ถึงแม้เกมเมอร์ส่วนใหญ่จะสามารถอยู่ร่วมกับผู้เล่น Toxic บนโลกวิดีโอเกม จนกลายเป็นสีสันอย่างหนึ่งของเกม Multiplayer ไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพฤติกรรม Toxic สามารถทำลายบรรยากาศโดยรวมของการเล่นเกม และเป็นการกลั่นแกล้งบนโลกอินเทอร์เน็ตรูปแบบหนึ่ง ที่เกมเมอร์อีกหลายคนไม่ชื่นชอบต่อการกระทำดังกล่าว
ซึ่งแน่นอนว่าตัวเกมเมอร์ยังไม่สายเกินแก้ ที่จะลดหรือละเลิกพฤติกรรม Toxic บนโลกวิดีโอเกมเพื่อสังคมคอมมูนิตี้, วงการอุตสาหกรรม, หรือเกมที่คุณหลงรักให้เติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งจะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยลดพฤติกรรมดังกล่าว ? ขั้นตอนทั้งหมดเหล่านี้ อาจสามารถช่วยคุณได้
พูดส่งท้ายเกมตามมารยาทของ Esports
ถ้าหากเกมเมอร์อยากเลิกพฤติกรรม Toxic แบบจริงจัง ก็มาเริ่มต้นด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการพูดส่งท้ายหลังจบเกมอย่างเช่น Good Game หรือ Well Played ซึ่งเป็นมารยาทที่เห็นได้ทั่วไปตามโหมด Competitive Plays หรือวงการ Esports แต่แน่นอนว่าผู้เล่นควรหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดรุนแรง หรือคำย่อที่อาจทำให้การเกิดการสื่อสารผิดพลาดได้ ยกตัวอย่างเช่น GGWP หรือ Good F**king Game เป็นต้น
ลด ‘การเอาชนะ’ หรือ Perfectionism
เกมเมอร์ส่วนใหญ่ เข้าเล่น Multiplayer เพื่อต้องการเอาชนะผู้เล่นคนอื่น หรือต้องการเป็นอันดับหนึ่งของห้องเกม แต่แน่นอนว่าการแข่งขันก็เหมือนกับกีฬาอย่างหนึ่งที่มีกฎกติกาและมีแพ้ชนะ ดังนั้นย่อมต้องมีหลายครั้งที่ผลลัพธ์ระหว่างการเล่นเกม ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ จนบางครั้งเราเผลอแสดง หรือสะสมพฤติกรรม Toxic โดยไม่รู้ตัว
ซึ่งบางที เป็นเพราะว่าเกมเมอร์อาจตั้งมาตรฐาน, คาดหวังต่อเพื่อนร่วมทีม หรือเป้าหมาย Acheivement สูงเกินไป ฉะนั้นให้เกมเมอร์ลองลดความ Perfectionism, ลดความต้องการเอาชนะ หรือรวมไปถึงเลิกเล่นเกมชั่วคราวประมาณ 10-30 นาที เพื่อให้ผู้เล่นหรือเพื่อนร่วมทีมได้รู้สึกผ่อนคลายสมองจากการเล่นเกม
เล่นเกม Fighting
ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว ถ้าหากเกมเมอร์ไม่สามารถสลัดความต้องการ ‘เอาชนะ’ จริง ๆ ผู้เขียนลองแนะนำให้เล่นเกมต่อสู้ อย่าง Street Fighter, Tekken หรือ Soul Calibur แล้วปะทะกับผู้เล่นคนอื่นที่มีประสบการณ์เล่นเกมต่อสู้ยาวนานกว่า ซึ่งเกมเมอร์จะต้องพบความพ่ายแพ้จนเคยตัว ซึ่งรวมถึงตัวผู้เล่น ไม่สามารถกล่าวโทษคู่ต่อสู้หรือเพื่อนร่วมทีมได้ เพราะเกมต่อสู้ เป็นเกมใช้ฝีมือเพียว ๆ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันเท่านั้น
การแพ้หรือชนะในเกม Fighting จึงเป็นเรื่องปกติที่เกมเมอร์ทุกคนต้องเผชิญหน้า ฉะนั้นก็ไม่แน่ว่าการเล่นเกมประเภทดังกล่าว จะสามารถช่วยให้เกมเมอร์สามารถปรับเปลี่ยนความคิด หรือรู้สึกเคยชินกับการพ่ายแพ้ ซึ่งส่งผลให้แสดงพฤติกรรม Toxic ลดลงในระยะยาว (และคุณอาจจะชื่นชอบเกมแนวต่อสู้ไปเลยก็ได้)
Mute ไมโครโฟนหรือ ปิด Chat ไปเลย
‘เราไม่ต้องมีปัญหาตั้งแต่แรก ถ้าเราแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหนีห่างจากมันไปไกล ๆ’ นี่เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงการปะทะคารมระหว่างผู้เล่น Toxic กับตัวเกมเมอร์ด้วยการ Mute ไมโครโฟน หรือปิดกล่อง Chat ซึ่งยังสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2000 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งนอกจากผู้เล่นจะไม่ต้องปวดหัวเกมเมอร์มารยาทแย่แล้ว เรายังช่วยห้ามตัวเองไม่ให้แสดงพฤติกรรมรุนแรงซะเองอีกด้วย
เล่นเกมกับเพื่อน (ที่ไม่สนิท)
มีหลายครั้งที่พวกเรากล้าแสดงพฤติกรรม Toxic บนโลกวิดีโอเกมออกมา เป็นเพราะว่าเราไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว และเขาไม่มีทางรู้ว่าเราเป็นใคร ฉะนั้นการเล่นเกมกับเพื่อนไม่สนิทสนม หรือมีสไตล์การเล่นเกมแตกต่างจากคุณ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ที่สามารถช่วยลดพฤติกรรมดังกล่าวลง เพราะเราจะเริ่มมีพฤติกรรมความเกรงอกเกรงใจต่อเพื่อนร่วมทีมของเรามากขึ้น ซึ่งช่วยให้เราจะเข้าใจว่า ‘ไม่ใช่เกมเมอร์ทุกคนจะจริงจังเกมมิ่งซะหมด’ แล้วเปิดใจให้เกมเมอร์ทุกคนมากขึ้น
ทีนี้ เกมเมอร์หลายคนอาจเริ่มสงสัยแล้วว่า วิธีการดังกล่าวจะสามารถช่วยลดพฤติกรรม Toxic ได้จริงหรือไม่ ? ก็ต้องบอกเลยว่าช่วยลดพฤติกรรมดังกล่าวได้จริง ตามคำแนะนำของเกมเมอร์หลายคนที่เคยเป็นผู้เล่น Toxic มาก่อน
แต่แน่นอนว่าการรักษานั้น จำเป็นต้องใช้เวลา และไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ซึ่งจะบอกว่าการรักษาพฤติกรรม Toxic ในวิดีโอเกม จะเหมือนกับการเลิกบุหรี่ เหล้า หรือการลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ เพราะเกมเมอร์ต้องมีการฝืนจิตใจที่แน่วแน่ และจริงจัง แต่ถ้าหากเกมเมอร์สามารถผ่านพ้นชาเล้นจ์ดังกล่าวทั้งหมด พฤติกรรม Toxic ภายในตัวผู้เล่นจะต้องหายไปอย่างช้าไม่ก็เร็ว