คำสั่ง Minecraft ที่เป็นประโยชน์ต่อการเล่น และควบคุมเซิร์ฟเวอร์

แม้ Minecraft เป็นเกมแนว Survival Sandbox ที่มอบความอิสรเสรีให้กับผู้เล่นมากมาย แต่ผู้เล่นสามารถปลดลิมิตให้เกมมอบความฟรีด้อมขึ้นไปอีกระดับหนึ่งด้วยการใช้ Command หรือ คำสั่ง Minecraft ที่มีให้เลือกใช้งานมากมาย แล้วจะมีอะไรบ้างก็สามารถรับชมได้เลย

วิธีการเรียกใช้ Command

• สร้าง Create New World แล้วกด More World Option…
• เลือก Allow Cheats ให้เป็น “ON” (ถ้าหากลืมเปิด Cheats ก็สามารถเปิดใช้ระหว่างในเกมได้ ด้วยการไปหน้า settings > Open To LAN > กด Allow Cheats เป็น ON จากนั้นกด Start LAN World ก็เสร็จสิ้น)
• หลังจากตั้งค่าห้องเสร็จแล้ว เข้าห้องเกมให้ลองกด “/” ในช่องแชต ถ้าหากใช้ได้ผลก็จะมีคำสั่ง Command ให้เกมเมอร์พิมพ์กัน เท่านี้ก็เสร็จสิ้นสามารถใช้ คำสั่ง Minecraft ทันที

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Command

การพิมพ์คำสั่งเกม Minecraft ไม่เหมือนกับการพิมพ์สูตรโกงเกมที่เขียนครั้งเดียวจบ เพราะหลังพิมพ์ Command เบื้องต้นเสร็จแล้ว ตัวเกมจะเด้งคำสั่งเพิ่มเติมที่มีการแตกแขนงออกไปอีก ซึ่งแน่นอนว่าเกมเมอร์ต้องใช้เวลาสักพัก เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการพิมพ์ Command

การใช้ Argument

หลายคำสั่งของสูตรเกม Minecraft จะมี “Argument” ให้พิมพ์เพิ่มเติม เพื่อให้เกม Minecraft ทำตามคำสั่งของผู้เล่นได้ถูกต้อง เช่น หากต้องการเปลี่ยนโหมดเกมให้ผู้เล่นนามว่า xxx ก็สามารถพิมพ์ /gamemode แล้วต่อด้วย Argument อย่าง “creative” จากนั้นตามด้วยชื่อผู้เล่น “xxx” กลายเป็น “/gamemode creative xxx” แล้วกด Enter เพียงเท่านี้ ผู้เล่น xxx จะเข้าสู่โหมดเกม Creative ทันที

คำสั่ง Argument ต่าง ๆ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากการพิมพ์คำสั่งเดี่ยว โดยไม่ใส่ Argument ยกตัวอย่างให้พิมพ์แค่ “/gamemode” “/time” “/locate” เท่านั้น หรือสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์รวม คำสั่ง Minecraft แบบเจาะลึก

การใช้  Target

บาง Command ผู้เล่นสามารถพิมพ์ Target เพื่อส่งคำสั่งให้ส่งผลไปยังผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง โดยคำสั่ง Target มีดังนี้

• @p (ส่งคำสั่งไปยังผู้เล่นที่อยู่ใกล้ที่สุด)
• @r (ส่งคำสั่งไปยังผู้เล่นแบบสุ่ม)
• @a (ส่งคำสั่งไปยังผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์)
• @e (ส่งคำสั่งไปยัง NPC ประเภท Entity ที่ยังมีชีวิต)
• @s (ส่งคำสั่งไปยัง Entity ที่เป็นคนออกคำสั่ง)

ยกตัวอย่างการใช้ Target เช่น หากต้องการฆ่าทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ ให้พิมพ์ว่า /kill แล้วต่อด้วย @a กลายเป็น “/kill @a” จากนั้นกด Enter เพียงเท่านี้ ทุกคนในเซิร์ฟเวอร์ก็จะตายโดยทันที

คำสั่งไหนที่สามารถใช้ Target ได้ก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่านการพิมพ์คำสั่งเดี่ยว หรือสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์รวม คำสั่ง Minecraft แบบเจาะลึก

คำสั่งที่เป็นประโยชน์

คำสั่งที่ระบุด้านล่าง คำสั่ง Minecraft ยอดนิยมของชาวเกมเมอร์ที่ใช้บ่อย เหมาะสำหรับทั้งผู้เล่นทั่วไป รวมถึงผู้คุมเซิร์ฟเวอร์

• /help = เผยรายชื่อคำสั่งทั้งหมด หรือช่วยบอกวิธีการใช้คำสั่งเบื้องต้น
• /gamemode creative [ชื่อคนเล่น] = เปลี่ยนโหมดเกม creative ของผู้เล่นที่ระบุชื่อไว้
• /gamemode creative @a = เปลี่ยนโหมดเกม creative ของผู้เล่นทุกคนในเซิร์ฟเวอร์
• /tp @a <ชื่อคนเล่น> = วาร์ปผู้เล่นทุกคนไปหาผู้เล่นที่ระบุไว้ในคำสั่ง
• /weather <สภาพอากาศ> [ระยะเวลา] = เปลี่ยนสภาพอากาศในเกม โดยสภาพอากาศสามารถใส่ได้ เช่น  “Rain” (ฝนตก)  “Clear” (ท้องฟ้าแจ่มใส) “Thunder” (ฝนตกฟ้าผ่า)
• /time set day = เปลี่ยนเวลาในเกมเป็นกลางวัน
• /time set night = เปลี่ยนเวลาในเกมเป็นกลางคืน
• /time add <จำนวนตัวเลข> = ข้ามเวลาตามจำนวนตัวเลขที่ระบุไว้
• /give <ชื่อคนเล่น> <ชื่อไอเทม> <จำนวนไอเทม> = มอบไอเทมให้ผู้เล่น
• /give <ชื่อผู้เล่น> minecraft:command_block = เรียกใช้ Command Box
  
• /locate <ชื่อประเภทงานก่อสร้าง> = ระบุสิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้ผู้เล่นมากที่สุด
• /enchant <ชื่อคนเล่น> <ID enchantment> <จำนวนเลเวล> = ปรับเลเวลของไอเทมที่ผู้เล่นกำลังถืออยู่
• /xp <ชื่อคนเล่น> = ตรวจสอบ XP ของผู้เล่น
• /xp add <ชื่อคนเล่น> <จำนวนเลข>  <points หรือ levels> = เพิ่ม XP หรือเลเวลตัวละคร

คำสั่งนสูง เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมเซิร์ฟเวอร์

คำสั่ง Minecraft ขั้นสูง เป็น Command ที่ นาน ๆ ทีจะหยิบยกมาใช้งาน แต่เป็นคำสั่งที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ควบคุมเซิร์ฟเวอร์ โดยมีตัวอย่างคำสั่งตั้งแต่การแบนผู้เล่น, การดัดแปลงเกมเพลย์, การเผยรายชื่อผู้เล่น และอื่น ๆ อีกมากมายที่ครอบคลุมทุกการใช้งานของเหล่าแอดมิน

1. <x> <y> <z> หมายถึงตำแหน่งของแผนที่
2. เกมเมอร์สามารถเรียนรู้รหัสไอเทม รหัสการปรับความยาก หรือรหัสอื่น ๆ ได้จากการค้นหาผ่านเว็บไซต์ Wikia

• /ban <ชื่อคนเล่น> <ระบุเหตุผลการแบน> = เพิ่มชื่อผู้เล่นในแบนลิสต์
• /ban-ip <ชื่อคนเล่น หรือ IP> <ระบุเหตุผลการแบน> = แบน IP ผู้เล่นที่ระบุชื่อไว้
• /banlist <ชื่อคนเล่น หรือ IP> = เผยรายชื่อผู้เล่นที่โดนแบน
• /bossbar = สร้างหรือดัดแปลง Bossbar (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
• /clear <target> <ชื่อไอเทม> <จำนวนเลข> = ลบไอเทมออกจากกระเป๋า Inventory
• /clone <x1> <y1> <z1> <x2> <y2> <z2> <x> <y> <z> [maskMode] [cloneMode] [TileName] [dataValue|state] = ก๊อปปี้ไอเทมบล็อก แล้ววางบล็อกที่ต้องการ
• /data = ได้รับ, รวบรวม, ดัดแปลง, ลบบล็อก ออกจากข้อมูล NBT (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
• /datapack = ควบคุม Datapack (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้เว็บไซต์ทางการ)
• /debug <start หรือ stopหรือ report> = เริ่มหรือหยุด Debug Session
• /defaultgamemode <โหมดเกม> = ตั้งค่าให้โหมดเกมเป็นโหมดเริ่มต้น
• /deop <ชื่อคนเล่น> = ถอนสถานะ Operator จากผู้เล่น
• /difficulty <Peaceful, Easy, Normal หรือ Hard> = ปรับระดับความยากของเกม
• /effect give <entity> <effect> [<seconds>] [<amplifier>] [<hideParticles>]= มอบสถานะให้เพลเยอร์
• /effect clear <entity> [<effect>] = ถอนสถานะให้เพลเยอร์
• /execute = ดำเนินการคำสั่งอื่น (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
  
• /kick <ชื่อคนเล่น> <ระบุเหตุผลการเตะ> = เตะผู้เล่นออกจากเซิร์ฟเวอร์
• /kill [<targets>] = สังหารผู้เล่น
• /list [uuids] = เผยรายชื่อเพลเยอร์ทั้งหมดในเซิร์ฟเวอร์
• /loot <target> <source> = นำไอเทมที่อยู่ใน Inventory วางบนพื้น
• /me = เผยข้อความที่ได้รับจากผู้เล่น
• /msg หรือ /tell หรือ /w = เผยข้อความส่วนตัวที่ส่งไปให้ผู้เล่น
• /op <ชื่อคนเล่น> = มอบสถานะ Operator ให้ผู้เล่น
• /pardon <ชื่อคนเล่น> = ลบชื่อผู้เล่นออกจากแบนลิสต์
• /pardon-ip <รหัส ip> = ลบ IP ที่อยู่ในแบนลิสต์
• /playsound <sound> <source> <player> [x] [y] [z] [volume] [pitch] [minimumVolume] = เปิดเสียงเอฟเฟกต์ในเกม
• /recipe <give หรือ take> [player] <name|*> = มอบสูตรลับให้เพลเยอร์คนอื่น
• /reload = โหลดตาราง ความก้าวหน้า และฟังก์ชันจาก Disk อีกครั้ง
  
• /replaceitem block <x> <y> <z> <slot> <item> [amount] = ทดแทนไอเทมบล็อกใน Inventory

• /save-all = บันทึกข้อมูลทั้งหมดลง Disk
• /save-off = ปิดระบบการเซฟอัตโนมัติ
• /save-on = เปิดระบบการเซฟอัตโนมัติ
• /say <เขียนข้อความ> = ประกาศข้อความทั่วเซิร์ฟเวอร์
  
• /schedule clear = จัดการ Scoreboard
• /seed = เผยจำนวน Seed ที่อยู่ในโลกเกม
• /setblock = เปลี่ยนประเภทของบล็อกให้กลายเป็นบล็อกอีกประเภทหนึ่ง (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
• /setidletimeout <ระบุจำนวนเวลาก่อน Kick> = ตั้งค่าเวลาเตะผู้เล่น เมื่อ AFK หรือ Idle เป็นเวลานาน
• /setworldspawn [<x> <y> <z>] = ตั้งจุด Spawn
• /spawnpoint <ชื่อผู้เล่น> [<x> <y> <z>] = ตั้งจุด Spawn ของผู้เล่นแต่ละคน
• /spectate [target] <ชื่อผู้เล่น> = ตั้งค่าให้ผู้เล่นเข้าสู่โหมด spectate (โหมดสอดส่อง)
• /spreadplayers = วาร์ปผู้เล่นไปสถานที่แบบสุ่ม
• /stop = หยุดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์
• /stopsound <player> [<source>] [<sound>] = หยุดการทำงานของเสียงเอฟเฟกต์
• /summon <entity_name> [<pos>] [<nbt>] = เรียก Entity
• /tag <targets> add <name> = เพิ่ม Tag ให้ Entity
• /tag <targets> list = เผย Tag ทั้งหมด
• /team = เผยคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับทีม (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
• /teammsg หรือ /tm <ข้อความ> = ส่งข้อความไปถึงทุกทีม
  
• /tellraw <ชื่อคนเล่น> <raw json message> = เผยข้อความ JSON ไปถึงผู้เล่น
• /title = จัดการชื่อไตเติล (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)
• /trigger <objective> <add หรือ set> <ตัวเลข> = ตั้งค่า Trigger ที่จะเปิดใช้งาน
• /whitelist add <player> = เพิ่มรายชื่อผู้เล่นใน Whitelist
• /whitelist remove <player> = ลบชื่อผู้เล่นออกจาก Whitelist
• /whitelist [on, off, list, reload] = จัดการ Whitelist ของตัวเอง
• /worldborder = ตั้งค่าขีดจำกัดของขอบโลก (สามารถเรียนรู้คำสั่งเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ)

ก็หวังว่า คำสั่ง Minecraft ทั้งหมดที่ระบุไป จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เล่นเกม Minecraft ทุกคนไม่มากก็น้อย หรือหากพลาดคำสั่งตกหล่นอะไร ก็สามารถตอบแสดงความเห็นได้ตลอดเวลา

แหล่งที่มา: Rock Paper Shotgun, Minecraft Command Wikia