Devil May Cry 5 ถือเป็นเกมแอคชั่นสไตล์ Old School ที่เต็มไปด้วยศัตรูหลากหลายชนิดและโผล่มาทีละมาก ๆ และการรับมือพวกมันก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งบางคนอาจจะมีปัญหาในการจัดการพวกมัน วันนี้เราจะมีดูกันว่าวิธีการรับมือกับศัตรูต่าง ๆ ที่อยู่ในฉากของเกมนั้นต้องจัดการอย่างไรบ้าง
อนึ่ง สำหรับศัตรูประเภทบอสนั้นจะมีวิธีการรับมือที่พิเศษมากกว่า จึงขอยกยอดไปพูดถึงในภายหลัง ศัตรูทั้งหมดในบทความนี้คือจำพวกศัตรูปกติและ Mini Boss เท่านั้นครับ
ส่วนระดับความน่ากลัวของแต่ละตัวเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง ดังนั้นอาจมีความแตกต่างจากความเห็นของผู้เล่นอื่น ๆ บ้าง ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถร่วมพูดคุยเกี่ยวกับศัตรูตัวนั้นได้อย่างเต็มที่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
Empusa
ระดับความน่ากลัว: 1/10
ศัตรูปกติของเกมนี้ เปรียบเสมือนทหารเลวที่คอยดูดเลือดของมนุษย์เพื่อนำไปเลี้ยงต้น Qliphoth พวกมันไม่ค่อยน่ากลัวนักแม้จะมาเป็นจำนวนมากก็ตาม โดยจะโจมตีเฉพาะในระยะประชิดเท่านั้น ถือว่าไม่มีอะไรน่ากลัวและรับมือได้ง่าย ๆ แต่ก็ต้องระวังเวลาที่พวกมันมาพร้อมกับศัตรูตัวอื่น ๆ ทีละมาก ๆ ด้วยเช่นกัน
Green Empusa
ระดับความน่ากลัว: 1/10
แม้มันจะไม่โจมตีผู้เล่น แต่ Green Empusa จะเข้ามาสละชีพเพื่อฟื้นพลังให้กับปีศาจตัวอื่น ๆ ในฉาก ซึ่งสร้างความลำบากให้เราอย่างมากในเวลาที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่ แล้วศัตรูสุดแกร่งตัวที่เรากำลังจะจัดการมันได้แล้วเกิดฟื้นตัวขึ้นมา ถ้าหากเห็นมันก็ให้รีบจัดการมันเสียก่อน เมื่อจัดการได้แล้วมันจะดรอป Green Orb ให้เราได้ฟื้นพลังด้วย
Red Empusa
ระดับความน่ากลัว: 1/10 และ 3/10 สำหรับความยากระดับ Son of Sparda ขึ้นไป
เป็น Empusa ที่ตัวใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย พวกมันจะพก Red Orb เอาไว้และจะหาทางหนีทุกครั้งเวลาที่ผู้เล่นพยายามโจมตีมัน ซึ่งถ้าหากปราบมันได้เราก็จะได้รับ Red Orb เป็นจำนวนมาก แต่ในระดับความยากสูง ๆ มันจะโจมตีเรากลับด้วย จึงต้องระวังให้ดี
พยายามใช้ท่าคอมโบที่มีความแรงหรือผลักให้กระเด็น เพื่อป้องกันพวกมันหนี แขน Devil Bringer ของ Nero จะสามารถยึดเกาะตัวมันแล้วให้เราพุ่งตัวเข้าไปหาได้เพื่อต่อคอมโบกลางอากาศ ส่วนตัวละครอื่น ๆ ก็ใช้อาวุธหรือท่าโจมตีแรง ๆ เพื่อหยุดมันไว้จะดีที่สุด
Empusa Queen
ระดับความน่ากลัว: 6/10 และ 7/10 ในระดับความยาก Son of Sparda ขึ้นไป
Empusa ในแบบนางพญา ที่เพิ่มทั้งขนาด ความอึด และความแรงในการโจมตี ในระดับความยาก Devil Hunter ลงไปจะปรากฏตัวออกมาครั้งแรกใน Mission 5 แต่ถ้าเป็นระดับความยากที่สูงขึ้นจะโผล่มาตั้งแต่ Prologue เลย นอกจากจะมีท่าโจมตีที่แรงพอตัวแล้ว มันยังสามารถเรียก Red Empusa ออกมาช่วยสู้ได้ด้วย และยังสามารถแปลงร่างเพิ่มความเร็วและพลังในการโจมตี ทำให้รับมือได้ยากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นตัวของมันเปล่งแสงสีแดงออกมาให้รีบหลบไปก่อนแล้วโจมตีมันจากระยะห่างจะดีกว่า
Empusa Queen จะไม่สามารถถูกจับด้วยท่าอะไรก็ตามได้ ดังนั้นให้พยายามกระโดดโจมตีด้านหลังหัวของมันจนทรุด แล้วเผด็จศึกมันให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะเรียกลูกสมุนออกมา ถ้าหากถูกจับได้ให้ใช้ Devil Trigger หรือระเบิด Devil Breaker ทิ้งจะหลุดออกมาได้
Hell Caina
ระดับความน่ากลัว: 2/10
ศัตรูระดับล่างอีกหนึ่งตัวที่มีอาวุธเป็นเคียวขนาดยักษ์ แม้จะดูเหมือนไร้พิษสงเพราะถูกอัดได้ง่าย ๆ แต่มันก็มีท่าโจมตีที่ไม่สามารถอัดให้ชะงักได้ ซึ่งถ้าหากเห็นว่ามันง้างเคียวรอเอาไว้ให้รีบอัดมันให้ตายให้เร็วที่สุดหรือกระโดดหลบไปจะดีกว่า นอกจากนั้นไม่มีอะไรเป็นพิเศษนัก
Hell Antenora
ระดับความน่ากลัว: 7/10
หนึ่งในศัตรูที่น่ารำคาญที่สุดในช่วงแรกของเกม เมื่อถูกจับได้ด้วยท่า Devil Bringer ครั้งหนึ่งมันก็จะแปลงร่างและมีพลังสีม่วงห่อหุ้มตัวมันทำให้ไม่สามารถจับได้อีกครั้งทันที รวมไปถึงท่าโจมตีของมันที่ค่อนข้างกินระยะพอสมควรในระยะใกล้ถึงกลาง ซึ่งไม่สามารถหยุดได้ด้วยการโจมตีธรรมดา
ให้พยายามจัดการพร้อมกันทีละหลาย ๆ ตัว เพราะบางครั้งเราอาจถูกมันโจมตีจากมุมอับที่มองไม่เห็นได้ และการใช้ Buster Arm หรือ Devil Bringer ในการเผด็จศึกก็ต้องแน่ใจว่ามันใกล้ตายแล้วจริง ๆ เท่านั้น หรือถ้าจะใช้ท่า Devil Bringer หรือ Buster Arm เพื่อจัดการอีกครั้ง ก็จำเป็นต้องอัดมันให้พลังสีม่วงที่ห่อหุ่มตัวอยู่หายไปเสียก่อน เป็นศัตรูอีกหนึ่งตัวที่ควรจัดการก่อนตั้งแต่เนิ่น ๆ
Hell Judecca
ระดับความน่ากลัว: 8/10
อีกหนึ่งศัตรูที่น่ารำคาญที่สุดไปจนถึงช่วงปลายเกม เพราะนอกจากมันจะสามารถวาร์ปไปมาได้แล้ว ท่าโจมตีของมันยังไกลและหลบยากมากแม้จะออกท่าไม่เร็วก็ตาม ในระดับความยากสูง ๆ Judecca ถือว่าน่ารำคาญยิ่ง เพราะมันจะโจมตีเข้ามาในระหว่างที่เรากำลังจัดการกับศัตรูตัวอื่น ๆ อยู่ ยิ่งในระดับความยากสูง ๆ ที่เราโดนโจมตีแรงมากจะยิ่งย่ำแย่เข้าไปอีก ให้หาทางหลบออกมาจากจุดที่มันอยู่ให้ไกลที่สุดก่อน แล้วจัดการกับศัตรูตัวอื่น ๆ ให้เรียบร้อยก่อนเข้าไปลุยกับมัน
สิ่งที่สามารถต่อกรกับมันได้ดีที่สุดคือการตามติดตัวมัน ท่าอย่าง Streak หรือ Stinger จะช่วยให้งานของเราง่ายขึ้น และถ้าหากมีเกจ Devil Trigger ก็ใช้กับมันได้เลยอย่าเสียดาย
Pyrobat
ระดับความน่ากลัว: 3/10
ค้างคาวเพลิงที่มีการโจมตีเฉพาะระยะไกลเท่านั้น จัดเป็นศัตรูที่ควรจัดการแต่แรกเพราะมันอาจโจมตีใส่เราได้ทุกเมื่อ สำหรับ Nero ดึงมันมาจัดการบนพื้น หรือถ้าเป็น Dante ก็กระโดดขึ้นไปฟันมันด้านบนด้วย Style Trickster ก็ได้ไม่มีปัญหา ส่วน V ก็สามารถใช้ Griffon ยิงมันหรือใช้ท่าพุ่งชนก็ได้เช่นกัน เป็นศัตรูที่ไม่มีอะไรน่าห่วง เพียงแต่ต้องรีบจัดการมันก่อนเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในภายหลัง
Hellbat
ระดับความน่ากลัว: 4/10
เวอร์ชั่นอัพเกรดของ Pyrobat นอกจากความอึดที่มีมากขึ้นแล้ว ยังน่ารำคาญมากขึ้นกว่าเดิมอีก ทั้งท่าโจมตีแบบปกติของ Pyrobat ที่มาครบถ้วน ยังมีท่าระเบิดตัวเองตอนตายที่แรงมาก ๆ อีกด้วย ถ้าหากเห็นมันกำลังพองตัวออกมา ให้รีบหนีออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ส่วนวิธีการปราบที่เหลือนั้นเหมือนกับ Pyrobat แทบทั้งสิ้น
Death Scissor
ระดับความน่ากลัว: 5/10
ปีศาจกรรไกรยักษ์ที่ดูเหมือนปราบยากแต่จริง ๆ แล้วไม่ยากอย่างที่คิด การโจมตีของเราจะไม่เป็นผลถ้าหากไม่จัดการกับกรรไกรของมันก่อน ดังนั้นท่าโจมตีหรืออาวุธที่พังกรรไกรของมันได้เร็วจึงจำเป็นมาก สำหรับ Dante ให้ใช้หมัดไฟ Balrog ในการจัดการกับกรรไกรของมัน Nero แนะนำเป็น Punch Line หรือ Helter Skelter แขนสว่านจะจัดการกับกรรไกรของมันได้ไวขึ้น ส่วน V ให้ใช้ Shadow หรือ Nightmare เข้าไปโจมตีต่อเนื่องก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ทริคหนึ่งที่ควรใช้และเป็นทริคที่ใช้ผ่านใน Secret Mission ที่ 7 ก็คือการยิงเข้าไปที่หน้ากากของมันด้วยปืนนัดเดียว หลังจากที่เราพังกรรไกรของมันได้ ให้เล็งเป้า(กด R1) จนกว่าเป้าจะขึ้นสีแดง แล้วยิงเก็บมันได้เลยภายในนัดเดียว
Riot
ระดับความน่ากลัว: 3/10
ศัตรูระดับปกติอีกหนึ่งตัวที่มีความเร็วมากกว่าพวก Hell Caina และถึงแม้มันจะมาทีละมาก ๆ แต่ก็สามารถแยกมาจัดการพวกมันทีละตัวได้ไม่ยาก พยายามล้มพวกมันให้ได้ก่อน ซึ่งมันจะใช้เวลาในการลุกค่อนข้างนาน เปิดโอกาสให้เราไปซ้ำท่าคอมโบได้ตามต้องการได้อย่างยาวนานมาก ๆ ซึ่งถ้าเห็นมันโจมตีก็ใช้ท่าโจมตีที่มีความรุนแรง หรือท่ากระแทกกลับอย่างเช่นแขน Gerbera ของ Nero หรือมอเตอร์ไซด์ Cavaliere ของ Dante เป็นต้น ถือเป็นศัตรูอีกหนึ่งตัวที่จัดการได้ไม่ยากนัก
Chaos
ระดับความน่ากลัว: 6/10 และ 8/10 เมื่อมาเป็นกลุ่มใหญ่
ร่างอัพเกรดขึ้นมาอีกระดับของ Riot ความน่ารำคาญอยู่ตรงที่พวกมันสามารถปั่นตัวเป็นกงจักรพุ่งเข้ามาโจมตีเราได้ด้วยความเร็วสูง และหลายครั้งก็มักจะมาจากมุมอับที่เรามองไม่เห็นเสียด้วย ดังนั้นถ้าเห็นพวกมันให้พยายามใช้คอมโบกลางอากาศหรือท่างัดลอยก่อน เพราะพวกมันไร้พิษสงเวลาที่อยู่กลางอากาศ และทำให้ชีวิตเราสบายขึ้นมาก
อีกข้อหนึ่งที่สำคัญคือกระดองหนามของพวกมันนั้นแตกได้ถ้าหากใช้การโจมตีที่แรงมากพอ และเมื่อกระดองแตกพวกมันล้มลงไปนานมาก ๆ เปิดโอกาสให้เราจัดการได้อย่างสบาย
Fury
ระดับความน่ากลัว: 9/10
ร่างขั้นสุดยอดของเหล่า Riot ที่มีความเร็วและพลังโจมตีมากขึ้น และยังสามารถวาร์ปไปมาอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย จนทำให้มันกลายเป็นศัตรูที่ต่อกรด้วยยากมาก แต่ก็มีหลายวิธีที่จะจัดการมันได้เช่นกัน โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือรอดูจังหวะที่มันจะโจมตีเข้ามา ถ้าเห็นว่ามันหายตัวไปแล้วให้กระโดดหนีได้เลย ซึ่งในจังหวะหนึ่งที่มันโจมตีพลาด มันจะค้างอยู่ท่าเดิมนานมาก เปิดโอกาสให้เราเข้าไปซัดมันได้อย่างง่ายดาย แต่ในบางครั้งมันจะไม่หยุดนิ่งเสียทีเดียว อาจจะมีการพุ่งเข้ามาอีกประมาณสองถึงสามครั้ง จึงต้องดูให้ดี ๆ ด้วย
ส่วนอีกวิธีสำหรับ Dante ก็คือให้ใช้อาวุธ King Cerberus ท่า Ice Age (กดหน้า,หลัง ปุ่มสามเหลี่ยม) ที่จะเป็นท่าสร้างบาเรียน้ำแข็งขึ้นมาล้อมรอบตัว จะช่วยป้องกันการโจมตีของเจ้า Fury ได้ชะงัดนัก และแน่นอนว่าท่าพุ่งโจมตีอย่าง Streak หรือ Stinger ก็ยังเป็นท่าที่ใช้ได้ผลดีเหมือนเดิมสำหรับพวกมัน เป็นศัตรูที่ต้องอาศัยการฝึกฝนพอตัวจึงจะสามารถต่อกรกับมันได้อย่างสบายครับ
Scudo Angelo
ระดับความน่ากลัว: 4/10
นักรบปีศาจระดับล่างที่เหมือนนำ Nelo Angelo มาสร้างใหม่ มีอาวุธเป็นดาบและโล่ที่ป้องกันการโจมตีแบบปกติได้เกือบทุกชนิด แต่สามารถพังทิ้งได้ ซึ่งวิธีการสู้ก็ไม่ยาก แค่อ้อมไปด้านหลังพวกมันแล้วงัดให้ลอย แล้วต่อคอมโบได้ตามใจชอบได้เลย หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือโจมตีด้วยท่าหนัก ๆ ต่อเนื่องจนโล่พัง คราวนี้ก็สามารถจัดการมันได้อย่างไร้กังวลแล้ว
อีกข้อหนึ่งที่สำคัญมากคือถ้าหากพวกมันมาพร้อมกับตัวหัวหน้าอย่าง Proto Angelo ให้จัดการกับพวกมันก่อน เพื่อที่จะได้ไม่มีอะไรมารบกวนเวลาที่เราจัดการกับตัวหัวหน้าของมันครับ
Proto Angelo
ระดับความน่ากลัว: 7/10
อีกหนึ่งศัตรูระดับ Mini Boss ที่มีความอึดมากกว่าพวกลูกสมุนอย่าง Scudo Angelo ท่าโจมตีของมันกินพื้นที่ค่อนข้างกว้างและหลบได้ยากถ้าไม่ระวัง รวมไปถึงท่าชาร์จโจมตีที่แรงเอามาก ๆ แนะนำว่าในช่วงที่มันกำลังชาร์จท่าโจมตี ให้กระโดดเข้าไปทำคอมโบกลางอากาศได้เลย ซึ่งถ้าหากท่าโจมตีแรงพอ ก็สามารถทำให้มันชะงักได้เหมือนกัน และจุดที่เหมาะสมในการโจมตีที่สุดก็คือด้านหลังเหมือนกับพวกลูกน้องของมัน
Baphomet
ระดับความน่ากลัว: 6/10
แพะปีศาจที่เปรียบเสมือนจอมเวทย์ในเกม RPG ใช้การปล่อยก้อนน้ำแข็งและกริชน้ำแข็งที่ตามติดตัวเราไป วิธีที่ดีที่สุดก็คือใช้ท่าเคลื่อนที่เร็ว ๆ อย่างเช่น Trickster หรือท่าแขนจับ Devil Bringer ดึงมันเข้ามาในระยะประชิดจะจัดการมันได้อย่างสบาย เป็นอีกหนึ่งศัตรูที่ถ้าเห็นแล้วต้องจัดการก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ
Lusachia
ระดับความน่ากลัว: 7/10
เวอร์ชั่นอัพเกรดของ Baphomet ที่มีความร้ายกาจมากกว่าเดิม ซึ่งนอกจากท่าโจมตีระยะไกลต่าง ๆ แล้ว มันยังสามารถเบ่งพลังมาล้อมรอบตัวเราได้ ซึ่งมีความรุนแรงมาก แต่วิธีการปราบนั้นไม่ต่างกับ Baphomet เท่าไหร่นัก เพียงแค่พุ่งเข้าไปในระยะใกล้ให้เร็วที่สุดแล้วจัดการมัน ก่อนที่ออร่าที่ห่อหุ้มตัวเราจะระเบิดออกมา หรือจะใช้ Devil Trigger ช่วย ก็จะปราบมันได้เร็วขึ้น
Behemoth
ระดับความน่ากลัว: 5/10 และ 7/10 เมื่อเกราะหุ้มตัวแตก
สัตว์ประหลาดร่างยักษ์ที่ใช้การพุ่งชนโจมตีเรา ในตอนแรกที่มันถูกหุ้มด้วยเกราะเหล็กนั้นยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ถ้าหากโจมตีไประยะหนึ่งจนเกราะแตกออก ความน่ากลัวที่แท้จริงจะเริ่มต้นขึ้น เพราะมันมีท่าโจมตีแบบต่อเนื่องที่จะทำให้เราเสียพลังชีวิตได้มากในคราวเดียว รวมไปถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นถ้าหากอัดมันจนเหล็กแตกออกแล้ว ให้รีบจัดการมันให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะมีโอกาสโจมตีเราได้ในภายหลัง
Nobody
ระดับความน่ากลัว: 8/10
ศัตรูตัวสุดท้ายที่รวมความน่ารำคาญเกือบทุกอย่างมาอยู่ในตัวมัน ทั้งท่าตีระยะประชิดที่มองได้ยาก ความอึดที่สูงมาก และยังปล่อยลูกตาออกมาเป็นกับระเบิดมาวางดักผู้เล่นที่ไม่ระวังตัวได้ ทางที่ดีที่สุดคือเก็บมันเอาไว้จัดการภายหลังจะดีที่สุดเนื่องจากพลังชีวิตที่สูงของมัน และคอยระวังลูกตาที่มันปล่อยออกมาด้วย