หากพูดถึงเอฟเฟกต์วิดีโอเกมที่สร้างความรำคาญไม่แพ้กับ Motion Blur อย่างไรก็ไม่มีทางหนีพ้น Depth of Field ที่มันทำหน้าที่เบลอฉากหลัง แล้วเน้นการแสดงผลวัตถุที่อยู่ใกล้สุด จนเหมือนเรากำลังอยู่ในสถานะสายตาสั้นก็ไม่ผิดนัก
นี่เป็นเอฟเฟกต์ที่หลายคนต่างส่ายหน้ากัน แต่ทำไมเกมยังคงจำเป็นต้องใส่เอฟเฟกต์นี้เข้ามา บทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจถึงข้อดีข้อเสียของ Depth of Field
รู้จัก “ความชัดลึก” เอฟเฟกต์ที่ต้องมีทั้งสื่อภาพกับวิดีโอ
Depth of Field หรือแปลว่า “ความชัดลึก” เป็นเอฟเฟกต์สำหรับการภาพถ่าย และวิดีโอ ที่ตัวกล้องจะทำโฟกัสเน้นมองวัตถุที่ใกล้ที่สุด แล้วเบลอพื้นหลัง เพื่อให้วัตถุที่อยู่ใกล้ดูโดดเด่น มีรายละเอียดสูง และสร้างจุดความน่าสนใจของภาพ
เอฟเฟกต์ดังกล่าว นอกจากเป็นหนึ่งในเทคนิคสำคัญสำหรับการถ่ายภาพแล้ว มันถูกใช้ในการถ่ายภาพยนตร์ด้วยอีกด้วย เพราะเอฟเฟกต์ Depth of Field มีส่วนช่วยทำให้ช็อตของหนังมีความน่าสนใจ และสวยงามมากยิ่งขึ้น
หลังจากเกมคอนโซลเริ่มเข้าสู่ยุคเจเนอเรชันที่ 7 (PlayStation 3, Xbox 360) ซึ่งมีพลังฮาร์ดแวร์ทรงพลังมากพอ จนสามารถใส่เอฟเฟกต์กราฟิกได้อย่างจัดเต็มมากขึ้น แน่นอนว่าเอฟเฟกต์ Depth of Field ก็ถูกเอามาใช้ในวิดีโอเกมเช่นกัน
แม้เกมจากเจเนอเรชันที่ 7 (และถัด ๆ มา) มีตัวเลือกกราฟิกใหม่ให้เลือกเล่นเปิด-ปิดมากมาย แต่ Depth of Field เป็นหนึ่งในเอฟเฟกต์ที่เกมเมอร์หลายคนเห็นแล้วต้องส่ายหน้าเหมือนกับเอฟเฟกต์ Motion Blur ที่เปิดเกมครั้งแรก ต้องเลือกกดปิดเอฟเฟกต์ Depth of Field ทุกครั้ง
ทำไม Depth of Field จึงถูกใส่เข้ามาในเกม
อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดี เนื่องจากปัจจุบัน เกมเมอร์ให้ความสำคัญกับภาพกราฟิกมากขึ้น จึงไม่แปลกใจอะไรที่ทีมงานจะใส่เอฟเฟกต์ Depth of Field เข้ามา เพื่อให้ภาพเกมออกมา “สมจริงเหมือนภาพถ่าย” ที่สุดเท่าที่ทำได้
คล้ายกับชีวิตจริง ดวงตาของเราไม่สามารถมองโฟกัสได้หลายจุดในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น หากเรากำลังก้มมองโทรศัพท์มือถือ หรืออ่านหนังสือ พื้นหลังทั้งหมดจะมีภาพเบลอ ยกเว้นที่ตรงหน้าจอมือถือ กับตัวอักษรของหนังสือจะมีภาพคมชัดที่สุด
นอกจากนี้ เหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น Depth of Field มีส่วนช่วยทำให้ภาพคัตซีนในเกม กับ Pre-Render คัตซีน มีความเป็นภาพยนตร์มากขึ้น รวมถึงทำให้ฉากวิวต่าง ๆ ในเกม มีความสวยงามละมุนเหมือนภาพถ่าย แน่นอนว่าเอฟเฟกต์ดังกล่าว มันคือสวรรค์สำหรับเกมเมอร์สายถ่ายรูปเป็นหลักชัด ๆ
สุดท้าย Depth of Field มีหน้าที่หลอกกราฟิกได้แบบเนียน ๆ ช่วยกลบการมองเห็นพื้นที่ที่ระยะไกล ซึ่งมันเป็นส่วนที่เกมเมอร์มองเห็นจุดตำหนิของกราฟิกได้ง่ายมาก แน่นอนว่าจุดตำหนิเพียงนิดเดียว มันก็สามารถทำลายบรรยากาศความดื่มด่ำภายในเกมได้ในพริบตา
ข้อเสียของ Depth of Field ที่ทำให้เกมเมอร์ต่างส่ายหน้า
แน่นอน ไม่ใช่เกมเมอร์ทุกคนจะชื่นชอบเอฟเฟกต์ Depth of Field เพราะความสมจริงของภาพนั้น กลับต้องแลกมาด้วยข้อเสียบางอย่างที่ไม่คุ้มค่ากับการเปิดทิ้งไว้สักเท่าไหร่นัก
ข้อเสียหลัก ๆ ของ Depth of Field คือเป็นเอฟเฟกต์ที่กินแรง CPU กับการ์ดจอ แม้มันอาจจะไม่กินทรัพยากรเท่ากับการเปิด Shadow ระดับ High ก็จริง และ DoF จะกินสเปกมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเกมว่ามีการขัดเกลา Optimize มาดีแค่ไหน แต่สุดท้าย เราก็ไม่ปฏิเสธว่าหากมีความต้องการอยากให้เกมรันได้ลื่นไหลขึ้น การปิดเอฟเฟกต์ DoF ก็เป็นทางเลือกแก้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ไม่เลวเลย
นอกจากนี้ การเปิด Depth of Field อาจสร้างความเสียเปรียบระหว่างการเล่นเกมโหมด Multiplayer (โดยเฉพาะแนว FPS) คล้ายกับการเปิด Motion Blur เนื่องจาก DoF ทำให้ภาพรอบ ๆ เกิดเอฟเฟกต์เบลอ และไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ในระยะไกลได้ แน่นอนว่าเกมเมอร์ที่ปิดเอฟเฟกต์ DoF ไว้ ย่อมต้องได้เปรียบกว่าคนที่เปิด DoF ไม่มากก็น้อย
สุดท้าย หลายคนแสดงความคิดเห็นว่าเกมบางเกม มีการเน้นเอฟเฟกต์ Depth of Field ที่มากเกินความจำเป็น หรือโฟกัสภาพที่ผิดจุด จนส่งผลทำให้ภาพเกมดรอปคุณภาพลง แทนที่จะทำให้ภาพสมจริงมากขึ้น ซึ่งปัญหานี้มักเห็นได้บ่อยตามเกมปี 2010 แต่ปัจจุบัน เอฟเฟกต์ DoF มีการลดทอนลง จนหลายเกมใช้เอฟเฟกต์นี้ในระดับที่เหมาะสมมากขึ้น
ถึงอย่างนั้น บางเกมสามารถใช้เอฟเฟกต์ Depth of Field ได้อย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด คือเกมสยองขวัญเอาตัวรอดอย่าง Alien Isolation ที่หากผู้เล่นทำการหยิบใช้อุปกรณ์บอกตำแหน่งเมื่อไหร่ ภาพพื้นหลังทั้งหมดจะถูกเบลอโดยทันที หรือหมายความว่าระหว่างที่เรากำลังดูอะไรบางอย่าง เราจะไม่สามารถรับรู้เกี่ยวกับภัยอันตรายที่อยู่ด้านหน้าได้เลย เหมือนกับเรากำลังเดินไปแล้วเล่นมือถือไป โดยไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นถนนที่มีรถสัญจรผ่านไปมา หรือกำลังเดินชนคนที่ไม่ได้ตั้งใจ
สุดท้าย แม้ Depth of Field เป็นสิ่งที่หลายคนต่างส่ายหน้าพอ ๆ กับ Motion Blur เพราะมันไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อการเล่นเกม แถมเปิดไปก็หน่วงเครื่องเปล่า ๆ แต่เราเชื่อว่าเอฟเฟกต์ดังกล่าวจะยังไม่หายไปไหน เพราะเป็นฟีเจอร์ทางเลือกสำหรับคนต้องการเสพกราฟิกจัดเต็ม ซึ่งเป็นสวรรค์สำหรับเพลเยอร์สายถ่ายภาพอย่างไม่ต้องสงสัย