BY KKMTC
4 Nov 22 6:19 pm

ทำไมปืน LMG มักโดนมองข้ามจากชาว FPS

137 Views

Light Machine Gun หรือปืนกลเบา แม้หน้าตาของมันดูเท่ น่าเกรงขาม บรรจุกระสุนได้เยอะจนสามารถสาดกระสุนเล่น ๆ ได้สบาย แต่ปืนประเภทดังกล่าวกลับไม่ได้รับความนิยมในเกมประเภท FPS เช่น Call of Duty หรือ Battlefield ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา

บทความนี้จะเป็นการชี้ว่าทำไมปืน LMG จึงมักโดนมองข้ามจากเกมเมอร์ชาว FPS มานานแสนนาน แม้มันไม่ใช่ปืนที่แย่ สามารถใช้งานได้ก็ตาม

น้ำหนักเยอะ ให้ความคล่องตัวช้า

Battlefield

แม้ Light Machine Gun ได้เรียกว่า “ปืนกลเบา” แต่ความจริงแล้ว น้ำหนักของมันไม่ได้ “เบา” ตามชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุผลดังกล่าว ปืน LMG ในเกม FPS เกือบทุกเกม จึงมีคาแรคเตอร์เป็นปืนที่มีพลังค่า Mobility (ความคล่องตัว) ต่ำ หากถือปืนนี้จะทำให้ตัวละครเคลื่อนไหวช้า และการยกเล็งศูนย์ปืนช้าด้วยเช่นกัน

แม้เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่การถือปืน LMG จะส่งผลต่อความคล่องตัวลดลง โดยมีการบรรจุกระสุนมากกว่าปืนอีกหลายประเภทมาช่วยทดแทนข้อเสีย แต่สุดท้าย ความคล่องตัวช้าก็ยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่แก้ไขได้ยาก เพราะเป็นธรรมชาติของปืนประเภทนี้

Call of Duty เป็นตัวอย่างที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าประสิทธิภาพของปืน LMG นั้น ยังไม่สามารถต่อสู้ปืนกลมือ (Submachine Gun) กับปืนไรเฟิลจู่โจม (Assault Rifle) ได้ เนื่องจากเกมดังกล่าวมีระบบเกมเพลย์ Fast-Paced และตัวละครตายเร็ว ทำให้ปืน LMG มักเสียเปรียบต่อปืน AR และ SMG ที่มีความคล่องสูงกว่า เล็งปืนได้เร็วกว่า ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็เกิดขึ้นกับเกมตระกูล Battlefield และเกม FPS หลายเกม

พลังดาเมจคงที่ในทุกระยะ แต่ยังแพ้ปืน AR, SMG ที่มีดีเฉพาะด้าน

Modern Warfare

ปืน LMG ในเกม FPS ส่วนใหญ่มักมีพลังดาเมจคงที่ ไม่ว่าจะยิงระยะไกลหรือใกล้ก็สร้างความเสียหายเท่ากัน แถมแรงดีดปืนอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งเมื่อดูจากเปเปอร์แล้ว เกมเมอร์อาจจะคิดว่าปืน LMG มีคุณสมบัติที่ไม่ได้แย่อะไรมากนัก เป็นปืนที่มีบาลานซ์กำลังดี ไม่ค่อย Overpower แต่น่าเสียดาย สุดท้าย ปืน LMG ยังพ่ายแพ้ให้กับปืนหลายประเภทในหลายด้าน

ปืนประเภทต่าง ๆ จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น ปืน SMG เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด-กลางหน่อย ๆ รีโหลดเร็ว , ปืนลูกซอง (Shotgun) เหมาะสำหรับการยิงระยะประชิด ใช้ในพื้นที่แคบ, ปืนสไนเปอร์ไรเฟิล (Sniper Rifle) เหมาะสำหรับการสังหารศัตรูจากระยะไกล แต่ทว่าปืน LMG กลับไม่มีข้อดีที่ไปได้แบบสุดทาง เมื่อใช้ในการยิงต่อสู้ระยะใกล้ ก็มักพ่ายแพ้ให้กับ SMG เมื่อใช้ในการยิงระยะไกล ก็มักแพ้ให้กับปืนสไนเปอร์ไรเฟิล หรือปืนไรเฟิลนักแม่นปืน (Marksman Rifle) เช่นกัน

นอกจากนี้ แม้ปืน AR มีคุณสมบัติเป็นอาวุธ “All-Rounder” สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์คล้ายกับปืน LMG แต่สุดท้าย ปืน AR ก็ยังเหนือกว่าปืน LMG เพราะมีความคล่องตัวที่สูงกว่า รีโหลดเร็วกว่า ถ้าหากมีการยกศูนย์ยิงปืนพร้อมกัน ก็มีโอกาสค่อนข้างกว่าที่ผู้เล่นถือปืน AR จะได้รับชัยชนะกลับมา

ปืนเหมาะสำหรับยิงสนับสนุน ยิงกด ไม่ถูกใจสายบู๊

Rising Storm 2

เนื่องจากปืน LMG มีความคล่องตัวช้า แน่นอนว่าหากเอาปืนนี้ไปสู้ในระยะประชิดหรือกลาง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับความพ่ายแพ้กลับมา ด้วยเหตุผลดังกล่าว วิธีใช้ปืน LMG อย่างเหมาะสมดีเลิศที่สุด ก็คือต้องยกเล็งปืนค้างไว้ล่วงหน้า พยายามอยู่ในแนวหลังของสนามรบ และอย่าบู๊ล้างผลาญโดยไม่จำเป็น

เพราะการใช้ปืน LMG เหมือนถูกบังคับแบบอ้อม ๆ ว่าต้องเล่นเกมแบบ Slow-Paced ในท่ามกลางสนามรบอันดุเดือด ที่ทุกคนตะลุยยิงกันแหลกโบ๊ะบ๊ะ เกมเมอร์บางคนจึงมองว่า LMG เป็นอาวุธที่ใช้ไม่สนุก น่าเบื่อ ซ้ำร้ายมันไม่ทรงพลังเท่ากับปืนหลายประเภทอีกด้วย แม้สามารถถือ LMG ไปล่ายิงชาวบ้านได้โดยไม่มีใครห้าม แต่สุดท้าย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า SMG กับ AR เป็นปืนที่เหมาะสำหรับการบู๊มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปืน LMG ส่วนใหญ่กลับใช้งานอย่างสนุกสนาน สำหรับการเล่นโหมดยึดด่านหรือป้องกัน โดยเฉพาะเกม Battlefield ในโหมด Conquest และ Call of Duty ในโหมด Ground War, Invasion หรือเกมอื่น ๆ ที่เน้นความสมจริง เช่น Rising Storm, Insurgency Sandstorm ซึ่งมีแผนที่สเกลขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความโกลาหล ทำให้การใช้ปืน LMG ที่ออกแบบสำหรับการยิงสนับสนุน และยิงป้องกัน มีความเข้ากับบทบาทได้ดีคล้ายกับปืน LMG ในชีวิตจริง

กระสุนเยอะก็จริง แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไหร่

Modern Warfare Ii (2)

ถึงแม้ข้อดีของปืน LMG คือสามารถบรรจุได้เยอะมาก แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยเวลารีโหลดช้ามากเช่นกัน ซึ่งอย่างที่เกมเมอร์ชาว FPS หลายคนทราบกันดี หนึ่งในสาเหตุหลักที่ผู้เล่นมักตายในการเล่นเกมโหมด Multiplayer มากที่สุด ก็คือถูกยิงในช่วงเวลากำลังรีโหลดกระสุน ซึ่งมีการเปิดช่องว่างให้คุณโดนยิงเต็ม ๆ เป้าโดยไม่สามารถโต้กลับได้ทัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว การเปลี่ยนกระสุน LMG จึงจำเป็นต้องหาสถานที่หลบ ที่กำบังก่อนรีโหลดทุกครั้ง

นอกจากนี้ มีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยคิดว่ากระสุน 100 นัด มันเยอะเกินไปซะด้วยซ้ำ ถ้าหากมีตัวเลือกให้ลดจำนวนกระสุนเป็น 50-75 นัด เพื่อแลกให้น้ำหนักปืนลดลง หรือมีสกิลพิเศษที่ทำให้การถือปืนคล่องตัวมากขึ้น เราเชื่อว่าเกมเมอร์จะต้องม็อดปืนให้เบาลง และใช้สกิลเพิ่มความว่องไวเป็นอย่างแรกโดยไม่ต้องสงสัย

Battlefield 4

สุดท้าย ต้องย้ำว่า LMG ไม่ใช่ปืนที่แย่ มันเป็นปืนที่ใช้ได้เกือบทุกสถานการณ์ แถมใช้ได้ดีในโหมดเกมบางประเภท (โดยเฉพาะการป้องกัน) แต่เพราะความคล่องตัวที่ช้า รีโหลดนาน แถมปืน LMG ในหลายเกม มักมีประสิทธิภาพโดยรวมที่ไปไม่สุดทาง จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ปืน LMG ไม่ได้รับความนิยมมากนักในเกม FPS สไตล์อาเคด

แน่นอน การใช้ปืน LMG ในเกม FPS จำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวค่อนข้างเยอะ โดยเกม Call of Duty: Modern Warfare II มีความพยายามอยากให้ผู้เล่นได้ลองเปิดโลกใช้อาวุธใหม่ ๆ ด้วยการออกแบบระบบ Progression ปลดล็อกปืนที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งไม่แน่ว่าการกึ่งบังคับให้ใช้ปืน LMG จะช่วยให้อาวุธประเภทดังกล่าวได้เฉิดฉายมากขึ้น หลังอยู่ใต้ร่มเงามาค่อนข้างนานแล้ว

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top