วิดีโอเกมในปัจจุบัน จะมีระดับความยากให้เลือกหลายระดับ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การเล่นเกมของแต่ล่ะคน แต่ไม่ใช่สำหรับเหล่าสาวกฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ที่พวกเขานิยมเล่นเกมระดับยาก และพยายามทำให้เกมมีความท้าทายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่บางที ความยากระดับ Very Hard หรือโหมดความยากพิเศษ ก็ไม่สามารถทำให้เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์รู้สึกพอใจกับชัยชนะ เพราะเกมยังยากไม่พอหรือง่ายเกินไป! เหล่านักเล่นเกมทหารผ่านศึกหลายคน จึงเริ่มใช้วิธีเพิ่มความยากของเกมด้วยการสร้าง ‘กฎ’ ของตัวเองขึ้นมาเอง ซึ่ง ‘กฎ’ ที่ว่านั้นจะมีวิธีใดบ้าง? ผู้อ่านสามารถรับชมได้ที่บทความนี้เลยครับ
ใช้อาวุธห่วย ๆ
มาเริ่มด้วยวิธีการเพิ่มความท้าทายที่ทุกคนสามารถทำได้ และเบสิคสุด ๆ ซะก่อน นั่นคือการให้เกมเมอร์ลองใช้อาวุธระดับธรรมดา ๆ หรืออาวุธที่เชื่อว่า “ไร้ประโยชน์” ที่สุดตลอดต้นจนจบเกม
ส่วนสาเหตุที่เชื่อว่าการใช้อาวุธไร้ประโยชน์ เป็นวิธีเพิ่มความท้าทายที่ทำง่ายสุด เพราะอย่างน้อยผู้เล่นยังมีโอกาสตอบโต้หรือต่อสู้ได้อยู่บ้าง แต่ตรงกันข้าม ความท้าทายตัวนี้เหมาะสำหรับการใช้เป็นบททดสอบวัดความอดทนกับสมาธิได้ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งหากคุณผ่านความท้าทายตัวนี้ ผู้เขียนก็เชื่อเกมเมอร์ก็จะสามารถทำชาเล้นจ์อื่น ๆ ตามมา
ใช้คอนโทรลเลอร์ที่เราไม่คุ้นเคย
เราอาจจะผ่านไม้ผ่านมือกับการใช้คอนโทรลเลอร์อย่าง Dualshock, Xbox หรือเมาส์คีย์บอร์ดจนมีความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่งแล้ว เราแนะนำให้เกมเมอร์ลองหันมาใช้คอนโทรลเลอร์ที่คิดว่า ‘ไม่มีทางเป็นไปได้’ ที่เล่นจะเล่นจนจบเกมหรือเล่นได้อย่างสบายเนื้อสบายตัว เช่นจอย Wii, แผ่นเต้น DDR หรือจอยพวงมาลัย และอื่น ๆ ที่ไม่ใช้จอยมาตรฐาน
วิธีนี้อาจไม่เป็นที่นิยมสำหรับเหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ซะเท่าไหร่ เพราะมีขั้นตอนการติดตั้งที่วุ่นวาย และจอยพิลึกส่วนใหญ่ ไม่สามารถใช้งานได้ แต่มีเกมเมอร์บางส่วน ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถปราบเกมด้วยจอยเพี้ยน ๆ ได้ หากมีการวางปุ่มที่ดีพอ
ลงโทษตัวเองเมื่อพลาดหนึ่งครั้ง
วิธีนี้เหมือนกับการลงโทษในคลาสเรียน ที่หากทำการบ้านผิดหนึ่งข้อ เท่ากับโดนไม้บรรทัดตีก้นหนึ่งครั้ง แต่สำหรับวงการเกม พวกเราจะไม่ใช่วิธีนั้น แต่เราจะใช้การทำโทษแบบ Batsu Game หรือเกมลงโทษที่เราเห็นได้ตามรายการวาไรตี้
ให้ผู้เล่นลองหาวิธีการทำโทษตัวเอง อย่างเช่นการวิดพื้น 10 ครั้ง หรือให้เพื่อน ๆ ช่วยนิดนิ้วของคุณให้รู้สึกเจ็บแสบสักหนึ่งรอบต่อการตายหนึ่งครั้ง แต่แน่นอนว่าถ้าหากคุณได้บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็อาจลองสร้างบทลงโทษที่ช่วยให้คุณตื่นตัวมากขึ้น (ที่ไม่รุนแรงหรือพิลึกเกินไป) ตัวอย่างเช่นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, เหยาะซอสพริกใส่ลิ้น, กินวาซาบิ หรือช็อตไฟฟ้าเป็นต้น
Speed Run แข่งกับเวลา
วิดีโอเกมส่วนใหญ่จะมอบความอิสระและความยืดหยุ่นให้ผู้เล่นมากขึ้น ด้วยการให้ไม่มีเวลามากำกับ ซึ่งทำให้เกมเมอร์กระตือรือร้นต่อการเล่นเกมลดลง แล้วให้ผู้เล่นสามารถทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน
แต่ไม่ใช่ว่าเกมเมอร์ทุกคนจะชิลล์กับการเล่นเกมเสมอไป เพราะทุกวันนี้ วัฒนธรรม Speed Run หรือการเล่นเกมแบบจับเวลาที่มีมาตั้งแต่อดีต ก็ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากการเล่นเกมแบบ Speed Run จัดเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอย่าง Cheat Engine หรือ Mod (ยกเว้น TAS)
การเล่นเกมแบบ Speed Run ผู้เล่นต้องใช้ความไหวพริบ ความเป็นไปได้ และอาศัยช่องโหว่ของเกมในการปราบเกม ซึ่งผู้เล่นยิ่งทำเวลาได้ดีเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าเกมเมอร์มีความรู้ถึงรายละเอียดยิบย่อยของตัวเกมมากเท่านั้น
ไม่เลเวลอัพ ไม่อัปเกรด ไม่ Checkpoint
ระบบ Progress หรือค่าประสบการณ์ในเกม RPG นั้น เปรียบเสมือนเป็นตัวบ่งชี้ว่าเกมเมอร์มีพัฒนาการ (ในเกม) มากน้อยแค่ไหน แต่ความเป็นจริงแล้ว ระบบเลเวลหรือสกิลเป็นเพียงการบัฟแบบเนียน ๆ ที่ให้ความรู้สึกว่าเพลเยอร์มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการพิสูจน์ว่าคุณเป็นเซียนเกมด้วยฝีมืออย่างแท้จริง นั่นคือผู้เล่นต้องสามารถปราบเกมได้โดยไม่มีการเลเวลอัพ หรืออัปเกรดใด ๆ ทั้งสิ้น
แม้จะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง เมื่อตัวเกมบังคับให้เกมเมอร์ต้องอัปสกิลใดสกิลหนึ่งเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องต่อไป แต่โดยรวมแล้ว ความโหดของเกมก็ยังคงยากไม่เปลี่ยนแปลง เพราะในขณะที่ศัตรูมีความท้าทายมากขึ้นตาม Progress ของเนื้อเรื่อง แต่การพัฒนาการของผู้เล่นยังคงห่างไกลจากศัตรูอยู่อีกมาก
ลง Mod ที่ส่งผลต่อเกมเพลย์
Mod นอกจากช่วยให้ภาพเกมสวยขึ้น และได้ใช้คอนเทนต์เท่ ๆ หรือแหวกแนวจนหลุดโลกมาให้ใช้ฟรีแล้ว ก็มีหน้าที่ช่วยทำให้ระบบเกมเพลย์เล่นง่ายขึ้น หรือยากตามมาอีกด้วย ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นวิธีเพิ่มความยากที่ครอบจักรวาลมากที่สุด
แต่แน่นอนว่าระบบความยากของเกมที่สร้างขึ้นโดย Modder ย่อมสามารถช่วยสนองความต้องการของเหล่าเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ตั้งแต่ระบบ Perma-Death (ตายแล้วเริ่มเกมใหม่ตั้งแต่การสร้างตัวละคร) , ปรับปรุงระบบ A.I. ให้โจมตีแรงขึ้น 10 เท่า หรือเพิ่มปริมาณของศัตรูในเกมเป็นสามเท่า และอื่น ๆ อีกมากมาย
แม้ Mod บางตัว อาจทำให้เกมยากจนถึงขั้นเล่นต่อไปไม่ได้ในบางครั้ง อย่างเช่น โดนโจมตีครั้งเดียวตาย, หน้าจอสลับด้าน แต่ถ้าหากเกมเมอร์อยากจะพิสูจน์ความเซียนให้ชาวโลกเห็น ก็ไม่มีทางสามารถหยุดความคิดของพวกเขาได้ แม้ Mod จะยากมากแค่ไหนก็ตาม
