แม้เกมเมอร์ชาวไทยอาจจะไม่รู้จัก MDickie มากนัก แต่สำหรับชาวผู้เล่นต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ เขาคือบุคคลที่หลายคนต่างนับถือและสร้างแรงบันใจให้ใครหลายคน เนื่องจากเขาคือนักพัฒนาเกมอินดี้ที่สร้างผลงานเกมมาแล้วมากกว่า 56 เกม รวมถึงมีประสบการณ์สร้างเกมนานเกือบ 20 ปี
MDickie คือใคร
Mat Dickie หรือ MDickie เป็นนักพัฒนาเกมอินดี้ชาวอังกฤษ ที่มีประสบการณ์สร้างเกมตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผลงานเกมที่โด่งดังที่สุดคือ Wrestling Revolution HD ใน iOS กับ Android ซึ่งมียอดดาวน์โหลดสูงสุดถึง 50 ล้านครั้ง และเกมทั้งหมดโดย MDickie ส่วนใหญ่มักสร้างโดยฝีมือเขาเพียงคนเดียว
ในสมัยเด็ก Mat Dickie มักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ระหว่างที่พวกเขากำลังทำงานขายหนังสือพิมพ์ในสแตนด์เล็ก ๆ ซึ่งช่วงเวลานั้น เขามรู้สึกเบื่อหน่ายเพราะไม่มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำ และไม่มีเกมให้เล่น Dickie จึงมักใช้เวลาว่างส่วนใหญ่กับการสร้างสรรค์ทำของเล่นโดยใช้วัสดุเท่าที่มีในตอนนั้น
แต่หลังจากเข้าโรงเรียน Brigg Primary School แล้ว เขาก็เริ่มมีความสนใจอยากพัฒนาเกมตั้งแต่เด็กทันที หลังจากเขาเริ่มหลงใหลในเกมมวยปล้ำอย่าง WWF No Mercy, Super Fire Pro Wrestling และ WWF WrestleFest ตอนนั้น Dickie จึงมักนำไอเดียจากเกมเหล่านั้นมาจินตนาการทำเป็นเกมกระดาษ หรือวาดภาพสเกตช์เป็นหน้าตาวิดีโอเกม
และแล้วระหว่างปี 1998 เขาสามารถเก็บเงินซื้อเครื่อง PC Commodore Amiga ได้สำเร็จ รวมถึงรู้สึกประทับใจจากการใช้งานซอฟต์แวร์ตกแต่งภาพ Deluxe Paint อย่างมาก เขาจึงเริ่มใฝ่ฝันอยากทำอาชีพเป็นนักพัฒนาที่สามารถสร้างผลงานเกมด้วยตัวเอง
ก้าวแรกสู่นักพัฒนาเกม
DIV Game Studio
Dickie กล่าวว่าช่วงสมัยปี 2000 เขาไม่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เลย เขาจึงซื้อ DIV Game Studio ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่โฆษณาว่า ‘สามารถสร้างเกมได้ง่ายดาย’ เพื่อศึกษาวิธีการสร้างเกมเบื้องต้น จนในที่สุด ก็ได้สร้างผลงานเกมแรกในชีวิตของเขาชื่อว่า Hardy Boyz Stunt Challenge โดยใช้เวลาสร้างเสร็จภายในสองสัปดาห์ แล้วปล่อยบนเว็บไซต์คอมมูนิตี้มวยปล้ำให้ทุกคนดาวน์โหลดเล่นฟรี
เกม Hardy Boyz Stunt Challenge ได้รับเสียงชื่นชมจากคอมมูนิตี้ รวมถึงมียอดคนดาวน์โหลดเกมเยอะถึง 15,000 ครั้ง ทำให้ Dickie เริ่มมีกำลังใจในการสร้างเกม และตัดสินใจศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย Salford วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิดีโอเกมกับคอมพิวเตอร์
หลังจากจบการศึกษา (รวมถึงระหว่างการศึกษา) เขาสร้างผลงานเกมอินดี้แนวมวยปล้ำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Federation Wrestling, The MDickie Show, Wrestling Encore และเกมอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ในปี 2007 เขาได้สร้างเกมใหม่ชื่อว่า Hard Time ซึ่งเป็นเกมจำลองแหกคุกแบบตลกขำขัน ซึ่งถูกยกย่องเป็นเกมอินดี้ดีเด่นประจำเดือนจากนิตยสาร Games for Windows
เริ่มรุ่งก็ต่างมีร่วง
แต่อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเป็นนักพัฒนาเกมของ Mat Dickie ไม่ได้เต็มไปด้วยสายรุ้งเสมอไป มีครั้งหนึ่งเกม Hard Time เคยเกือบได้บริษัท THQ ช่วยเป็นตัวจำหน่ายเกมดังกล่าว แต่ข้อเสนอก็ถูกยกเลิกด้วยสาเหตุบางอย่าง รวมถึงในปี 2009 เกม The You Testament หนึ่งในผลงานเกมใหม่ของ Dickie ในช่วงนั้น มีกระแสตอบรับย่ำแย่เป็นอย่างมาก ทำให้เขาหมดกำลังใจสร้างเกม และเลิกพัฒนาเกมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังจาก Dickie เลิกทำอาชีพพัฒนาเกม เขาจึงหันมาที่เป็นนักพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อสำหรับการศึกษา และเขียนบทความให้ความรู้บนนิตยสาร TES แทน ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวมีนักเรียนใช้งานมากกว่าราว 10,000 คน รวมถึงช่วงเวลานั้นเขาเขียนหนังสือเรื่อง Inspiration for the Interactive, Generation Sportuality กับ A-fear-ism: The Ignorance Of Atheism
Comeback
ต่อมาในปี 2012 เขาเริ่มรู้สึกไม่สนุกสนานกับการทำอาชีพเป็นนักพัฒนาแอปพลิเคชัน และเขาต้องการเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างบ้านกับเตรียมเลี้ยงดูลูกคนแรก เขาตัดสินใจลาออกจากนักพัฒนาแอปฯ และกลับมาทำอาชีพเป็นนักพัฒนาเกมสำหรับมือถืออีกครั้ง ด้วยการพัฒนาเกมมวยปล้ำที่เขาถนัด Wrestling Revolution ลง iOS กับ Android พร้อมพอร์ตเกมเก่าทั้งหมดของเขาลง Google Play
และแล้วความใฝ่ฝันของ Dickie ก็เป็นจริง เกม Wrestling Revolution ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นด้วยยอดดาวน์โหลดถึง 10 ล้านครั้ง และต่อมาในปี 2014 เขาสร้างเกมภาคต่อ Wrestling Revolution 3D สำหรับมือถือ iOS กับ Android (ลง Steam ในภายหลัง) ซึ่งเกมดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าเกมภาคแรก ด้วยการทำสถิติมียอดดาวน์โหลดถึง 50 ล้านครั้ง นับว่าเป็นจุดรุ่งเรืองที่สุดสำหรับชีวิตเขา
แม้ว่าปี 2018 – Dickie ประกาศหยุดพักการพัฒนาเกมแบบ Full-Time ชั่วคราว แต่ต่อมาในปี 2019 เขายืนยันว่ากำลังพัฒนาเกมมวยปล้ำเกมตัวใหม่สำหรับแพลตฟอร์มมือถือ และ Nintendo Switch
นับตั้งแต่ Mat Dickie เริ่มพัฒนาเกมตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน เขาสร้างเกมทั้งหมด 56 เกม เป็นเกม PC 39 เกม และเกมมือถืออีก 18 เกม รวมถึงเขาไม่มีความคิดอยากจะขยายแฟรนไชส์ Wrestling Revolution ให้โด่งดังเทียบเท่ากับซีรีส์เกม WWE เพราะ Dickie ต้องการพัฒนาเกมที่มีต้นทุนถูก เป็นมิตรสำหรับทุกเครื่องเกม และสามารถสร้างสรรค์เกมเพลย์ได้ง่ายกว่าหากมีผู้พัฒนาเกมคนเดียว หรือมีทีมงานขนาดเล็ก
MDickie เป็นนักพัฒนาเกมที่มี Mindset หายากมาก ๆ สำหรับวงการเกมในปัจจุบัน จึงไม่แปลกใจเลยที่ผู้เล่นบางส่วนจะยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน แม้เขาไม่ได้โด่งดังสำหรับวงการเกม AAA หรือเกมทุกเกมจะมีคุณภาพดีก็ตาม