เรื่องราวของวรรณกรรม สามก๊ก ถูกนำมาเสนอผ่านสื่อบันเทิงแล้วหลายครั้งหลายคราว ทั้งวิดีโอเกมและจอภาพยนตร์ แต่สำหรับ สามก๊ก เวอร์ชั่นนี้ คือการดัดแปลงในการดัดแปลงอีกที เพราะ Dynasty Warriors คือผลงานวิดีโอเกมของ KOEI Tecmo ที่นำเอาวรรณกรรมสามก๊กมาดัดแปลงให้เป็นเกมแอ็คชั่นเดินหน้าลุยแหลกแนว Musou ที่กลายเป็นแนวเกมประเภทใหม่ และความฮิตของมันก็ทำให้มีการหยิบเอาเกมชุด Dynasty Warriors ไปสร้างเป็นภาพยนตร์จนได้ สำหรับในบ้านเราก็สามารถรับชมได้แล้วบน Netflix แต่มันจะสนุกคุ้มค่าแก่การเสียเวลาดูหรือไม่ วันนี้เราจะมารีวิวให้ชมกัน
เนื้อเรื่องยุคก่อนสามก๊กที่เราคุ้นเคย
ใครที่เป็นแฟนสามก๊กมาก่อนจะรู้ว่าก่อนเกิดเหตุการณ์แบ่งแยกแผ่นดินหรือยุคสามก๊ก เกิดศึกโจรโพกผ้าเหลืองลุกขึ้นมาก่อกบฎ เหล่าขุนศึกต่าง ๆ ลุกขึ้นมาต่อสู้ปกป้องบ้านเมือง และหนึ่งในนั้นคือตั๋งโต๊ะ แต่เมื่อกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองโดนปราบจนหมด ตั๋งโต๊ะกลับเข้ายึดราชสำนัก ตั้งตัวเป็นใหญ่ ก่อความวุ่นวายให้กับแผ่นดินแทน ทำให้เหล่าขุนพลต่าง ๆ รวมตัวกันเพื่อกอบกู้ราชสำนักจากการปกครองของตั๋งโต๊ะ ซึ่งทั้งหมดนี้คือยุคก่อนที่แผ่นดินจะแบ่งแยกออกเป็นสามก๊กในภายหลัง
Dynasty Warriors ได้ใช้เนื้อเรื่องตรงส่วนนี้มาทำเป็นภาพยนตร์ และถึงแม้จะสร้างจากเกมเป็นหลัก แต่ตัวเกมเองก็อิงประวัติศาสตร์ไม่ใช่น้อยเลย ดังนั้นหากคุณชมแล้วรู้สึกเหมือนดูหนังสามก๊กทั่วไปก็ไม่แปลกสักเท่าไร เพราะเรื่องราวในช่วงนี้ถูกนำมาถ่ายทอดซ้ำกันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว เพียงแต่ในครั้งนี้ มันถูกนำเสนอภายใต้โลกและจักรวาลของ Dynasty Warriors จากตัวเกมอีกที ทำให้บางส่วนมีการแต่งเติมขึ้นมาใหม่
หากคุณเคยเล่นเกม Dynasty Warriors จะรู้ว่าเกมนี้เป็นเกมแนว Musou หรือเดินหน้าฆ่าแหลก ศัตรูมาแบบมืดฟ้ามัวดิน แต่ตัวละครขุนพลของเราก็เก่งถึงขนาด 1 สู้ 100 สู้ 1000 ได้แบบสบาย ๆ ซึ่งในหนังเองก็จัดการหาเหตุผลต่าง ๆ มารองรับส่วนนี้ได้ เพื่อไม่ให้ผู้ชมทั่วไปงง ว่าทำไมตัวละครกับสเกลพลังในหนังถึงโอเวอร์ได้ขนาดนี้
ภาพรวมของ Dynasty Warriors หากมองเพียงเปลือกนอก มันคือการนำเอายุคก่อนสามก๊กมาเล่าใหม่ซ้ำอีกรอบเท่านั้น และเมื่อเกิดคำถามว่า ทำไมเราจึงต้องดูหนังเรื่องนี้ล่ะ คำตอบจะอยู่ในส่วนถัดไป เพราะ..
นี่คือ “หนังจากเกม” ของจริง แต่ยังคงเคารพประวัติศาสตร์ความเป็นจริง
หลายคนที่ดูหนัง อาจไม่รู้จักเกม Dynasty Warriors แต่นี่คือเกมที่ค่อนข้างจะแฟนตาซีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องของอาวุธ และพลังเหนือมนุษย์ ซึ่งในหนังหาเหตุผลมารองรับว่า ขุนศึกแต่ละคนจะมีชะตาฟ้าลิขิตให้เดินทางสู่ป้อมกระบี่ และได้รับอาวุธพิเศษกันทุกคน และวิธีการที่จะเพิ่มพลังให้อาวุธเหล่านี้ก็คือดื่มเลือด หรือยิ่งฆ่าเยอะยิ่งแข็งแกร่งนั่นเอง
ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้ก็ตัดช่องโหว่เรื่องทำไมตัวละครในเรื่องถึงมีพลังอำนาจขนาดนั้น ถือว่าเป็นการหาจุดตรงกลางระหว่างแฟนเกมและคนที่มาดูหนังอย่างเดียวได้เป็นอย่างดี และหากใครสงสัยว่ามันเป็นหนังจากเกมที่ดีหรือไม่ ถ้าตอบแบบตรง ๆ เลยคือ มันคือ “หนังจากเกม” ที่เคารพเกมมาก ๆ บางฉากเคารพจนน่าตลกกันเลยทีเดียว
เพราะไม่ใช่แค่ Dynasty Warriors แต่เกมทุกเกมจะมีสิ่งที่เรียกว่า HP หรือพลังชีวิต เมื่อโดนโจมตีเราก็จะเสียพลังชีวิตจนหมดถึงจะตาย ซึ่งมันขัดกับชีวิตความเป็นจริง เพราะในชีวิตจริงเราไม่มีทางยืนรับดาบที่ฟันมาตรง ๆ ได้เป็นสิบ ๆ ครั้งถึงตาย Dynasty Warriors เขาเลยทำให้มันเหมือนเกมซะเลย ในหนังเรื่องนี้คุณจะเห็นหลายฉากที่ต้องร้อง WTF หลายฉากมาก ๆ ทั้งตัวละครโดนธนูปักตัว 2-3 ดอก แต่ยังขี่ม้าวิ่งหนีไปสู้ไปได้หน้าตาเฉย หรือไม่ก็หยิบดาบมาสู้กันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือแม้แต่ฉากสำคัญ ๆ ของเรื่อง หนังก็ใช้ Soundtrack จากเกมเลย โดยเฉพาะ Birth of a Hero ที่หลายคนน่าจะฟิน
แต่สิ่งที่ชวนเซ็งนิดหน่อยคือ ฉากที่เราหวังจะได้เห็นอย่างฉาก 1 ตบสิบ ตบร้อย มันมีน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก เอาแค่ที่เราเห็นในตัวอย่าง ก็มีมากกว่านั้นอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นฉากแอ็คชั่นแบบดวลประลองมากกว่า ซึ่งการที่ฉากพวก Musou แบบนี้มันน้อยกว่าที่คิด ทำให้มันขาดเอกลักษณ์ของความเป็น Dynasty Warriors ไปอย่างน่าเสียดาย ฉากแบบในเกมนี่มีแบบนับฉากได้เลย จนบางครั้งก็คิดว่าเรากำลังนั่งดูหนังสามก๊กเวอร์ชั่นทั่วไป ไม่ใช่ Dynasty Warriors
แต่สิ่งที่ยังต้องชมอยู่คือการเคารพต้นฉบับเหตุการณ์ของสามก๊ก เพราะหากใครอ่านมา แต่ละเหตุการณ์ แต่ละอีเวนท์นั้น ค่อนข้างจะอิงจากเรื่องราวต้นฉบับ เช่นการรวมตัวกันของขุนพล 18 หัวเมืองเพื่อต่อต้านตั๋งโต๊ะ / โจโฉที่ยอมทรยศทุกคนและฆ่าลิแปะเฉียกับครอบครัวเพราะความเข้าใจผิด / กวนอูที่ประลองและสังหารฮัวหยงได้อย่างรวดเร็วก่อนเหล้าจะเย็น หรือแม้แต่ศึกด่านเฮาโลก๋วนที่เป็นสมรภูมิการปะทะกันของสามพี่น้องร่วมสาบานกับลิโป้ ซึ่งแม้จะเป็นข้อดี แต่เหมือนระหว่างสร้างหนัง คนสร้างเองก็เริ่มจะสับสนตัวเองเหมือนกัน ว่าสรุปแล้วเรากำลังทำหนังจากเกม หรือหนังจากวรรณกรรมสามก๊กกันแน่
อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกว่ามันเป็นหนังถอดสมองดู แต่ข้อเสียของหนังหลายจุดก็อดที่จะให้เราติอย่างชัดเจนไม่ได้ เริ่มจาก CG หรือคอมพิวเตอร์กราฟิกเวลาฉากเอฟเฟคท์ต่าง ๆ ที่ลอยแบบเห็นได้ชัดมาก ใครที่หงุดหงิดไม่ชอบฉากลอย ก็อาจจะปิดหนังเรื่องนี้ทิ้งตั้งแต่แรกแล้ว แถมยังมีพล็อตโฮลที่เล่าเรื่องได้ขาด ๆ เกิน ๆ หรือลืมไปเลยว่าหนังทำประเด็นนี้ค้างไว้ แล้วก็ปล่อยหายไปจนจบเรื่องเป็นต้น ในส่วนของนักแสดง ที่นอกจากกู่เทียนเล่อ ที่มารับบทลิโป้แล้ว แม้แต่ผู้เขียนเองก็แทบจะไม่รู้จักนักแสดงคนอื่น แต่แอบเสียดายกับบทเตียวเสี้ยน ที่แสดงโดยกู่ลี่นาจา นักแสดงหญิงมาแรงของจีน ที่สวยออร่าจับมาก แต่กลับมีบทเพียงน้อยนิดเท่านั้น
และใครที่มาดูเพราะหวังจะได้เห็นลิโป้ออกเยอะ ๆ ก็อาจจะต้องผิดหวัง แม้โปสเตอร์กับตัวอย่างหรือภาพโปรโมทจะเน้นไปที่ลิโป้ แต่ในหนังเองยังขึ้นว่ากู่เทียนเล่อผู้รับบทลิโป้นั้น เป็นเพียง Special Guest หรือนักแสดงรับเชิญเท่านั้น ดังนั้นใครหวังจะมาดูลิโป้ล้วน ๆ อาจจะมีผิดหวังกันไปบ้าง
ควรจะเสียเวลาดูหรือไม่ ?
หากคุณเป็นแฟนเกม Dynasty Warriors ที่หวังจะได้เห็นฉาก Musou เยอะ ๆ อาจจะผิดหวัง แต่ถ้าอยากเห็นฉากระเบิดพลังใช้พลังแบบพลิกฟ้าทลายดิน ยังไงหนังเรื่องนี้ก็คุ้มค่าที่จะดู แต่แนะนำว่าควรถอดสมองดู เน้นเอ็นจอยกันแบบสุด ๆ แต่ถ้าใครทำไม่ได้ ก็เข้าใจว่าของแบบนี้แล้วแต่รสนิยมคน Dynasty Warriors เป็นหนังจากเกมจากวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์อีกที ทำให้บางครั้งคนสร้างหรือผู้กำกับเอง ก็อาจจะยังสับสนกันจริง ๆ ว่าเรากำลังทำหนังโดยอิงจากอะไร ทำให้บางอย่างขาดความลงตัว หรือดูสับสนในตัวเองอย่างชัดเจน
Dynasty Warriors ไม่ใช่หนังที่ดีจนถึงขั้นห้ามพลาด แต่ก็ไม่ได้ห่วยจนถึงขั้นไม่ควรเปิดดู โดยเฉพาะช่วงนี้ ใครที่อยากบันเทิงใจกับอะไรที่เวอร์วังแบบไร้หลักแก่นสาร สำหรับเรื่องนี้ ไม่เสียหายแต่อย่างใด ที่สำคัญมีพากย์ไทย ให้ฟังเพลิน ๆ ไม่ต้องจับจ้องดูทุกฉากก็พอจะเข้าใจได้อยู่แล้ว
Dynasty Warriors มหาสงครามขุนศึกสามก๊ก มีให้ชมแล้วบน Netflix ประเทศไทย