Red Dead Redemption 2 เป็นเกมที่สามารถนำเสนอวิถีการใช้ชีวิตในสังคมอเมริกันในช่วงยุคอุตสาหกรรมได้สมจริงที่สุดในโลกวิดีโอเกม
แต่ถึงแม้ว่าเกมมีเนื้อหาที่จัดเต็มและครอบคลุมจนแทบไม่มีที่ติ ก็ไม่สามารถหนีพ้นระบบตรรกะของวิดีโอเกมที่จำเป็นต้อง เพี้ยน ในบางครั้ง เพื่อให้การเล่นวิดีโอเกมสนุกสนานยิ่งขึ้น
นี่คือบทความ รวมตรรกะสุดเพี้ยนแห่งโลก Red Dead Redemption ที่ทำให้เกมสนุกขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความไม่เมคเซนส์
บทความนี้สร้างขึ้นเพื่อความบรรเทิงเท่านั้น มิได้ติเตียนเกมแต่อย่างใด
ใช้งานหนักม้าไม่ยอม แต่เอาม้าไปชน = โอเค!
ระบบม้าของเกม Red Dead Redemption ถือว่ามีความสมจริงพอสมควร เพราะถ้าหากผู้เล่นใช้งานม้าให้วิ่งหนักจนเกินไป (Stamina ลดเหลือ 0) จะส่งผลทำให้ม้ามีพฤติกรรมดื้อแล้วถีบผู้เล่นลงออกจากหลังม้าทันที
แต่ตรงกันข้าม ม้ากลับไม่รู้สึกโกรธอะไรเลย ถ้าหากผู้เล่นบังคับไปชนกับกำแพงหรือต้นไม้จนสัตว์เลี้ยงและผู้เล่นต้องบาดเจ็บหลายรอบ
ถึงอย่างนั้น ม้าของเราก็ยังคงรู้สึกยินดีรับใช้เกมเมอร์อีกครั้งโดยยานพาหนะไม่มีอาการบาดเจ็บข้อเท้าหรือลำตัวแต่อย่างใด เพียงแค่ให้อาหารหรือขัดฝุ่นให้ ม้าของเราก็พร้อมให้อภัยผู้เล่นเสมอ ซึ่งผู้เขียนไม่มั่นใจว่าม้าของเราเป็นเด็กดี หรือแอบมีนิสัยมาโซคิสม์กันแน่
ล้างค่าหัวด้วย ‘เงิน’
แม้ระบบ Bounty ของเกม Red Dead Redemption จะโหดกว่าเกมตระกูล Grand Theft Auto เพราะตัวเลขค่าหัวจะติดตัวผู้เล่นไปตลอด โดยเงินค่าหัวของเรายิ่งสูงมากเท่าไหร่ เกมเมอร์จะยิ่งโดยเพ่งเล็งจากนักล่าและมีอุปสรรคระหว่างเดินทางมากขึ้น
แต่เกมตระกูล Red Dead จะมีวิธีการล้างค่าหัวของตัวเองเป็นศูนย์ ด้วยการจ่ายเงินค่าหัวแบบเต็มจำนวนผ่านไปรษณีย์ ซึ่งในชีวิตจริง เงินค่าหัวไม่สามารถล้างได้ด้วยการจ่ายค่าปรับ แต่ต้องล้างด้วยระบบความยุติธรรมอย่างเช่น การขังคุก หรือโทษสูงสุดคือแขวนคอต่อหน้าสาธารณชนเท่านั้น
นอกจากนี้การล้างบาปด้วยการจ่ายเงิน ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากการจ่ายสินบนให้แก่รัฐบาลแบบถูกกฎหมาย ถ้างั้นแล้วทำไมแก๊ง Van der Linde ถึงต้องต่อต้านรัฐบาล ในเมื่อพวกเขาเปิดทางให้ผู้นอกกฎหมายสามารถก่ออาชญากรรมหลายทางซะขนาดนี้? ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสหรัฐอเมริกายุคใหม่ถึงไม่สามารถปราบผู้ร้ายให้หมดไปซะที
We need more Moneys!
ผู้เล่นมีเงินจำนวน 50,000 เหรียญฯ บางส่วนใช้กินอาหาร, เข้าบาร์, ซื้อปืน และนอกเหนือจากนั้น เกมเมอร์นำเงินไปบริจาคให้แก๊ง Van der Linde เป็นเงินจำนวน 25,000 เหรียญฯ พร้อมกับอัพเกรดอุปกรณ์ทุกอย่าง เพื่อให้ลูกทีมอยู่กันอย่างสบาย ๆ มีกินมีใช้ ไม่มีทางอดตายอย่างแน่นอน
แต่แล้วคุณ Dutch Van Der Linde เดินเข้ามาหาเรา แล้วเปิดบทสนทนาเชิงผิดหวังว่า ‘ Arthur แกเปรียบเสมือนเป็นลูกชายของฉัน แต่แกต้องขยันทำงานกว่านี้ เพราะ “พวกเราต้องการเงิน“ การที่แกไม่ยอมทำงานไม่สมกับเธอเลย อย่าทำให้ฉันผิดหวังอีกละ’
ขอโทษนะ Dutch … แต่ วดฟ! เงินจำนวน 25,000 เหรียญฯ ที่เราบริจาคหายไปไหนหมด! เจ้าเงินพวกนั้นสามารถนำพาแก๊งไปตะลุยเกาะสวรรค์ Tahiti หรือ Australia เป็นชาวนาเก็บมะม่วง และตัดขาดกับรัฐบาลตามที่ชาวแก๊งหลายคนใฝ่ฝันมาโดยตลอดได้เลยนะ
ความมั่นใจของ Dutch มาจากไหนเยอะแยะ
‘I Have a Plan’ เป็นประโยคคำพูดที่ช่วยให้สร้างความน่าเชื่อถือและมีความเป็นผู้นำ แต่สำหรับ Dutch เปรียบเสมือนเป็นคำต้องสาปที่นำพาความหายนะมาสู่แก๊งหลายครั้ง
เกมเมอร์หลายคนเข้าใจว่าประโยค ‘ฉันมีแผน’ มีจุดประสงค์เพื่อเสริมกำลังใจให้ชาวแก๊ง แต่ Dutch ใช้เปลืองเกินไปจนกลายเป็นคำพูดที่ไม่มีค่าจนกลายเป็นอินเทอร์เน็ตมีมตามแหล่งคอมมูนิตี้เกมจนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่เขารู้สึกมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้เกมเมอร์จะต้องตั้งคำถามทุกครั้งว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน?
วิ่งในแคมป์ไม่ได้
นับว่าเป็นปัญหาโลกแตกของเกม Red Dead Redemption 2 ที่บ้าบอที่สุด ทำไม Arthur Morgan หนึ่งในสมาชิกอาวุโสที่สุดของแก๊งถึงไม่มีสิทธิ์ที่จะวิ่งในแคมป์? ไม่ใช่สิ แต่เป็นสมาชิกทุกคนในแก๊งเลยต่างหาก!
ไม่แน่ว่าทีมงาน Rockstar Games อาจพยายามสั่งสอนผู้เล่นให้มีมารยาทต่อสังคมด้วยการไม่วิ่งเล่นที่บ้าน หรือทำเกมให้สมจริงที่สุด เพราะเต็นท์เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังหนึ่งที่ไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ (แม้จะมีบรรยากาศมาคุเป็นบางช่วงก็ตาม)
แต่ไม่เอาน่า… นี่คือแคมป์ใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ให้วิ่งเล่นมากมาย ไม่ใช่ระเบียงอาคารจากที่สูง! ฉะนั้นการใส่ระบบลิมิตการเดินทางในบ้านตัวเองเป็นสิ่งที่ไร้สาระสิ้นดี!