BY KKMTC
3 Jul 19 7:50 pm

จาก Yakuza สู่ Judgment ทั้งสองเกมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ?

66 Views

หลังจากทีมงานเราให้ผลสรุปบทความรีวิว Judgment ว่าเป็นเกมที่มีองค์ประกอบคล้าย Yakuza 6 และ Yakuza Kiwami 2 แต่ความสนุกสนานโดยรวมก็ยังอยู่ในระดับเกมยอดเยี่ยม เพราะเนื้อเรื่องกับคอนเทนต์ใหม่ที่เข้ามาทดแทนของเก่า แต่สำหรับเกมเมอร์ที่อยากทราบถึงแตกต่างระหว่าง Yakuza กับ Judgment ให้ชัดเจนกว่านี้ บทความนี้จะบอกเล่าถึงเอกลักษณ์ของทั้งสองเกมให้เข้าใจกันครับ

เนื้อเรื่องลูกผู้ชาย VS. คลายปริศนามืดหม่น

Yakuza 6 : The Song of Life

Yakuza 6 : The Song of Life

เนื้อเรื่องซีรีส์ Yakuza นำเสนอในรูปแบบของธีมแก๊งอาชญากรรมใต้ดินในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตัวละครหลักของเกมนี้คือ Kazuma Kiryu ตำนานยากูซ่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย, มีความอ่อนโยน, ปกป้องคนที่อ่อนแอกว่า, และเชื่อมั่นในความถูกต้องจนคาดไม่ถึงว่าเขาใช้ชีวิตในโลกอาชญากรรม โดยเนื้อเรื่องของ Yakuza จะเน้นเกี่ยวกับมิตรภาพของคนในครอบครัว, เพื่อนฝูง และคนในแก๊ง ที่จะทำให้ผู้เล่นหลายคนต้องหลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย

ตรงข้ามกับเนื้อเรื่อง Judgment ที่แตกต่างจาก Yakuza แบบหน้ามือเป็นหลังมือ Takayuki Yagami พระเอกประจำเกม Judgment ไม่เป็นยากูซ่าเหมือน Kiryu แต่เขาเป็นอดีตอัยการผู้รู้สึกผิดกับการปล่อยให้อาชญากรที่ตนเองเพิ่งปกป้องให้พ้นผิด ได้ลอยนวลจนก่อคดีสะเทือนขวัญอีกครั้ง เขาจึงตัดสินใจเป็นนักสืบเอกชนเพื่อลบล้างความผิดของตัวเอง

โครงเรื่อง Judgment เป็นแนวแอ็กชั่น/สืบสวน/ระทึกขวัญ โดยที่ตรรกะเนื้อหาจะมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น, โทนเรื่องจะดาร์กและรุนแรง, มีปริศนาลึกลับน่าค้นหา และแน่นอนว่าผู้เล่นจะได้พบปะกับตัวละครเสริมที่มีวิถีการใช้ชีวิตหลากหลายกว่าเดิม

Judgmentแต่ด้วยองค์ประกอบเนื้อเรื่องที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้ Judgment กลายเป็นเกมที่มีการดำเนินเนื้อเรื่องช้าสุดในตระกูล Yakuza เนื่องจากเกมจำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดมากเป็นพิเศษและลดฉากแอ็กชั่นลง เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่ของเนื้อเรื่องและพยายามรักษาโทนเรื่องไว้ ซึ่งแตกต่างจาก Yakuza ที่เน้นขายฉากดราม่ากับฉากแอ็กชั่นที่มากกว่า

ถึงแม้สองเกมจะมีการนำเสนอที่แตกต่างกัน เกม Yakuza จะมีเนื้อหาดรามาลึกซึ้งกินใจ ส่วนเนื้อหาของ Judgment จะออกไปในทางแนวสืบสวนไขปริศนาที่เบื้องหลังมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าทั้งสองเกมสามารถทำให้เกมมอร์อยากติดตามเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเกมจริง ๆ

โลกสวย VS. ปลอดปล่อย

ซีรีส์ Yakuza ทุกภาคจะมี Mini Games พิเศษที่มีเนื้อเรื่องแยกออกมาจากเนื้อหาหลัก โดยเกม Yakuza จะมีจุดเด่นในเรื่องการนำเสนอธุรกิจสถานบันเทิงสีเทาของญี่ปุ่นให้ “โลกสวย” ที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น มินิเกมการบริหารคาบาเร่ต์คลับของ Yakuza 0 และ Yakuza Kiwami 2 ที่ตอนแรกเกมมอร์หลายคนจะคิดว่ามันเป็นธุรกิจที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มผู้มีอิทธิพลมืด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าคาบาเร่ต์คลับทุกที่จะเป็นอย่างนั้น การเล่นเกม Yakuza ทำให้ผู้เขียนรู้ว่าธุรกิจดังกล่าวก็เหมือนกับการบริหารร้านค้าประเภทบริการทั่วไปที่ต้องมีคู่แข่ง, มีการแบ่งกำไร, การคัดกรองพนักงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำไมผมจึงหลงรักซีรีส์นี้

แต่เนื่องจาก Judgment เรารับบทเป็นฝ่ายผู้ผดุงความยุติธรรม Mini Games ของ Judgement จึงไม่แตะต้องกับธุรกิจใต้ดินโดยเด็ดขาด (ยกเว้นการขอใช้บริการนะ) แต่ส่วนใหญ่เป็นการทำงานอดิเรกส่วนตัวซะมากกว่า เช่นการเล่นเกมตู้ Pinball, เล่นบอร์ดเกมในโลก VR เพื่อแลกของรางวัล และที่สำคัญที่สุด เขาเป็นหนึ่งในผู้แข่งขัน Drone Race ที่เก่งกาจอีกด้วย

Judgmentแม้ Judgment จะไม่มี Mini Games ขนาดใหญ่ให้เล่นเหมือน Yakuza แต่ถ้าหากติดตามเนื้อเรื่อง Side Case เราจะได้รู้ว่า Yagami เป็นมนุษย์ที่ทุ่มเทกับงานนักสืบมาก ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ Side Case ในหนึ่งเควสจะมีระยะการเล่นยาวประมาณ 7 นาทีขึ้นไป และมีรางวัลเป็นเงินก้อนโตกับค่า SP แทน

บ้าบิ่น VS. ใจเย็น

หากไม่นับเกม Yakuza 0 และ Yakuza Kiwami ที่มีทักษะการต่อสู้ให้เลือกสามแบบ การต่อสู้ของ Kiryu Kazuma จะเป็นแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ แต่มีอาวุธเพียงสองอย่างคือกำปั้นและความกล้าหาญเท่านั้น

แต่สำหรับ Yagami เขาได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จนมีเทคนิคเป็นของตัวเอง (ที่คาดว่าประยุกต์ใช้กับกังฟู) ทำให้ลีลาท่าทางการเคลื่อนไหวจะมีความลื่นไหลและรวดเร็วกว่า Kiryu หลายเท่า ซึ่งนอกจากนี้ Yagami มีสไตล์การต่อสู้สองแบบคือ Tiger Style และ Crane Style ที่สามารถสลับเลือกใช้ได้อย่างอิสระ

Project Judgeและมีจุดสังเกตว่า Yagami ไม่สามารถใช้อาวุธประเภทมีด ดาบ หรือปืนได้ เพราะเขาทำงานเป็นฐานะเป็นนักสืบเอกชน การใช้อาวุธปืนหรือมีดจึงเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างยิ่ง (Yagami ก็ชอบเตือนยากูซ่าที่พกปืนว่า “รู้เปล่าเนี่ยว่าการพกปืนมันผิดกฎหมายนะ”)

ส่วนด้านการปะทะกับศัตรู เกม Yakuza จะเน้นสายยกพวกบุกจนถึงหน้าบ้านของศัตรู แต่สำหรับ Judgment เราจะต้องลงมือวางแผนกันอย่างชาญฉลาดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะปะทะกับฝ่ายศัตรู บ่อยครั้งที่เราต้องใช้โดรนในการตรวจสอบพื้นที่ หรือเข้าแทรกแซงด้วยการปลอมตัวเป็นต้น (ตามการดำเนินของเนื้อเรื่อง)

Judgmentและอย่างที่กล่าวไว้ในบทความรีวิว Judgment ถึงแม้ระบบการสืบสวนจะค่อนข้างเรียบง่ายเกินไปสำหรับเกมนักสืบ แต่สำหรับเกมในจักรวาล Yakuza ระบบดังกล่าวจัดเป็นฟีเจอร์ใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยมีในซีรีส์มาก่อน ทำให้เกม Judgment รู้สึกมีความสดใหม่ แม้ฉากหลังจะเป็นย่าน Kamurocho ที่เราคุ้นเคยก็ตาม

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top