หากเราพูดกันถึงสิ่งที่กลายมาเทรนด์ในวงการเกมในยุคปัจจุบันนี้ เรื่องหนึ่งที่ไม่หยิบมาพูดถึงก็คงไม่ได้ก็คือการนำเอาเกมดังในยุคเก่ามาสร้างใหม่ในแบบ Remake ปรับระบบการเล่นให้เข้ากับยุคสมัย ดึงดูดทั้งแฟนเก่าที่รักใคร่เกมนี้มานาน กับแฟนใหม่ที่อยากจะเข้ามาสู้โลกของเกมนี้ในแบบที่ไม่ต้องลำบากลำบนมากนัก เรียกว่าเป็นสิ่งใหม่ที่ผู้เล่นและผู้พัฒนาต่างให้ความสนใจอยากมากในยุคนี้
ถ้าจะให้ว่ากันตามตรง เกมแบบ Remake นั้นมีเสน่ห์ที่เกมใหม่หรือเกมในยุคเก่าไม่มี และเป็นโจทย์ที่ท้าทายผู้พัฒนาอย่างมหาศาล นั่นก็คือความน่าสนใจในด้านที่ว่าจะจับเอาเกมดังในอดีตที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนนั้นมาดัดแปลง แก้ไขใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างไร โดยที่ไม่สูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมไป หรือเสียให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ผู้เล่นได้รู้สึกถึงความร่วมสมัยและความสนุกจากยุคก่อนอย่างลงตัวนั่นเอง
ซึ่งนั้นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผู้เขียนและอีกหลาย ๆ คนให้ความสนใจในเกมแบบ Remake มากเป็นพิเศษ
เพราะมันมีโจทย์ที่ท้าทายความสามารถในการพัฒนาถูกตั้งขึ้นมาแล้วแน่นอนก็คือ “การทำใหม่โดยที่ยังรักษาแก่นดั้งเดิมของเกมเอาไว้ได้” แค่นี้ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดคนเล่นได้มากพอแล้ว
แถมในปีนี้เราก็มีเกม Remake ชั้นยอดออกมาให้ได้สัมผัสกันก่อนแล้วอย่าง Resident Evil 2 Remake ที่ออกแบบระบบ Gameplay มาได้สุดยอด มีความท้าทายชวนให้เล่นซ้ำหลายรอบ และยังมีอัพเดตเล็ก ๆ มาให้ได้สนุกกันอีกหน่อย แม้จะน่าเสียดายที่เนื้อหาของเกมและส่วนของการเล่าเรื่องนั้นด้อยกว่าภาคต้นฉบับอย่างเห็นได้ชัดก็ตาม แต่ก็เป็นเกมที่ควรค่าที่จะเล่นทั้งผู้เล่นใหม่และเก่าอย่างยิ่ง จนเกิดกระแสอยากให้ทาง Capcom นำเกมดังในยุคเก่ากลับมาทำใหม่อีกครั้งมากมาย เช่น Resident Evil 3 หรือ Dino Crisis เป็นต้น
และในอนาคตเราก็จะมีเกมอย่าง Final Fantasy VII Remake มาให้ได้สนุกกันในปีหน้านี้อีกด้วย เรียกว่าใครทำเกมแบบ Remake ออกมาดีก็น่าจะครองใจคนเล่นคนซื้อไปได้ไม่ไม่ยากนัก
แน่นอนว่าแม้การนำเกมเก่ามาทำใหม่จะมีข้อดีอันมหาศาล แต่บางครั้งมันก็ทำให้ตัวผู้เขียนเองรู้สึกถึงเรื่องหนึ่ง ว่าหากวันหนึ่งเหล่าผู้พัฒนาพร้อมใจกันส่งเกม Remake ของยุคเก่าลงตลาดพร้อมกันแบบต่อเนื่อง ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ทีมพัฒนาเหล่านี้ “หมดมุก” แล้วหรือเปล่า?
Dino Crisis ถือเป็นเกมที่แฟน ๆ อยากให้ทาง Capcom นำกลับมาทำใหม่มากที่สุดอีกหนึ่งเกม
เพราะเอาจริง ๆ สำหรับผู้เขียน การมีเกม Remake ของเก่ากลับมาใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่มันก็อาจกลายเป็นว่าถ้าเกมแบบ Remake ติดตลาดมากจริงๆ ก็น่าจะทำให้มีค่ายเกมอื่น ๆ เห็นว่าเกม Remake ยังไงก็ขายได้ จึงปล่อยเกมแบบ Remake ออกมาเต็มไปหมด กลายเป็นว่าไม่มีเกมในชื่อใหม่หรือภาคใหม่ออกมาให้เห็นกัน จนตัวเลือกในตลาดน้อยลงไปอีก
กลายเป็นว่าพอเราต้องการอยากจะเล่นเกมใหม่ ๆ ชื่อใหม่ก็ดันมีแต่เกม Remake ออกมาล้นตลาดอีก
จุดนี้ก็พอจะทำให้สามารถมองกลับไปได้ว่า ความคิดสร้างสรรค์ของเหล่าผู้พัฒนาเกมในยุคนั้นถดถอยลงไปมากขนาดไหน จนถึงกับต้องเข็นเกมเก่าออกมาทำใหม่ขายใหม่แบบนี้ หมดไอเดียในการพัฒนาเกมกันแล้วหรือไงอะไรแบบนั้น
ถ้า Final Fantasy VII Remake ออกมาไม่ปัง ก็อาจเป็นคราวดับของ Square Enix ก็เป็นได้่
และที่สำคัญอีกอย่างที่จะทำให้คุณค่าของเกมแบบ Remake ลดลงก็คือ ตัวเกมมีคุณภาพไม่ถึงที่แฟน ๆ คาดหวังเอาไว้ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเกมแบบ Remake ก็เท่ากับว่าเกมในเวอร์ชั่นดั้งเดิมนั้นเจ๋งและน่าสนใจมากพอที่จะนำกลับมาทำใหม่อีกครั้งได้ ความคาดหวังที่อยากให้เกมยอดเยี่ยมกว่าเดิมจะสูงกว่าปกติ และเมื่อมันทำได้ไม่ถึงจุดที่ต้องการ กระแสของเกมนั้นจะถูกตีกลับทันที
และนั่นทำให้เราได้เห็นตัวเลือกอื่น ๆ ที่น่าสนใจของทางผู้พัฒนาที่ต้องการนำเกมกลับมาขายใหม่อีกรอบในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่การ Remake เช่นการปรับภาพกราฟฟิก ความละเอียดอื่น ๆ ใหม่เป็นแบบ Remastered หรือยกเครื่องใหม่ทั้งตัวละครและเนื้อเรื่องกลายเป็นเกมแบบ Reboot ไปเลยก็ดูจะน่าสนใจมากกว่า เช่น Tomb Raider ที่เปิดตัวภาคใหม่ในปี 2013 แล้วออกมาปังอย่างเหนือความคาดหมายนั่นเอง
ถึงจุดนี้ก็อย่าเพิ่งคิดว่าตัวผู้เขียนเป็นคนที่ต่อต้านการ Remake นะครับ เพราะเอาจริง ๆ Final Fantasy VII Remake คือหนึ่งในเกมที่รอคอยมากที่สุดของปีหน้ากันเลย และจะยินดีมากด้วยที่จะมีโอกาสได้เห็นภาคอื่น ๆ ถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง เพียงแต่ว่าสิ่งที่ต้องระวังให้ดีคือความถี่และการสร้างคุณภาพให้ไปถึงจุดที่แฟนเกมคาดหวังเอาไว้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่สร้างสมมาตั้งแต่ยุคที่เกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมออกมาจะพังทลายลงไปได้ในพริบตา
สรุปสุดท้ายในจุดนี้ ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าเทรนด์การ Remake เกมเก่ามาใหม่นั้นน่าจะอยู่คู่กับวงการไปอีกนาน เพียงแต่ทางทีมพัฒนาต้องใส่ใจต่อตัวเกมและแฟนเกมมากเท่าที่จะทำได้ เพราะอย่างที่บอกว่าโจทย์ของการ Remake คือทำอย่างไรให้แฟนเกมทั้งสองยุคสามารถเอ็นจอยและชื่นชมกับมันได้
หากไม่สามารถตีโจทย์ข้อนี้ให้แตกได้ ก็เหมือนกับการหยิบเอาความทรงจำที่สวยงามมาทำลายทิ้งอย่างไม่ใยดี สร้างรอยบาดแผลให้กับแฟนเกมจนยากจะฟื้นตัวขึ้นมาก็เป็นได้ครับ
