออกแบบเกมให้สามารถเล่นยาวต่อเนื่องหรือมีอายุ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากเกม Singleplayer ที่มีระยะเวลาเล่นเพียง 40-60 ชั่วโมงเท่านั้น
ทำให้เกมเมอร์รู้สึกสนุกสนานกับการฟาร์มไอเท็มหรือเก็บค่า EXP เป็นเพราะเกมเพลย์ไม่ซีเรียส, เน้นระบบ Progression ระยะยาว, และเล่นเพลิดเพลินโดยไม่จำเป็นต้องงัดฝีมือให้เหนื่อยเปล่า ๆ
เห็นพัฒนาการและมีเป้าหมายของตัวเองชัดเจน
จะบอกว่าเกมเหล่านี้สำหรับสาย Casual หรือไม่? ต้องตอบว่า ไม่ใช่แน่นอน! เพราะระบบ Grind ของวิดีโอเกม ก็คล้ายกับผู้เล่นกำลังหัดฝึกวาดรูปกับขับรถยนต์ ในตอนแรก เกมเมอร์อาจยังไม่มีประสบการณ์จากการทำกิจกรรมเหล่านั้นมาก่อน ฝีมือของเกมเมอร์จึงอ่อนหัดกว่าคนอื่น
วิธีการฝึกฝนให้ผู้เล่นมีฝีมือเก่งขึ้น คือต้องทำกิจกรรมเหล่านั้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งก็เหมือนกับคำพูดจาก Vass ใน Far Cry 3 ที่เคยกล่าวนิยามของความวิกลจริต (Definition of Insanity) ไว้ว่า..
การกระทำแต่เรื่องเดิม ๆ วนแล้ววนเล่า เพื่อคาดหวังกับการเปลี่ยนแปลง นั่นแหละคือความวิกลจริตแบบแท้จริง
- Vass Montenegro
ซึ่งที่ Vass พูดมาก็ถูกต้อง เพราะการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัดแบบรวดเร็วทันตา มันไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้อย่างง่ายดาย เกมเมอร์ต้องทำกิจกรรมแต่เรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า น่าเบื่อทุกนาที ทุกเวลา ทั้งที่เราไม่มีทางรู้ว่าจะเก่งขึ้นตอนไหน บางคนก็ยอมแพ้กลางทาง แต่อีกบางคนก็สามารถไปถึงเป้าหมายสูงสุดของชีวิต เพราะการทำแต่เรื่องเดิม ๆ จนเก่งกาจ
การเล่นเกมเน้น Grind ก็เช่นกัน เกมเมอร์หลายคนไม่ชื่นชอบระบบดังกล่าว เพราะความซ้ำซากและน่าเบื่อหน่าย แต่สำหรับคนหลงรักเกมประเภทนี้ เขาเลือกที่จะเล่นต่อไป เพื่อให้ตัวละครเกมมีวิวัฒนาการกับประสบการณ์ จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทุกคนต่างนับถือ และน่าจับตามองบนโลกของวิดีโอเกม
แน่นอนว่าเพลเยอร์เทพเหล่านั้น ต่างล้วนผ่านการฟาร์มไอเท็มตั้งแต่เริ่มต้นจากเลขหนึ่งเกือบทั้งหมด (ไม่นับพวกเปย์นะ) ก็จัดว่าเป็นความภาคภูมิใจและความท้าทายอีกรูปแบบหนึ่งที่ยากที่จะเข้าถึง
เล่นกับเพื่อนคลายเหงา แถมสนุกขึ้นอีกด้วย
เกม Grind จะไม่มีความหมายเลย ถ้าหากไม่มีเพื่อนร่วมผจญภัยพร้อมฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน
ก็จริงอยู่ว่าเกมเมอร์สามารถสวมบทบาทเป็นหมาป่าโดดเดี่ยว แต่ผู้เล่นจะสามารถทนเล่นแบบนั้นได้อีกนานแค่ไหน เพราะหนึ่งในจุดขายของเกมฟาร์ม คือระบบ Progression กับคอมมูนิตี้เป็นหลัก มากกว่าระบบเกมเพลย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ผู้เล่นอาจไม่ได้พบเหตุการณ์ Leeroy Jenkins กับไวรัส Corrupted Blood Incident จากเกม World of Warcraft หรือ CAPTAIN! LOOK! ใน Sea of Thieves ก็เป็นได้
เหตุการณ์เหล่านั้นอาจไม่ค่อยพบเห็นบ่อย แต่หากเล่นเกมประเภทฟาร์มไอเท็มกับเพื่อน ๆ หรือคนแปลกหน้า มันสามารถช่วยส่งเสริมให้เกมการเล่นมีความสนุกสนานและหลากรสชาติมากขึ้นอย่างประหลาด
คอมมูนิตี้มีความแข็งแรง
จัดว่าเป็นหัวใจหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับเกมประเภท Grind เพราะเหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น ส่วนใหญ่ตัวเกมออกแบบมาเพื่อให้เล่นระยะยาวเกิน 1 ปีหรือมากกว่า ฉะนั้นการรักษาฐานผู้เล่นให้มั่นคงจึงเป็นกระดูกสันหลังที่ช่วยค้ำจุนให้เกมอยู่รอดให้นานที่สุด
สมัยอดีตตั้งแต่ยุคเว็บบอร์ดเกม ไปจนถึงเวลาปัจจุบันที่เว็บไซต์ Reddit กลายเป็น Pantip ระดับสากล (แต่มีคุณภาพมากกว่า) และช่องแชต Discord ส่วนตัว พวกเหล่าทีมผู้พัฒนาเกมต้องคอยเสิร์ฟคอนเทนต์ใหม่หรือพูดคุยกับเกมเมอร์
รวมถึงปล่อยให้เกมเมอร์เปิดประเด็น, แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเกม, ให้คำเสนอแนะ, แบ่งปันไกด์, เชิญชวนหาเพื่อนเล่น ซึ่งช่วยให้เกมมีการ Active อยู่ตลอดเวลา
ปัจจุบัน ไม่ได้มีเพียงเกม MMORPG และ MMO Shooting ที่ต้องให้ความสำคัญกับคอมมูนิตี้เป็นพิเศษ แต่เกม Multiplayer ทุกประเภท หรือ Singleplayer บางเกม ก็จำเป็นต้องสร้างกลุ่มของตัวเอง เพื่อให้ผู้พัฒนาเกมสามารถติดต่อหรือผูกพันเข้าถึงเกมเมอร์แบบแนบชิดที่สุด
ถ้าหากเกมเมอร์อยากหาเพื่อนเล่นเกมร่วมกัน หรืออยากสร้างมิตรภาพให้อยู่กับเกมเน้น Grind ไปอีกนาน ให้ลองมาสอดส่องโลกโซเชียลอย่าง Reddit หรือ Discord ก็สามารถช่วยเพิ่มสีสันได้เยอะมากทีเดียว
สรุป
ความจริงแล้ว เกมเน้นฟาร์มไอเท็ม ไม่ได้มีเพชรโดดเด่นที่ผู้เล่นบางส่วนเข้าไม่ถึง แต่เป็นเรื่องของรสนิยมการเล่นเกม ซึ่งผู้เล่นบางส่วนสามารถสนุกสนานโดยไม่ซีเรียสกับคุณภาพของเกมเพลย์ นอกเหนือจากเล่นฆ่าไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีเป้าหมายชัดเจน นอกจากเราจะสร้างมันขึ้นมาเอง
ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีและรู้สึกน่าอิจฉาซะด้วยซ้ำ เพราะหากตัดความคิดที่ว่า “เกมดีต้องเอกลักษณ์” ออกไป มันช่วยให้มีตัวเลือกเกมที่อยากจะเล่นเยอะขึ้นแบบนับไม่ถ้วน
เพราะสุดท้ายแล้ว ตัวเกมจัดว่าเป็นสื่อชนิดหนึ่งที่สร้างขึ้นเพื่อมอบความบันเทิงแก่ผู้เล่นเป็นมาตรฐานดั้งเดิมอยู่แล้ว บางทีการตั้งมาตรฐานเกมที่สูงขึ้นทุก ๆ วัน มันอาจจะส่งผลให้มาถึงจุดหนึ่งที่เราไม่รู้สึกสนุกสนานกับการเล่นเกมอีกต่อไปก็เป็นได้ครับ