BY Nuttawut Apiratwarakul
20 Sep 22 2:53 pm

ย้อนอดีตเหตุการณ์ดัง Half-Life 2 ถูกขโมย Source Code โดยวัยรุ่นเยอรมัน กับความเสียหายมูลค่าเก้าพันล้านบาท

84 Views

ขณะที่ข่าวการหลุดของเกมดังกำลังเป็นที่พูดถึงไปทั่วทั้งโลกอินเตอร์เน็ต ย้อนหลังกลับไปปี 2003 หนึ่งในเกมที่คนทั้งโลกเฝ้าคอยอย่าง Half-Life 2 ก็เคยถูกปล่อยหลุดมาแล้วบนอินเตอร์เน็ตก่อนวันวางจำหน่ายจริงถึง 1 ปี และไม่ได้หลุดแค่วิดีโอ แต่หลุดมาทั้ง Source Code เกมแบบเต็ม ๆ 

เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น และเรื่องราวหลังการหลุดของข้อมูลดังกล่าวมีอะไรตามมา วันนี้เราขอพาทุกคนย้อนเวลากลับไปดูหนึ่งในเหตุการณ์การหลุดของข้อมูลในวงการวิดีโอเกมที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดของยุค

กับมหากาพย์ Hacker หนุ่มชาวเยอรมันที่ถูกหน่วย SWAT บุกเอาปืนมาจ่อหัวถึงบ้าน ถูกเรียกสัมภาษณ์งานโดย Gabe Newell โดนหลอกให้นั่งเครื่องไปอเมริกาแต่ถูกบุกช่วยเอาไว้โดยตำรวจเยอรมัน เป็นการรั่วไหลของข้อมูลเกมที่ประเมินค่าความเสียหายสูงถึงเก้าพันล้านบาท แต่เจ้าตัวคนทำเริ่มเรื่องทั้งหมดโดยไม่สนใจเงินแม้แต่บาทเดียว วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องเหล่านี้ให้คุณฟัง

Half Life Gordon Freeman

Half-Life 2 เกมที่ทั้งโลกรอคอย

การพัฒนาตัวเกม Half-Life 2 เริ่มต้นหลังเกมภาคแรกวางจำหน่ายในปี 1998 และในขณะที่เกมสมัยนี้มีการเปิดตัวและการตลาดยาวนานก่อนเกมออกจริงหลายปี วิดีโอเกมในยุคนั้นมักจะเปิดตัวและวางขายตามมาอย่างรวดเร็ว และแม้ข่าวลือเกี่ยวกับ Half-Life 2 จะถูกพูดถึงมาตลอดหลังเกมภาคแรกประสบความสำเร็จแบบล้นหลาม แต่ก็ไม่มีข้อมูลใดเกี่ยวกับเกมถูกปล่อยออกมาแม้แต่นิดเดียว

กาลเวลาล่วงเลยจนมาถึงงาน E3 ในปี 2003 ซึ่งตัวเกม Half-Life 2 ถูกเปิดตัวแบบสายฟ้าแลบ สร้างความตื่นเต้นไปทั่วทั้งวงการ และยิ่งกำหนดการวางจำหน่ายที่ถูกเปิดเผยก็คือเดือน กันยายน 2003 หรืออีกไม่กี่เดือนหลังการเปิดตัว เกมเมอร์ก็ต่างเฝ้ารอคอยจะได้สัมผัสกับตัวเกม

แต่แล้วเวลาก็ผ่านมาถึงเดือนกันยายน แต่ค่าย Valve ก็ไม่ได้วางจำหน่ายตัวเกม Half-Life 2 ตามการประกาศในตอนแรก แถมไม่มีการออกมาชี้แจงใด ๆ ว่าทำไมตัวเกมถึงถูกเลื่อนการวางขาย ผลที่ตามาก็คือแฟนเกมต่างคาดเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ ถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเกมเงียบหายไปกับสายลมและถูกเลื่อนการวางจำหน่าย

แฟนเกมจากเยอรมัน

หนึ่งในแฟนเกมตัวยงของเกมก็คือ Axel Gembe วัยรุ่นจากเยอรมนี เขาประกาศตัวว่า Half-Life ภาคแรกเป็นเกมที่เขาชื่นชอบมากที่สุดในชีวิต และในขณะที่ข่าวสารของเกมภาคสองเงียบหายไป Gembe ก็เกิดความคิดว่าถ้าเขาเจาะเข้าไปใน Server ของ Valve ได้ เขาก็จะได้รู้ข้อมูลของตัวเกมภาค 2 

นอกจากเขาจะรู้ข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับเกมที่เขาเฝ้าคอยแล้ว เขาก็สามารถเอาข้อมูลดังกล่าวไปอวดเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย มันเป็นความคิดงี่เง่าของเด็กวัยรุ่นที่ไม่ได้คิดอะไรให้ดีเสียก่อน แต่สิ่งที่ Gembe กำลังจะทำมีต้นตอมาจากความต้องการจะได้รับการยอมรับและความคึกคะนองของวัยรุ่นเกมเมอร์ ไม่ใช่การมุ่งร้ายสร้างความเสียหายให้บริษัทหรือต้องการจะข่มขู่เรียกเงินจาก Valve แต่อย่างใด

หลังได้ไอเดีย Gembe ก็เริ่มลงมือหาทางเจาะเข้าไปในฐานข้อมูลของ Valve ในการให้สัมภาษณ์ภายหลัง Gembe ระบุว่าเขาหัดเขียน Malware เองตั้งแต่ยังเด็ก โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากการที่เขาโหลดโปรแกรม Warcraft 3 key generator หรือตัวปั๊ม CD Key ของเกม Warcraft 3 มาใช้งานและติดไวรัสเข้าเสียเอง และแทนที่จะลบโปรแกรมและล้างคอมตัวเองทิ้ง เขาก็จัดการลงมือนั่งแกะ Code ของ ไวรัสตัวดังกล่าวและเริ่มมีงานอดิเรกเป็นการเขียนโปรแกรม Malware โดย Gembe ระบุว่าช่วงแรกเขาพัฒนา Malware ขึ้นมาเพื่อดักตรวจ CD Key เพื่อขโมยโค๊ดเกมมาไว้ใช้เล่น 

Gembe อาศัยช่องโหว่ใน Server ของ Valve เจาะเข้าไปถึงภายใน หลังใช้เวลาอยู่ราว 1 สัปดาห์เขาก็ไปเจอเข้ากับไฟล์ Source Code ของเกม Half-Life 2  วันที่ 19 กันยายน ปี 2003  Gembe ทำการดาวน์โหลดไฟล์ Source Code ทั้งหมดออกมา โดยที่ยังไม่มีใครรู้

การหลุดครั้งใหญ่ของวงการเกม

2 ตุลาคม ปี 2003 Gabe Newell ประธานบริษัท Valve ตื่นขึ้นมาและค้นพบว่า Source Code ของเกม Half-Life 2 ถูกเจาะและถูกปล่อยออกมาสู่อินเตอร์เน็ต ผลที่ตามมาคือความเสียหายขนาดใหญ่ที่ยากเกินประเมินมูลค่า หลังการสืบหาเป็นการภายในชั่วระยะหนึ่งสุดท้าย Gabe Newell ก็ตัดสินใจออกมาโพสขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้เล่น ในการสืบหาตัวการ 

แม้จะเป็นคนเจาะเข้าไปขโมย Source Code มาด้วยตัวเองแต่ Gembe ก็ยืนยันจนถึงทุกวันนี้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ปล่อย Source Code ออกมาสู่อินเตอร์เน็ต โดย Gembe ระบุว่าเขาเปิดเผยไฟล์ทั้งหมดให้กับคนรู้จักอีกหนึ่งคนด้วยความไว้ใจ และ Code ทั้งหมดก็หลุดสู่โลกภายนอกตามมา

ความเสียหายของการหลุดของข้อมูลดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับ Valve อย่างมหาศาล  ที่ผ่านมาการพัฒนา Half-Life 2 ใช้งบถึงเดือนละ 1 ล้านเหรียญ พนักงานจำนวนมากสูญเสียแรงใจที่ตัวเกมหลุดสู่โลกภายนอกทั้งที่เกมยังไม่พร้อม บางคนถึงกับกังวลว่าการหลุดของ Code จะทำให้ Valve ต้องปิดตัวลง มูลค่าความเสียหายรวมที่ถูกประเมินในการหลุดของ Source Code ครั้งนี้คือเม็ดเงินจำนวน 250 ล้านเหรียญ หรือราว 9 พันล้านบาท

คนร้ายที่หวนกลับมา

การสืบสวนหามือคนทำผิดเป็นไปอย่างยากลำบาก เบาะแสจากแฟน ๆ ไม่มีชิ้นไหนสาวไปถึงมือคนทำผิดตัวจริง แต่เรื่องราวทั้งหมดก็เปลี่ยนไปในตอน 6 โมงเช้าของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ปี 2004 หลัง Valve ได้รับ Emai หนึ่งฉบับที่ไม่มีหัวข้อ ระบุชื่อคนส่งเพียงแค่ว่า “Da Guy” หรือคนที่นายก็รู้ว่าใคร

ตัว mail กล่าวทักทาย Gabe Newell พร้อมแนบเอกสารภายในสองฉบับที่ถูกเจาะ 5 เดือนหลัง Source Code หลุดและเบาะแสทุกอย่างดูจะถึงทางตัน คนร้ายตัวจริงก็กลับมาเคาะประตูบ้านบริษัท Valve ถึงหน้าประตู

Gembe ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า email ถูกส่งไปเพราะเขารู้สึกผิดกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น และอยากให้ Valve ได้รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจสร้างความเสียหายให้บริษัท ขณะเดียวกัน Gembe ก็มองเห็นโอกาสและมีความคิดแบบงี่เง่าขึ้นมาว่า Valve อาจจะอยากจ้างงานเขาก็ได้เมื่อเห็นความสามารถของเขาในการเจาะและเข้าถึงข้อมูลภายใน

Half-Life

กับดักของValve

Gembe ได้รับจดหมายตอบกลับไม่กี่วันหลังจากนั้นจาก Gabe โดยตรง ตัวเนื้อหาแสดงความสนใจจะจ้างงาน Gembe และสอบถามว่า Gembe พร้อมจะรับการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์หรือไม่ แต่สิ่งที่ Gembe ไม่รู้ในตอนนั้นคือทุกอย่างล้วนเป็นแผนของ Valve และ FBI ในการล้วงเอาคำสารภาพของ Gembe 

การสัมภาษณ์ถูกมีขึ้นโดย  Alfred Reynolds ผู้พัฒนา Steam และ Counter-Strike เป็นผู้สอบถามข้อมูลจาก Gembe โดยเนื้อหาการสอบถามก็มีทั้งวิธีที่ Gembe เข้าถึงข้อมูลภายใน  และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการสัมภาษณ์มีขึ้นเป็นเวลา 40 นาที ก่อนที่ Valve จะเสนอให้ Gembe บินมาสัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่ Valve แบบตัวต่อตัว

แน่นอว่าข้อเสนอทุกอย่างเป็นเพียงแค่กับดักเพื่อหลอกล่อ Gembe ให้บินมาเหยียบแผ่นดินอเมริกาเพื่อรับโทษทางกฎหมายแบบเต็มพิกัด ขณะที่ FBI และ Valve กำลังหาทางจัดการเรื่อง Visa ให้กับ Gembe พวกเขาก็เป็นกังวลในเรื่องการที่ Gembe อาจจะยังเข้าถึง Server ภายในของพวกเขาอยู่ และอาจสร้างความเสียหายใหญ่ขึ้นมาได้อีก  จึงมีการติดต่อไปยังตำรวจเยอรมนีถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

รอดพ้นเงื้อมมือ FBI

ไม่นานหลังจากนั้น Gembe ก็ตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมปากกระบอกปืนไรเฟิลที่เล็งมายังตัวเขา “ลุกมาจากเตียงและอย่าแตะต้องคีย์บอร์ด” 

“นายถูกจับข้อหาเจาะเข้าไปในระบบของบริษัท Valve และขโมย Source Code เกม Half-Life 2 ความเสียหายที่นายทำมีมูลค่ากว่า 250 ล้านเหรียญ”

Gembe ปฎิบัติตามคำสั่งแต่โดยดี และร้องขอทานอาหารเช้าซึ่งตำรวจก็ให้การยินยอม ก่อนจะถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจในเมือง

Gembe ยังจำได้ดีตอนนั่งรอในห้องและผู้กำกับเดินเข้ามาบอกเขาว่า “นายรู้ตัวรึเปล่าว่านายโชคดีขนาดไหนที่เราไปถึงตัวนายก่อนที่นายจะขึ้นเครื่องบินไปอเมริกา” 

เพราะถ้าเท้าแตะพื้นดินเมื่อไหร่ Gembe จะต้องเผชิญโทษหนักเกินกว่าที่ศาลในเยอรมนีจะตัดสินพิพากษาเขาอย่างแน่นอน

3 ชั่วโมงหลังจากนั้น Gembe ถูกสอบสวนในสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนแรกตำรวจเยอรมันคิดว่าเขาเชื่อมโยงกับ Malware ชื่อดังในตอนนั้นอย่าง Sasser-Worm ที่สร้างความเสียหายใน Windows XP และ Windows และกระจายไปทั่วโลก (ผู้สร้าง Sasser เป็นวัยรุ่นเยอรมันอายุ 18 ปี เช่นกัน) 

แต่หลังจากตำรวจแน่ใจว่า Gembe ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Sasser การสอบสวนก็พุ่งเป้าไปที่การโจมตี Valve ซึ่งตัว Gembe ก็ยอมรับสารภาพและเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดแต่โดยดี 

Gembe ถูกคุมตัวอยู่นาน 2 สัปดาห์ และได้รับการปล่อยตัวหลังตำรวจแน่ใจว่าเขาจะไม่หลบหนีไปไหน หลังจากนั้น Gembe ก็ได้รับคำสั่งให้เข้ามารายงานตัวทุกเดือนเป็นเวลา 3 ปีก่อนการพิจารณาคดีของเขาจะเริ่มขึ้น

Gabe Newell

ชีวิตใหม่ของGembe

Gembe ใช้เวลาหลังจากนั้นเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เขาเข้าร่วมกับโครงการฝึกงานจนสำเร็จและเข้าทำงานในบริษัทด้านความปลอดภัยในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ ในการพิจารณาคดีในเยอรมันศาลตัดสินให้ Gembe ไม่มีความผิดในการปล่อย Source Code ของเกม Half-Life 2 ออกสู่อินเตอร์เน็ตหลังหลักฐานไม่เพียงพอบ่งชี้ว่าเขาเป็นผู้กระทำผิด แต่ความผิดในการเจาะเข้าไปใน Server ของ Valve ก็ทำให้ศาลตัดสินให้ Gembe เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี 

ที่โทษของ Gembe เบาขนาดนี้ก็เป็นเพราะศาลพิจารณาจากวัยเด็กอันยากลำบากและการที่ตัว Gembe ตั้งใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองเป็นคนดีของสังคมแบบเห็นได้ชัด

ในการพิจารณาคดีไม่มีตัวแทนจาก Valve เดินทางมาร่วมรับฟังแต่อย่างใด

ในการให้สัมภาษณ์กับเว็บ gameinformer เมื่อปี 2019 ตัว Gembe ได้ออกมาขอโทษ Valve โดยระบุว่าตัวเขาเองงี่เง่าและยังเด็กจนไม่ทันได้คิดว่าเขาได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นมากขนาดไหน 

“ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้พวกคุณรับรู้ว่าผมขอโทษและเสียใจมากจริง ๆ ผมไม่เคยอยากทำให้ใครต้องเดือดร้อนเลย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะแก้ไขสิ่งที่ทำผิดไป ทุกวันนี้ผมเศร้าเสียใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ผมควรจะแค่เฝ้ารอและติดตามผลงานพวกคุณอย่างเงียบ ๆ ผมรักเกมของพวกคุณมากและก็ทำพลาดไป”

“พวกคุณเป็นทีมพัฒนาเกมอันดับหนึ่งของผมและไม่ว่าคุณจะออกผลงานอะไรมาผมก็จะติดตามและซื้อของพวกคุณเสมอไป”

ปัจจุบัน Gambe ทำงานเป็น Senior Software Developer อยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทยของเรานี่เอง และแม้จะไม่มีเวลาเล่นเกมมากแต่เขาก็ยังเล่นเกมอยู่บน Steam และเป็นเจ้าของ id Steam ที่มีเกมอยู่ราว ๆ 500 กว่าเกม

 

Nuttawut Apiratwarakul

โน้ต - Co-Founder / Editor-in-chief

Back to top