“ความแค้นนี้ ฉันจะจำจดมันไว้” นี่คือประโยคสุดเอกลักษณ์ของสาวผมฟ้านามว่า Eula อัศวินแห่ง Favonius ที่เป็นกระแสถกเถียงจากชาวเมือง Mondstadt หลายคน ถึงแม้เธอเป็นอัศวิน แต่ด้วยพฤติกรรม “สุดประหลาด” กับมีท่าทีหยิ่งยโสที่ชวนให้เกิดการทะเลาะหลายครั้ง ทำให้เธอยังไม่เป็นที่ยอมรับจากชาวเมืองส่วนใหญ่
บทความนี้จะเป็นการทำความรู้จักกับ Eula อัศวินแห่ง Favonius ที่เติบโตในตระกูลชนชั้นสูง และอยากเป็นที่ยอมรับจากทุกคน
Eula สาวที่มีหน้าที่ “ชำระแค้น” ด้วยการตอบแทน
Eula เป็นตัวละคร 5 ดาว ธาตุน้ำแข็ง1 (Cyro) ใช้อาวุธประเภทดาบ Claymore ซึ่งเธอเป็นคาแรคเตอร์ 5 ดาวตัวเดียวในตอนนี้ ที่ออกแบบมาเพื่อเล่นสาย DPS เน้นการโจมตีกายภาพ (DMG ขาว) โดยเฉพาะ ด้วยพลังทำลายล้างจาก Normal Attack ที่อัดแรงดั่งรถบรรทุกชน เธอจึงสามารถกำจัดมอนสเตอร์ตัวเดียว และแบบกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยการดีไซน์ตัวละครโดดเด่น มีทักษะน่าสนใจ มีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และเติบโตในตระกูลชนชั้นสูง Lawrence ที่เคยสร้างความร้าวฉานให้กับเมือง Mondstadt ในอดีต แน่นอนการเปิดตัวครั้งแรก เธอจึงได้รับความสนใจจากสังคมคนเล่น Genshin Impact เป็นอย่างมาก
แล้วทำไมลูกสาวตระกูลชนชั้นสูง จึงหันมารับใช้อัศวินแห่ง Favonius ซึ่งเป็นปรปักษ์มาหลายปี แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวย่อมต้องมีที่มาและที่ไป
สาวชนชั้นสูงที่ต้องแบกรับความคาดหวังตั้งแต่เกิด
ก่อนที่เข้าถือเนื้อหาของ Eula เราต้องอธิบายเรื่องราวเบื้องต้นของตระกูล Lawrence ซะก่อน
ในอดีต Mondstadt เคยถูกปกครองโดย Lawrence ซึ่งเป็นตระกูลชนชั้นสูงอันแสนชั่วร้าย เคยนำพาเมืองเข้าสู่ยุคมืดมน จากการใช้วิธีปกครองชาวเมืองด้วยระบบทาส บังคับขู่เข็ญ ใช้อำนาจโดยมิชอบ เปลี่ยนสถานที่ให้กลายเป็นสนามประลองนองเลือด และชื่นชมตระกูลตัวเองว่ามีอำนาจเหนือกว่าพระเจ้า พร้อมทำลายคำมั่นสัญญาทั้งหมดที่มีการสืบต่อกันมาอย่างช้านาน
แต่ต้องขอบคุณ Venessa อัศวินผู้เป็นทาสของ Lawrence ได้ทำการรวบรวมเหล่าทหาร และปลุกระดมชาวเมืองให้ก่อการปฏิวัติ จนถือกำเนิด “กองอัศวินแห่ง Favonius” แล้วขับไล่ตระกูล Lawrence ได้สำเร็จ ส่งผลทำให้ยุคมืดมนของ Mondstadt สิ้นสุดลง และชาวเมืองได้รับอิสรภาพกลับมาอีกครั้ง
ปัจจุบัน ตระกูล Lawrence ยังไม่หายสาบสูญไปไหน พวกมันยังอาศัยอยู่ในดินแดน Mondstadt ที่ใดที่หนึ่ง และกำลังวางแผนที่จะเอาคืนอัศวินแห่ง Favonius เพื่อให้ตระกูลกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง
แน่นอน ไม่ใช่ทุกคนใน Lawrence เห็นด้วยกับวิธีการของตระกูลที่จะพาเมือง Mondstadt กลับคืนสู่ยุคมืด จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่สมาชิกบางคน เลือกจะตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมด และยอมโดนเรียกว่าเป็น “คนทรยศ” หรือ “ผู้สร้างความขายหน้าให้แก่ตระกูล” โดยหนึ่งในทายาท ที่สร้างความอับอายให้ตระกูล Lawrence มากที่สุดจนอยากทรุดหัวหนี ซึ่งเธอคนนั้นคือ Eula
Eula Lawrence เป็นทายาทคนล่าสุดของตระกูล ที่ถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดตั้งแต่เด็ก เพราะเหล่าผู้ใหญ่ต่างคาดหวังเป็นเสียงเดียวกันว่า เธอคือหนึ่งในคนที่สามารถกอบกู้ตระกูล Lawrence ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เธอจึงถูกเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนอย่างเคร่งครัดจากคนในตระกูล ไหนจะต้องเรียนการวางตัวอย่างมีมารยาท (ต่อคนชนชั้นสูงด้วยกันเอง) , การปฏิบัติตัวต่อสามัญชนคนทั่วไป, การทำอาหาร, การทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน, การต่อสู้, การเล่นดนตรี และออกแบบงานศิลปะ ซึ่งเป็น “หน้าที่ของชนชั้นสูง” ที่ Eula โดนบังคับให้ทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากตระกูล Lawrence มีการเตรียมตัวมาหลายปี และหาโอกาสเหมาะสมที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของตระกูลให้กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง ทำให้ในมุมมองของคนในตระกูล ชี้ว่า Eula คือความหวัง ต้องเป็นคน “ไร้ที่ติ” และ “สมบูรณ์แบบ” เขาว่ากันว่าถ้า Eula ทำพลาดอาหารพลาดแม้นิดเดียว เธอจะต้องโดนตำหนิหรือลงโทษสถานเดียว
แต่การโดนฝึกฝนอย่างหนักของ Eula ก็ไม่สูญเปล่า เธอสามารถผ่านการทดสอบประจำตระกูลที่ว่ากันว่าโหดเหี้ยมท้าทายได้อย่างง่ายดาย แล้วได้กลายเป็นคนดูแล “Glacial Seal” หรือตราประจำตระกูลที่จะมอบความให้แก่ผู้ผ่านการทดสอบเท่านั้น
คนในตระกูลต่างเชื่อมั่นว่า Eula คือผู้ที่สามารถกอบกู้ตระกูล Lawrence ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่เพราะการที่เธอได้รับ Glacial Seal นั่นแหละ ทำให้เธอได้แสดงการต่อต้านแนวคิดของตระกูล Lawrence อย่างแท้จริง
หลังจาก Eula รับ Glacial Seal แล้ว เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านตระกูล Lawrence อย่างลึกลับ และไม่มีการติดต่อกลับมาในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วต่อมา คนในตระกูลรับข่าวสารว่า Eula จะเข้าร่วมกองอัศวินแห่ง Favonius ซึ่งเป็นปรปักษ์กับตระกูลตลอดกาล
ข่าว Eula จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองอัศวินแห่ง Favonius ทำให้ชาวเมือง Mondstadt หลายคน ออกมาประท้วงไม่เห็นด้วยกับการนำ Eula เข้ามาเป็นอัศวิน เพราะเกรงกลัวว่าอาจมีการทรยศเกิดขึ้น แล้วนำพาเมืองเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง และแน่นอน ทางคนในตระกูล Lawrence เองก็ต่อต้าน Eula อย่างสุดกำลัง พร้อมกล่าวหาว่าเธอคนทรยศของตระกูลโดยทันที
ถึงอย่างนั้น ด้วยความสามารถที่เก่งกาจของ Eula และกองอัศวินแห่ง Favonius เอง ก็มีนโยบายว่าจะมอบโอกาสให้แก่ทุกคน ทางผู้บัญชาการ Varka จึงตัดสินใจให้ Eula ได้กลายเป็นหนึ่งในทหารของกองอัศวินแห่ง Favonius อย่างไม่ลังเล แม้ชาวเมืองจะไม่เห็นด้วยเป็นส่วนมากก็ตาม
แม้ตอนแรก ทหารหลายคนรู้สึกไม่ไว้วางใจ หวาดระแวง ไม่ชื่นชอบท่าทีหยิ่งยโสของ Eula แต่ก็ไม่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสามารถทั้งด้านการต่อสู้ การวางแผน การเอาตัวรอด และความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวนั้น ช่วยสร้างความประทับใจ กับปกป้องชีวิตทหารไว้ได้หลายนาย
นอกจากนี้ Amber ซึ่งปัจจุบันเป็นเพื่อนสนิทของ Eula มักชอบเล่าเรื่องวีรกรรมความกล้าหาญ และความสำเร็จจากการปฏิบัติภารกิจให้เพื่อน ๆ หรืออัศวินฟังอยู่เสมอ รวมถึงเธอเอง ก็เป็นคนเดียวที่สนิทสนมกับ Eula ที่สุดแล้ว กองอัศวินบางคนมองว่า Eula กับ Amber นั้น เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกันไม่มีผิด
แม้ความสัมพันธ์ระหว่าง Eula และกองอัศวินแห่ง Favonius จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และเธอได้เลื่อนขั้นกลายเป็นหัวหน้ากองสอดแนม ที่ทำหน้าที่ออกล่า Abyss Order, มอนสเตอร์ ตามนอกเมือง Mondstadt แต่ความสัมพันธ์ระหว่างชาวเมืองกับเธอกลับมีพัฒนาการที่น้อยนิด
เนื่องจาก Mondstadt เคยถูกกดขี่โดยตระกูล Lawrence มานานแสนนาน ทำให้ชาวเมืองมีความรู้สึกอคติ เกลียดชัง และไม่ไว้ใจในตัว Eula โดยขณะที่ Eula ยังเป็นทหารมือใหม่ เธอถูกรังเกียจและปฏิบัติแย่ต่อชาวเมือง เช่น ไม่ขายของให้ ตั้งใจทำอาหารรสชาติแย่ ๆ และไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำสั่ง
แม้ผลงานการปฏิบัติภารกิจของ Eula ช่วยให้กองทหารอัศวินแห่ง Favonius รอดปลอดภัยหลายครั้ง และเคยพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองให้เป็นมิตรต่อชาวเมืองมากขึ้น แต่สุดท้าย เพราะเธอเกิดในตระกูล Lawrence ที่สร้างบาดแผลแก่ชาวเมือง หลายคนจึงยังไม่พร้อมเปิดใจ หรือยอมรับในตัวเธอ
การเต้นรำเป็นงานอดิเรกของ Eula และเป็นประเพณีอย่างเดียวของตระกูล Lawrence ที่เธอยอมรับ เมื่อถึงเวลาพัก เธอมักจะเต้นรำกลางทุ่งหญ้าหรือลานกว้างปราศจากผู้คน เพื่อสลัดความเครียดออกไป แต่หากเจอประสบการณ์แย่ ๆ หนักเข้า เธอก็ไม่ลังเลที่เข้าร้านเหล้า ซดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วลืมเรื่องร้าย ๆ ไป
ปัจจุบัน เธอมีฉายาว่าเป็น “อัศวิน Spindrift” ที่มีกระบวนท่าต่อสู้เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งประยุกต์มาจากท่าเต้นรำของตระกูล Lawrence แต่แม้เธอจะมีคุณสมบัตินักรบอย่างครบครั้น เธอยังคงเรียนรู้วิธีการเปิดใจ การปฏิบัติตัวอย่างอ่อนโยน และค้นหาเส้นทางของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตระกูล Lawrence ไม่เคยสอนเธอมาก่อน ด้วยสาเหตุดังกล่าว ไม่แน่ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เทพเจ้าแห่งน้ำแข็ง ได้มีความประทับใจในตัว Eula แล้วเธอได้รับวีชั่นในที่สุด