ปัญหาคาราคาซังที่ผู้เล่นทั่วโลกต้องเผชิญในเกมแนว Online หรือ Multiplayer ทั้งหลายที่อยู่กันมานานก็คือเรื่องของเหล่าผู้เล่น นอกจากจะต้องพบความเสี่ยงที่จะถูกโกงซึ่งหน้าด้วยการ Hack ต่าง ๆ แล้ว ผู้เล่นสไตล์ Toxic ที่สร้างมลภาวะให้กับชุมชนหรือสังคมคนเล่นเกมก็เป็นสิ่งที่ทำลายเกมนั้น ๆ ลงได้เหมือนกัน ซึ่งหลายคนก็พยายามหาทางเอาคืนผู้เล่นหรือกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเจ็บแสบหลายอย่าง จนบางครั้งก็อาจจะลืมนึกไปว่า มันยังมีวิธีที่ดีกว่านี้อยู่
แน่นอนว่าการเผชิญหน้ากับผู้เล่นจอม Toxic ไม่ว่าจะในระหว่างการเล่นเกมหรือในชุมชนล้วนสร้างความขุ่นเคืองให้กับทุกคน ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเล่นที่ไม่แฟร์และเอารัดเอาเปรียบ หรือการใช้คำพูดคำจาที่ไม่เคารพผู้เล่นอื่นไม่ว่าจะฝ่ายไหน จนบางครั้งก็ลามปามไปถึงสื่อ Social Network กลายเป็นดราม่าลูกย่อม ๆ ไปในบัดดลได้ในที่สุด
ซึ่งสิ่งที่หลายคนภาวนาและอยากให้เกิดขึ้นก็คือ อยากให้เจ้าพวก Toxic เหล่านี้ตายดับไปเสียไกล ๆ หรือถูกลงโทษให้เงียบปากไปเสียที แน่นอนแหละว่าการที่คนผิดถูกลงโทษมันจะทำให้เรารู้สึกดี ใคร ๆ ก็อยากเห็นการจัดการขั้นเด็ดขาดของคนที่ระรานคนอื่นแทบทั้งนั้น
แต่นั่นเป็นทางออกที่ดีจริง ๆ หรือเปล่า?
ในสังคมของเรานั้น ผู้คนต่างมีที่มาแตกต่างกันแบบร้อยพ่อพันแม่ เลี้ยงดูและให้คำแนะนำไม่เหมือนกัน รวมไปถึงยังมีชุดความคิดที่ไม่เหมือนกันด้วย ทำให้บางคนอาจจะรู้สึกสนุกหรือชื่นชอบการได้ด่าทอผู้เล่นอื่นในเกม หรืออาจจะมาจากการที่คนเหล่านั้นชื่นชอบที่จะเล่นเกมในสไตล์ของตัวเองมากเกินไปจนลืมนึกถึงคนอื่น เลยแสดงอาการ Toxic ออกมา
เปรียบเทียบกับประสบการณ์ที่ตัวผู้เขียนเองได้ประสบมาจากเกมแนวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะแนวต่อสู้ FPS หรือ MOBA ไม่ว่าแนวไหนหรือสังคมใด ๆ ก็ต้องเจอคนที่มีความ Toxic ปะปนมาอยู่แล้ว หรือแม้แต่เกมการ์ดเองที่เราจะสัมผัสความ Toxic ได้ผ่านทางวิธีการเล่นที่เราเรียกกันว่า BM หรือ Bad Manner เวลาที่ตัวเองได้เปรียบมาก ๆ แถมบางทียังมีการหลังไมค์มาด่าเวลาที่เล่นแพ้อีกด้วย
บางครั้งพวก Toxic ก็ทำให้เรารู้สึกอยากปาจอยหรือปาอย่างอื่นใส่หน้ามันเหลือเกิน
ถึงจุด ๆ หนึ่ง ก็เริ่มรู้สึกทนไม่ไหว เพราะมันเกาะกินจิตใจมากเหลือเกิน จนเล่นเกมไม่สนุกเพราะไปโฟกัสกับตัวบุคคลเหล่านี้แทนความสนุกที่ได้รับจากเกมไปแทน ซึ่งช่วงหนึ่งของชีวิตผู้เขียนนั้น ต้องพึ่งพา Social Network ในการระบายความคับข้องใจจากการเล่นเกมจนเพื่อน ๆ แทบจะหนีหน้าหายไปจากชีวิตหลายคนไปเลย ซึ่งเพราะการที่เราแคร์เพื่อน ๆ นี่แหละทำให้เราต้องย้อนกลับมาคิดอีกครั้ง พร้อมกับรับฟังคำแนะนำจากผู้ใหญ่หลาย ๆ คน
ว่าถ้าหากเปลี่ยนแปลงที่คนอื่นไม่ได้ ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองก่อนจะดีที่สุด
และนั่นทำให้ผู้เขียนเองเริ่มปรับเปลี่ยนมุมมองและวิธีคิดให้เป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น(ไม่ใช่บวกแบบไปชกต่อยกับพวกมันนะ อันนี้ไม่ถูกต้อง) เริ่มรู้จักปล่อยวางมากขึ้น ดีกว่าที่ต้องมาเปลืองแรงเปลืองพลังงานในการโต้เถียงหรือเผชิญหน้ากับพลังลบของคนเหล่านี้ ปล่อยให้สังคมหรือระบบจัดการเองจะดีกว่า
และเมื่อเราเริ่มรู้จักปล่อยวางได้มากขึ้น ความสบายใจก็จะตามมา ซึ่งการปล่อยวางที่ว่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปล่อยให้พวกผู้เล่น Toxic พวกนี้แผลงฤทธิ์ได้ การ Report ผู้เล่นที่มีพฤติกรรมแย่ ๆ เหล่านี้ก็เป็นการเสริมสร้างสังคมให้น่าอยู่ขึ้นมาได้ เพราะมันจะทำให้พวกเขารู้สึกว่า ถ้าหากฝืนกฎของสังคม ก็จะถูกรายงานและลงโทษในเวลาต่อมานั่นเอง และก็น่าดีใจที่หลาย ๆ เกมมีการจัดการและกำราบผู้เล่นที่ Toxic เหล่านี้อยู่เรื่อย ๆ เช่น Rainbow Six Siege ที่มีการลงโทษพร้อมประจานผู้เล่นที่ฝ่าฝืนกฎของเกมให้เห็น เป็นต้น
ปุ่ม Report ไม่ได้มีไว้สำหรับประดับเท่านั้น อย่าลังเลที่จะใช้มันเพื่อความผาสุขของเหล่าเกมเมอร์
หรือถ้ายังปล่อยวางไม่ได้ เห็นข้อความทีไรมือมันสั่นจนเกิดอาการโมโหขึ้นมาอีก สิ่งที่ควรทำก็คือตัดมันทิ้งไปเลย อย่าไปสนใจสิ่งแย่ ๆ ที่ฝ่ายตรงข้ามยัดเยียดมาให้ ซึ่งก็โชคดีที่บางเกมเราสามารถกดปิด Chat รวมได้เพื่อป้องกันไม่ให้เห็นข้อความจุดอารมณ์โกรธขึ้นมาได้บ้าง แต่ถ้าตัว Toxic นั้นดันอยู่ทีมเดียวกับเราแล้วต้องใช้การ Chat ในการสื่อสารกับทีมแล้ว อันนี้ก็ต้องผืนฝึกความอดทนแบบหน้าแห้งกันไป
ซึ่งพอถึงจุด ๆ หนึ่งเราจะรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้จะรบกวนเราได้น้อยลง เราจะเริ่มฉุกคิดต่อการกระทำต่าง ๆ ในชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบมากขึ้น พูดง่าย ๆ คือเราจะเริ่มเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความยุ่งยากในชีวิตน้อยลง เพราะเราได้รู้แล้วว่าการโต้เถียงกับพวก Toxic เพื่อเอาชนะนั้นเสียเวลาในชีวิตมากแค่ไหน หรือบางครั้งอาจจะทำให้เรา Try Hard กับมันน้อยลง และมีความสุขกับการเล่นเกมในแบบที่เราต้องการได้มากขึ้นด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจจะงง ๆ อยู่ว่า แล้วจะต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมได้กันแน่? ถ้าอิงจากประสบการณ์ของผู้เขียนเองแล้ว ก็คือการลำดับความสำคัญในชีวิตว่ามีอะไรที่สำคัญกว่าการทุ่มเถียงกับคน ๆ หนึ่งที่เราไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าบ้าง และเมื่อลองไล่เรียงแล้วรู้สึกว่ามีมากพอ(มีหน้าที่การงานที่สำคัญ หรือเอาเวลาส่วนนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่นหรือซ้อมเพื่อพัฒนาฝีมือ) เราก็จะเลิกสนใจมันไปเองในที่สุด ซึ่งในช่วงแรกนั้นจะยากหน่อย เพราะเราต้องจัดการกับ Anger Management ของเราเองให้ได้ด้วย หรือไม่ก็ให้เพื่อนช่วย ๆ กันเตือนไม่ให้ก่อเรื่อง
ซึ่งถ้าหากได้เพื่อนดีและคอยช่วยเหลือกัน ก็จะช่วยให้การปล่อยวางนี้สำเร็จได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง
สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็อยากจะบอกกับเพื่อน ๆ ทุกคนว่า เมื่อเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน และอย่าคาดหวังให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงไปในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน เพราะทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งสิ้น
และการกระทำที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้เร็วที่สุดนั้นก็คือการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของเราเองนั่นแหละครับ
