BY Settasilp Poonbumphen
21 Oct 13 3:33 pm

ทำไมงานเกมกล่องไทยถึงเป็นได้แค่ฝัน ?

3 Views

เราทุกคนต่างรู้ดีว่างานเกมแบบไหนที่เราต้องการ แต่ทำไมเราควรเลิกหวังและทำไมมันถึงเป็นได้แค่ความฝัน ?

อย่างที่เราเข้าใจกันว่างานเกมไทยไม่ว่าจะโฆษณาตูมตามขนาดไหนสุดท้ายแล้วก็เป็นเกมออนไลน์ไปซะ 70% ขายของ 25% แล้วเกมกล่องเพียงแค่ 5% ( หรือน้อยกว่านั้น ) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นตรงไปในทิศทางเดียวกัน

แน่นอนครับ เกมเมอร์ไทยใจว้าวุ่นต่างก็ตั้งคำถามมาตลอดว่าเมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมีงานเกมระดับ E3 ที่จะเปิดตัวเกมใหม่ระดับโลก หรืองาน Showcase ที่นำเดโมเกมใหม่มาให้ทดลองก่อนใคร

ถ้าจะให้พูดกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อมและไม่รักษาน้ำใจกันเลยผมก็คงต้องกระซิบบอกว่า “เลิกฝันเถอะครับ” ส่วนเหตุผลจะมีอะไรกันบ้างเราคงต้องมาคิดร่วมกันครับ

TGSBigFest13

TGSBigFest13

เพราะเกมกล่องกำไรมันน้อย (?)

หลายคนอาจจะไม่เคยตระหนักถึงเหตุผลข้อนี้มาก่อนเลยว่ากำไรเกมกล่องต่อหนึ่ง title นั้นมันไม่ได้มากอย่างที่เป็นในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปทั้งในด้านยอดขายและกำไร ( margin ) ที่ผู้จัดจำหน่ายจะได้รับ กำไรเกมหนึ่งเกมอยู่ที่ประมาณ 200 – 600 บาทต่อหนึ่งกล่องและเมื่อตลาดในบ้านเราไม่ได้มีความต้องการที่จะเล่นและจะซื้อมากขนาดนั้นทำให้กำไรต่อเกมอาจไม่ได้สูงมากนัก เมื่อเทียบกับกำไรที่เกิดจากเกมออนไลน์ที่ผู้เล่นแต่ละคนประสงค์ที่จะเติมเงินตั้งแต่เดือนละ 0 – 10,000 บาท

เอาง่ายๆเรามาลองสมมุติว่าหากเกมออนไลน์เกมหนึ่งมีผู้เล่นทั้งหมด 20,000 คน ทุกคนเติมเงินเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาทจะเท่ากับว่าผู้ให้บริการเกมออนไลน์เกมนั้นจะได้รับเงินไปถึง 20 ล้านบาท !

แต่หากเป็นเกมออฟไลน์เกมหนึ่งระดับ Big title มีผู้เล่นในไทยทั้งหมด 1,000 คน ทุกคนซื้อเกมเฉลี่ยกำไรกล่องละ 500 บาทจะเท่ากับว่าผู้จัดจำหน่ายเกมออฟไลน์จะได้รับเงินทั้งหมด 5 แสนบาท ผมตีค่าประมาณเลยว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ขายดีและมี Big title ออกซ้ำกัน 4 เกมต่อเดือนก็จะได้เงินเพียงแค่ 2 ล้านบาทเท่านั้นเอง

เมื่อกำไรต่างกัน งบในการจัดการและการตลาดก็ต่างกัน  ยิ่งเรามาถึงยุคสมัยแห่งการซื้อเกมถูก เราไม่เพียงแต่มี New Era  แต่เรายังมีร้านขายเกมออนไลน์ที่รับเกมจากต่างประเทศหรือแม้กระทั่งของต่างประเทศที่ต่างก็มี Super Deal ลดกระหน่ำระห่ำลากเลือดอย่าง Steam ( ที่บางครั้งราคาเทียบเท่ากับกล่องไทย ) , GreenmanGaming และอีกสารพัด   ในขณะที่ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกมออนไลน์แล้วคุณก็จะถือครองสิทธิ์ในการดูแลและให้บริการจัดจำหน่ายเกมนั้นแต่เพียงผู้เดียว ( เกมกล่องผู้ซื้อมีสิทธิเลือกร้านที่มีมากมายทำให้กำไรแพร่กระจายออกไปต่างกับเกมออนไลน์ที่ยังไงซะเงินก็ต้องพุ่งหาผู้ให้บริการ )

*ตัวเลขทั้งหมดเป็นตัวเลขสมมุติประมาณการ

E3

E3

หรือเพราะคนเล่นมันน้อย ( ? )

หากจะแบ่งกลุ่มเกมเมอร์ PC ในไทยออกเป็นสองกลุ่ม 1. เกมกล่อง 2. เกมออนไลน์  กลุ่มเกมกล่องก็คงจะเป็น Niche Market ที่มีจำนวนน้อย เป็นผู้ที่มีรสนิยมในการคัดสรรเลือกสื่อที่เหมาะสมกับตัวเองโดยไม่สนกระแสสังคมหลัก แน่นอนว่าการเป็นกลุ่มตลาดทางเลือกนั่นหมายถึงจำนวนที่น้อยกว่าหากเทียบเป็นพิซซ่า ตลาดกลุ่มนี้อาจเป็นเพียงพิซซ่าชิ้นเล็กเสี้ยวเดียวในถาดก็เป็นได้

ในขณะที่ CCU ( Con Current User ) ของคนเล่นเกมออนไลน์รายใหญ่อยู่ที่หลักหมื่นคนนั่นหมายถึงว่าเกมนั้นมันใหญ่ขนาดที่ว่ามีคนเล่นพร้อมกันในประเทศเป็นหมื่นคน ยอดรวมน่าจะครึ่งล้านคนได้ที่เล่นเกมนั้น แล้วเกมกล่องล่ะ ? อย่าว่าแต่ยอด CCU เลยครับ คนเล่นทั้งหมดต่อเกมนั้นๆแตะหลักหมื่นหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบได้  เมื่อตัวเลขผู้เล่นน้อยขนาดนั้นมันก็ไปสัมพันธ์กันกับเรื่องของยอดขาย รายได้ ผลกำไร งบในการจัดการ งบการตลาดแล้วก็วนขึ้นไปข้อแรกอีกรอบนั่นแหละ

WCG 2004

WCG Thailand 2004

หรือเพราะไม่มีผู้ให้บริการในประเทศไทย ( ? )

ผู้ให้บริการในที่นี้ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับสิทธิในการจัดจำหน่ายแต่ผมพูดไปถึงผู้ให้บริการในระดับสาขาอย่าง EA Thailand , Saluzi หรืออย่าง Garena Thailand  สำหรับวงการเกมกล่องนั้นในประเทศไทยไม่มีอะไรแบบนี้ เมื่อไม่มีผู้ให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย การโปรโมทโฆษณาประชาสัมพันธ์การทำ Branding ในไทยก็ไม่มี การที่จะคอยมองหาโอกาสมาร่วมงานเกมเปิดบูท Showcase ให้ลองเล่นตัวทดลองหรืองานแถลงข่าวเปิดตัวก็จะหมดไปกลายเป็นอย่างในทุกวันนี้

ผมยังจำได้ดีกับงาน EA Roadshow ที่เคยจัดขึ้นที่ห้างเซ็นทรัล เวิลด์ที่มีการเปิดให้ทดลองเล่นตัวเดโมของเกม Crysis และ Need For Speed ProStreet , มีการเปิดให้สั่งจอง FIFA ล่วงหน้าภายในงานหรืออย่าง EA Showcase จัดโดย Saluzi ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ราชดำริที่มีการเปิดตัวเกมต่างๆของ EA , เปิดโอกาสให้สื่อได้ทดลองเล่นเดโมเกมต่างๆรวมทั้ง Timeline ของปีนั้นว่าจะมีเกมใด งานอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้น

แต่เพราะอะไรบริษัทเหล่านี้ถึงได้จากวงการเกมไทยไปผมก็ไม่อาจฟันธงได้ อาจเป็นเพราะปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ในไทย อาจเป็นเพราะฐานลูกค้าที่ไม่มากเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะยอดขายที่ไม่ได้ตามเป้า อาจเป็นเพราะมีการแทรกแซงอำนาจมืดการเมืองภายในยุ่บยั่บวุ่นวายไม่ทราบได้

shrug

หรือเพราะไม่มีใครทำอะไร ( ? )

เอ๊ะ ! หรือจริงๆแล้วเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นไปตามที่ผมได้รับรู้มา ? หรือจริงๆแล้วกำไรถล่มทลายแซงหน้า League of Legend และ FIFA Online 3 แต่ผมไม่รู้ ? หรือจริงๆแล้วกำไรหลายพันล้านบาทแต่ไม่มีใครทราบ ? หรือจริงๆแล้วผู้เล่นเกมกล่องบ้านเรามีจำนวนหลายล้านคนกันแน่แต่แค่ไม่ออกสื่อ ? หรือจริงๆแล้วทุกคนก็เอาแต่ขายแต่ไม่ได้ให้อะไร return มาที่ลูกค้าเลยกันแน่ ? ถ้าถามว่าเป็นไปได้มั้ย มันก็เป็นไปได้ครับ แต่ผมเชื่อว่าโอกาสที่จะเป็นไปได้นั้นน้อยเสียยิ่งกว่าการที่ผมโดดตึกสิบชั้นแล้วรอดตายเสียอีก

แต่ก็อย่างว่าผมก็แค่คนทำงานวงการเกม ผมก็แค่นักเขียนและเจ้าของเว็บไซท์เกม ผมก็คนเล่นเกมเหมือนพวกคุณนี่แหละครับ เบื้องหลังธุรกิจเกมอาจมีฉากอันดำมืดและหลุมดำทางความคิดที่จะดูดคนขี้สงสัยอย่างผมให้หายไปก็เป็นได้ ใครล่ะจะรู้ แต่ที่แน่ๆสิ่งนึงที่ผมเชื่อมาตลอดและจะเชื่ออย่างนั้นไปอีกอย่างน้อยห้าปีก็คือการที่เราคาดหวังว่าจะได้เห็นงานเกมที่ยิ่งใหญ่และมีแต่เกมออฟไลน์มันเป็นได้แค่ความฝัน ตราบใดที่เราไม่สนับสนุนสินค้าลิขสิทธิ์ให้มากขึ้น ตราบใดที่เราไม่สนับสนุนผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย เราก็จะไม่เข้าใกล้งานเกมในฝันของเราอย่างแน่นอนครับ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก: Digitalkeystore และ ATevent|@event :Freelance Community&Source of work

 

 

SHARE

Settasilp Poonbumphen

ยีน - Founder / Project Manager

Back to top