อย่างที่เรารู้กันดี กับข่าวลือว่า Resident Evil 4 กำลังจะมีเวอร์ชั่น Remake แม้ว่า Capcom จะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า พวกเขากำลังจะสร้างหนึ่งใน “ผลงานชิ้นเอก” ของ Resident Evil ขึ้นมาใหม่ งานนี้ไม่รู้จริงหรือมั่วชัวร์หรือไม่ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง นี่คือ 5 สิ่งที่อาจเปลี่ยนไปหากตัวเกมถูกรีเมค
ขนาดของเกม
ขนาดของ Resident Evil 4 Remake ตามความเห็นของผู้เขียน มีแนวโน้มที่จะมากกว่า 60 GB หรืออาจสูงถึง 100 GB เพราะถ้าเรามองกลับไปที่ RE 2 Remake ที่มีขนาด 26 GB บน PC ผ่าน Steam และ RE 3 Remake มีขนาด 45 GB บนแพลตฟอร์มเดียวกัน จะเห็นว่ามันสูงขึ้นเรื่อย ๆ
Resident Evil 4 ก็มี 3 สถานที่ที่แตกต่างกันและต้อง “ใหญ่พอ” ที่จะสำรวจ เหมือนในชนบทที่เราสามารถสำรวจได้จากหมู่บ้านไปโบสถ์ และทะเลสาบเพื่อต่อสู้กับบอส จากนั้นในปราสาทที่ในเวอร์ชั่นดั้งเดิมเราต้องหาปริศนา 3 ชิ้นที่เราต้องค้นหาด้วยตัวเราเอง ก่อนจะต่อสู้กับ Ramon Salazar และสุดท้ายคือบนเกาะเพื่อค้นหาแอชลีย์
ตัวละครหลายตัวที่ต้องออกแบบใหม่
หากออกแบบตัวละครใน Resident Evil 4 Remake แน่นอนว่ามันยังคงใช้ RE Engine ทำให้ตัวละครบางตัว อาจต้องมีการปรับลุกส์กันบ้าง เช่นลีออนที่อายุปาเข้าไป 27 ปีในภาคนี้ และ เอด้า หว่องที่อายุ 30 ปีในภาคนี้เช่นกัน
ส่วนตัวละครอื่นก็ต้องการการรีดีไซน์ เนื่องจาก RE Engine ไม่ใช้ระบบการปั้นหน้าแบบในอดีต แต่ใช้โมชั่นแคปเจอร์แทน ลองคิดกันดูว่าถ้าหาก ลูอิส เซร่า, แอชลี่ย์ แกรแฮม, แซดเลอร์ และ ตัวละครอื่น ๆ อีกมากมาย จะต้องทำโมชั่นแคปเจอร์ใหม่ ใครกันนะที่เหมาะจะเป็นนักแสดงของตัวละครเหล่านี้ ?
ศัตรูในวัยเด็ก สู่ปีศาจร้ายในวัยผู้ใหญ่
แน่นอนว่าคุณบางคนต้องเล่นเกมนี้ในช่วง ประถม, มัธยมต้น หรือ มัธยมปลาย ซึ่งในเวลานั้นยุคที่การหยอดเหรียญเล่น PS2 ยังมีชื่อเสียงอยู่ แต่จากเกมนี้มันอาจเป็นฝันร้ายสำหรับนักเล่นเกมในเวลานั้นที่เรียนอยู่ชั้นประถม เพราะเราต้องเผชิญหน้ากับ “เจ้าเลื่อย” ที่ทำให้เรานอนไม่หลับอย่าง ดร. ซัลวาดอร์และ เบลล่าซิสเตอร์ ที่ถือเลื่อยไฟฟ้า พร้อมด้วยเลือดที่เยอะพอสมควรแม้ว่าจะถูกปืนลูกซองยิงอัดหลายครั้งก็ตาม
นอกจากนี้เมื่ออยู่ในศูนย์วิจัย นั่นคือตอนที่เราต้องต่อสู้กับ Regenerator หรือ Iron Maiden ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำให้นักเล่นเกมชอกช้ำใจมากเพราะเราต้องยิงหลายจุด และ การเคลื่อนไหวของมันก็ยืดหยุ่นมาก ไม่ต้องพูดถึง Iron Maiden ซึ่งทำให้เราสั่นเพราะการออกแบบของมันซึ่งน่ากลัวมาก และ เสียงเพลงเอกลักษณ์ที่บ่งบอกว่า “มันมาแล้ว”
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ณ ตอนนี้ ผู้อ่านหลายท่านก็เข้าสู่วัยผู้ใหญ่กันแล้ว วัฒนธรรมการเล่นเกมก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย ศัตรูที่โหดกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว ทำให้เราคิดว่า Capcom อาจจะรีเมคเจ้าพวกนี้ใหม่เช่นกัน และแน่นอน เราคิดว่ามันโหดกว่าเดิมแบบที่ของเก่ายังเทียบไม่ติด
Quick Time Event
อย่างที่เราทราบว่า Resident Evil 4 ยังมีเหตุการณ์ Quick Time หรือ Qte ที่ทำให้เราไม่เคยลืม เช่น Leon และ Luis ถูกใส่กุญแจมือด้วยกันและเราต้องกดปุ่มที่ถูกสั่งระหว่างฉาก และ หนึ่งในสิ่งที่จำได้มากที่สุดคือเมื่อ Leon และ Krauser ต่อสู้กันด้วยมีดขณะอยู่บนเกาะ
แต่ ณ ปัจจุบัน เทรนด์ของการใช้ Quick Time Event ดูจะเบาบางลงไปมาก มีบางเกมยังคงใช้อยู่ แต่น้อยเกมมากที่ลงโทษผู้เล่นด้วยการ “ฆ่าให้ตาย” ทันทีเมื่อคุณพลาด Quick Time Event ส่วนมากก็อาจจะเจ็บ หรือเสียประโยชน์ในฉากต่อไปแทน งานนี้ไม่รู้ว่าถ้ารีเมคจะทำแบบเดิมหรือเปล่า ก็คงต้องดูกันต่อไป
พ่อค้าคู่บุญของ RE4 Original
Resident Evil 4 เวอร์ชันดั้งเดิมมีสิ่งที่หน้าจดจำอยู่หลายอย่าง และสิ่งที่น่าจดจำเป็นอันดับต้นๆเลย คือพ่อค้า กับเสียงที่มักจะพูดว่า “What are you buying, Stranger?” และ “Thank you.” ถ้าใน RE4 Remake ไม่มีพ่อค้า มันก็เหมือนกับสเต็กที่ไม่มีเกรวี่ เพราะพ่อค้าเป็นหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นสุด ๆ เพราะ ถึงยิงให้ตายไปยังไง มันก็กลับมาขายของให้เราได้แบบปกติอยู่ดี (แต่เขาจะไม่กลับมา ถ้าคุณเล่นโหมดยากสุด) โดยปกติทุกครั้งที่มีพ่อค้า ที่นั่นจะมีสถานที่สำหรับการบันทึกข้อมูล หรือ เซฟ เพื่อช่วยคุณเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์
แต่วัฒนธรรมการเล่นเกมสมัยนี้ ทั้งระบบออโต้เซฟ หรือการเข้าหน้าร้านค้าจากที่ไหนก็ได้ อาจทำให้เสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของ Resident Evil 4 อาจหายไปตามกาลเวลา