Tales of Kenzera: ZAU ผลงานเกมชิ้นแรกจากทีมงาน Surgent Studios สตูดิโอนักสร้างสื่อบันเทิงจากประเทศอังกฤษที่ก่อตั้งโดย Abubakar Salim หรือถ้าบอกว่าเป็นผู้ให้เสียงพากย์ตัวละครเอกจาก Assassin’s Creed Origins อย่าง Bayek หลายคนก็น่าจะรู้จักกันมากกว่า
ตัวเกมนั้นเปิดตัวในงาน The Game Awards เมื่อปีที่แล้ว (พร้อมการทายเกมผิดของทีมงาน GamingDose ของเรา) และถือเป็นผลงานเกมที่หลายคนจับตามอง ล่าสุดเราได้รับเชิญให้ร่วมทดสอบตัวเกมกันแล้ว ซึ่งตัวเกมมีจุดเด่นอะไรบ้างเราขอหยิบยกมาเล่าให้ฟังกัน
Tales of Kenzera: ZAU เป็นผลงานที่เหมือนบันทึกส่วนตัวของ Abubakar Salim ที่บอกเล่าเรื่องราวการสูญเสียพ่อของเขา กลั่นกรองออกมาเป็นการเล่าเรื่องผ่านผลงานเกม โดยตัวเกมมาในแนว Metroidvania กับการผจญภัยของ Shaman หนุ่มนามว่า Zau (ซาวอ์) ที่ทำข้อตกลงกับ เทพเจ้าแห่งความตายนาม Kalunga กับการออกไล่ล่าจัดการ Great Spirit สามตนเพื่อแลกกับการคืนชีวิตของพ่อที่ตายไป
โดยรวมแล้วในแง่ของเกมการเล่น Tales of Kenzera: ZAU นั้นไม่ได้ผลักดันมาตรฐาน หรือมีไม้เด็ดอะไรมากนัก ในด้านของระบบ Gameplay นั้นคุณจะได้เห็นสิ่งที่เห็นมาแล้วหลายครั้งในเกมแนวนี้ เช่นการแก้ปริศนา การปลดล็อก Skill ใหม่ ๆ เพื่อหาทางไปต่อ หรือแม้แต่ฝั่งระบบการต่อสู้ที่เรียกว่าตัวเกมทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
ส่วนที่เป็นจุดเด่นตัวชูโรงของเกมก็คือฝั่งของการเล่าเรื่องและการออกแบบงานศิลปะต่าง ๆ ในเกม ตัวเกมนั้นใช้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมของแอฟริกาอัดแน่นในทุกภาคส่วน ทั้งงานกราฟิก เสียงดนตรี และตำนานต่าง ๆ ตลอดการเล่นนั้นเราจะสัมผัสได้เลยว่านี่เป็นผลงานที่ทำด้วยใจรักจริง ๆ และเราก็อดจะเอาใจช่วยไม่ได้แม้มันจะมีจุดด้อยอยู่บ้างในบางส่วน
อีกส่วนที่นับได้ว่าเป็นข้อดีสำคัญของตัวเกมคือ ความชัดเจนในแง่ของการนำเสนอ แม้ตัวเกมจะไม่ได้ผลักดันมาตรฐานใหม่ของวงการ แต่ทีมงานมีเป้าหมายที่ต้องการและนำเสนอจุดเด่นของผลงานตัวเองแบบเต็มที่ และจัดเต็มทุกอย่างแบบไม่มียืดเยื้อในเรื่องของเนื้อหาต่าง ๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็น่าจะเป็นการที่ Zau ตัวเอกของเรานั้นมีความสามารถพื้น ๆ ง่าย ๆ อย่างการกระโดดสองชั้นและการ Dash มาเลยตั้งแต่ต้นเกม ในขณะที่ถ้าเป็นเกมอื่นความสามารถง่าย ๆ แบบนี้ก็คงถูกยัดเอาไว้ให้เราไปตามหาปลดล็อกกันในช่วงแรก ซึ่งการทำตัว Zau เคลื่อนที่ได้แบบพริ้วไหวตั้งแต่ต้นก็ทำให้การเดินทางการกระโดดฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ นั้นมันสนุกตั้งแต่ต้นเกมทันที
อีกจุดก็คือแผนที่ในเกมนั้นถูกเปิด Layout มาเลยตั้งแต่ต้นเกม ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องเดาว่าต้องเดินทางไปทางไหนและสามารถมุ่งหน้าไปยังภารกิจได้เลยไม่มีหลง ซึ่งก็ต้องเตือนกันก่อนว่าเกม ๆ นี้ไม่ได้เน้นการสำรวจแบบ Metroidvania เกมอื่น ๆ โดยรวมแล้วประสบการณ์การเล่นเกือบทั้งหมดนั้นแทบจะเป็นเส้นตรง มีการ Back Track กลับไปยังโซนเก่า ๆ เพื่อปลดล็อกของซ่อนเพียงเล็กน้อยมาก ๆ เท่านั้น ซึ่งก็คงน่าผิดหวังสำหรับสายสำรวจ แต่สายเวลาน้อยเน้นเนื้อเรื่องม้วนเดียวจบก็คงจะถูกใจกันแทน
การต่อสู้ในเกมก็ไม่ได้ลึกล้ำแต่ก็มีความสนุกผ่านการสลับไปมาของการใช้ หน้ากาก หรือ Stance สองรูปแบบที่ Zau มี หน้ากากพระอาทิตย์เน้นการโจมตีระยะประชิด และหน้ากากพระจันทร์เน้นการโจมตีระยะไกล ซึ่งตัวเกมจะผลักดันให้เราต้องทำการสลับไปมาระหว่างการต่อสู้ อาจไม่ลึกล้ำมีคอมโบเทพ ๆ แต่ก็สนุกใช้ได้เหมือนกัน
โดยรวม ๆ แล้ว Tales of Kenzera: Zau จะใช้เวลาราว ๆ 10 ชั่วโมงในการจบเกมเรียกได้ว่ามีแต่เนื้อล้วน ๆ ไม่มีน้ำ เนื้อเรื่องจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง เราจะได้ Skill ใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ พบเจอปริศนาและอุปสรรคใหม่ ๆ ตลอดทาง และแม้ตัวเกมอาจจะไม่ได้ลึกล้ำจนถึงขั้นเป็นมาตรฐานใหม่หรือสร้างกระแสฮือฮาในวงการเกม แต่ Tales of Kenzera: Zau นำเสนอประสบการณ์ที่เต็มอิ่ม ม้วนเดียวจบ ซาบซึ้งใจ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาของเกมที่เรียกได้ว่าเป็นราคาเกมอินดี้ตามคุณภาพของเนื้องาน
ตัวเกมจะวางจำหน่ายบนเครื่อง PC, PlayStation 5, Xbox Series X, Xbox Series S, และ Nintendo Switch ในวันที่ 24 เมษายน ที่จะถึงนี้ในราคาประมาณ 580 บาทเท่านั้น