BY KKMTC
4 Aug 21 6:38 pm

สรุปเรื่องฉาว Activision Blizzard กับการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในองค์กร

50 Views

หากพูดถึงข่าวช็อกวงการเกมในช่วงนี้ อย่างไรก็ไม่มีทางหนีพ้นเรื่องฉาวของบริษัท Activision Blizzard ค่ายเกมดังที่เป็นเจ้าของ Overwatch กับ Call of Duty โดนฟ้องร้องว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ และการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกันเกิดขึ้นหลายครั้งในองค์กร ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับอุตสาหกรรมและแฟนเกมเป็นอย่างมาก

เนื่องจากคดีฟ้องร้อง Activision Blizzard เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน แต่มีรายงานข่าวอัปเดตมากมาย จึงทำให้ผู้อ่านหลายคนอาจสับสนหรือตามไม่ทันข่าวได้ และนี่คือบทความสรุปเรื่องฉาว Activision Blizzard กับการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในองค์กร แล้วจะเป็นอย่างไร สามารถรับชมได้เลย

จุดเริ่มต้นของเรื่องฉาว Activision Blizzard

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม หน่วยงาน Department of Fair Employment and Housing หรือ DFEH ได้มีการยื่นฟ้องร้อง Activision Blizzard ต่อศาล โดยกล่าวหาว่ามีพนักงานหญิงเป็นจำนวนมากได้โดนล่วงละเมิดทางเพศ และมีการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศชาย-หญิงไม่เท่าเทียมกันในองค์กร โดยผู้เสียหายเรียกวัฒนธรรมองค์กรดังกล่าวว่า “Frat Boy Culture”

การฟ้องร้องเกิดขึ้น หลัง DFEH ใช้เวลารวบรวมหลักฐานจากการขอข้อมูลโดยอดีตกับพนักงานปัจจุบันในเครือ Activision Blizzard เช่น ทีมพัฒนาเกม Activision และ Blizzard Entertainment เป็นเวลา 2 ปี แล้วค้นพบว่ามีพนักงานหญิงหลายคนได้โดนล่วงละเมิดทางเพศ (มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเพศชายก็โดนล่วงละเมิดทางเพศด้วย) เช่น การแตะเนื้อต้องตัว, การโดนคอมเมนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ ชวนทำให้รู้สึกไม่สบายใจ, การเลือกปฏิบัติ และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ อดีตพนักงานหญิงได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของแผนก HR (Human Resource) และ J. Allen Brack ประธาน Blizzard Entertainment ว่าได้เพิกเฉยต่อการแก้ปัญหาวัฒนธรรมองค์กรที่เต็มไปด้วยการล่วงละเมิดเพศ และมีการกดดันพนักงานว่าหากมีการเรียกร้องเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว พนักงานคนนั้นจะโดนเพ่งเล็งสั่งย้ายแผนก, มีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานน้อยลง, โดนจำกัดไม่ให้มีส่วนร่วมกับโปรเจกต์หลายโครงการ หรือร้ายแรงที่สุดคือโดนเลิกจ้าง

รวมถึงพนักงานหญิงแฉว่า ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในบริษัท Activision Blizzard เสื่อมทรามและเรื้อรังมานาน จนถึงขั้นมีกรณีพนักงานหญิงคนหนึ่ง เลือกที่จะฆ่าตัวตาย เพราะไม่สามารถทนแรงกดดันได้ไหว

นอกจากนี้ ทาง DFEH ได้มีการกล่าวถึง Alex Afrasiabi อดีตผู้กำกับด้านความคิดสร้างสรรค์ใน Blizzard ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในสังคมเกม World of Warcraft จนมี NPC ในเกมชื่อว่า “Field Marshal Afrasiabi” นั้น “ได้รับอนุญาตให้มีส่วนร่วมในการล่วงละเมิดทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง” ในปี 2020 อีกด้วย

Field Marshal Afrasiabi ใน World of Warcraft

หลังจากเอกสารยื่นฟ้องทั้งหมดได้มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้วงการอุตสาหกรรมเกม และแฟน ๆ เกมตระกูล Blizzard กับ Activision เริ่มเดือดเป็นไฟ

Activision Blizzard เริ่มแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องฉาว

หลังมีการรายงานฟ้องร้องเกิดขึ้น ฝ่าย Activision Blizzard ได้ออกมาเคลื่อนไหวโดยทันที

โฆษกของ Activision Blizzard ได้กล่าวกับสื่อ PC Gamer ว่าข้อกล่าวหาที่ DFEH ได้ยื่นฟ้อง มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงและเป็นเท็จในหลายกรณี พร้อมวิจารณ์การทำงานของ DFEH ว่าแทนที่มีการนัดพูดคุยร่วมกันระหว่างสองฝ่าย เพื่อให้มีกำหนดการสอบสวนอย่างสุจริตและราบรื่น แต่พวกเขากลับยื่นฟ้องร้องต่อศาล โดยไม่มีการสอบสวนอย่างรอบคอบ หรือตรวจสอบว่าข้อมูลที่ได้รับมาจากคู่กรณีนั้นเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน

รวมถึงโฆษกยืนยันว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทมีนโยบายให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม มีเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อจัดการกับวัฒนธรรมของบริษัทและสะท้อนความหลากหลายมากขึ้นมาโดยตลอด

ถึงอย่างนั้น Activision Blizzard ไม่สามารถมองข้ามถึงปัญญาใหญ่ครั้งนี้ได้ J. Allen Brack จึงเขียนอีเมลไปถึงพนักงานทุกคนว่าการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในองค์กรนั้น “เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้” และ Rob Kostich ประธาน Activision กล่าวว่าเรื่องฉาวทั้งหมด ทำให้เขา “รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก” ซึ่งพวกเขาในฐานะเป็นบริษัทใหญ่ ต้องสืบสวนเรื่องนี้อย่างเข้มงวด จริงจัง เหตุการณ์ต้องไม่เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

J. Allen Brack

ส่วน Mike Morhaime อดีตหัวหน้าใหญ่ของ Blizzard Entertainment ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับพนักงาน Activision Blizzard ทุกคนที่ต้องเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่ย่ำแย่ เต็มไปด้วยการล่วงละเมิดเพศและการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทุกวงการ แต่เขาในฐานะเป็นอดีตหัวหน้าก็ต้องมีหน้าที่ควบคุม ดูแลพนักงานอย่างใกล้ชิด และพนักงานทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกัน โดยเขากล่าวขอโทษและรู้สึกอับอายกับเรื่องราวฉาวครั้งนี้

แต่ Frances Townsend ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติของ Activision Blizzard และผู้เชี่ยวชาญด้านต่อต้านการก่อการร้าย กลับมีจุดยืนที่แตกต่างกัน โดยเธอเขียนจดหมายไม่ยอมรับการฟ้องร้องของ DFEH โดยอ้างว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดของ DFEH นั้นเป็นข้อมูลบิดเบี้ยว ไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่า Activision Blizzard เป็นบริษัทที่เห็นคุณค่าในความเท่าเทียมอย่างแท้จริง รวมถึงกล่าวว่าเมื่อเธอได้เข้าร่วมทีมผู้บริหารระดับสูงเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา เธอมั่นใจว่า “Activision Blizzard เป็นบริษัทที่มีคุณค่า มีการปฏิบัติด้วยความเคารพ และมอบโอกาสที่เท่าเทียมกันกับพนักงานทุกคน”

Frances Townsend

การแถลงการณ์ของ Townsend สร้างความไม่พอใจกับพนักงาน Activision Blizzard โดยมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง Joshua Taub ผู้บริหาร Activision ว่าเธอมีทัศนคติ “น่ารังเกียจ และดูถูกทุกสิ่งที่บริษัทของเราควรจะยืนหยัด” และการที่เธอกล่าวหาว่า “สิ่งที่ DFEH ยื่นฟ้องนั้นเป็นข้อมูลบิดเบี้ยว ไม่เป็นความจริง” เปรียบเสมือนเป็นการบ่งบอกว่าเธอไม่เชื่อฟังต่อผู้เสียหาย ซึ่ง Taub กล่าวว่าการแถลงการณ์ของ Townsend นั้น “ไม่ใช่การสื่อสารที่ถูกต้อง”

ผลกระทบจากเรื่องฉาว ทำให้ Activision Blizzard งานเข้าแบบไม่มีหยุดพัก

แม้บริษัท Activision Blizzard ยืนยันแล้วว่า Alex Afrasiabi ถูกไล่ออกจาก Blizzard ตั้งแต่ปี 2020 หลังค้นพบว่า “มีการประพฤติผิดในการปฏิบัติต่อพนักงานคนอื่น” ด้วยการล่วงละเมิดทางเพศในห้องโรงแรมที่มีชื่อเล่นเรียกว่า Cosby Suite” ในช่วงวันจัดอีเวนต์ BlizzCon 2013 รวมถึงลบ NPC กับไอเทมทั้งหมดที่อ้างอิงถึง Field Marshal Afrasiabi และ DFEH ได้เริ่มสอบสวน Activision Blizzard แล้ว แต่ปัญหาดังกล่าวไม่จบลงเพียงเท่านี้

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พนักงาน Activision Blizzard หลายคนได้ออกเดินประท้วงที่หน้าบริษัท และไม่เข้ามาทำงานตลอดทั้งวัน รวมถึงเปิดจดหมายผนึกเรียกร้องให้ผู้บริหารต้องทำตาม 4 ข้อเรียกร้องดังนี้

  1. ต้องลงโทษขั้นเด็ดขาดกับพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการคุกคาม การล่วงละเมิด และการเลือกปฏิบัติภายในองค์กร
  2. ปรับปรุงนโยบายบริษัทใหม่ ทั้งตอนรับสมัครงาน, สัมภาษณ์, การว่าจ้าง และเลื่อนตำแหน่ง ให้มีความสนับสนุนความหลากหลายและเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง
  3. ต้องเปิดเผยข้อมูลเงินทุน, กำไร, เรตการเลื่อนตำแหน่ง และช่วงเงินเดือนของพนักงานทุกคน ทุกเพศ และทุกเชื้อชาติ
  4. ต้องจ้างบริษัทภายนอกในการตรวจสอบแผนก HR และฝ่ายบริหาร ในการดูว่าต้องปรับปรุงโครงสร้างบริษัทอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ และการเลือกปฏิบัติในองค์กรอีกครั้ง

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ T-Mobile ได้ทำการลบโลโก้เป็นสปอนเซอร์การแข่งขัน Overwatch Leagues และ Call of Duty League โดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดอย่างชัดเจน แต่คาดว่าอาจเป็นการตัดสินใจของฝ่าย Activision Blizzard ที่ไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เสียหายไปมากกว่านี้

ระหว่างการสืบสวน ก็ยังคงมีรายงานข่าวฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นในบริษัท Activision Blizzard อย่างต่อเนื่อง โดยพนักงานคนหนึ่งเผยกับสื่อ Vice ว่าเคยมีพนักงาน IT คนหนึ่งที่ทำงานในรัฐมินนิโซตา ได้แอบติดตั้งกล้องสปายในห้องน้ำ ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวได้ยอมรับสารภาพความผิดในปี 2018 ว่าได้ทำการ “รบกวนความเป็นส่วนตัว”

นอกจากนี้ IGN ได้สัมภาษณ์กับพนักงาน Blizzard ในปัจจุบัน 7 คน และอดีตพนักงาน 1 คน ได้พูดถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในบริษัท เช่น ผู้หญิงถูกประเมินแตกต่างจากผู้ชาย และห้องให้นมบุตรไม่มีล็อก โดยพนักงานคนหนึ่งได้วิจารณ์ Blizzard ว่าบริษัทพยายามแก้ปัญหาด้วยการให้พนักงานต้อง “ปิดปากเงียบ”

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม J. Allen Brack ประธาน Blizzard ได้ประกาศลาออกจากบริษัท พร้อมส่งไม้ต่อให้ Jen Oneal กับ Mike Ybarra ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น “ผู้นำบริษัท” ร่วมกัน โดยมีผลทันทีนับตั้งแต่วันนั้น ซึ่ง Oneal และ Ybarra สัญญาว่าสิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำคือเปลี่ยนโครงสร้าง Blizzard ใหม่ให้กลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยอีกครั้ง

ในวันนี้ โฆษกของ Activision Blizzard ยืนยันว่า Jesse Meschuk รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ของ Blizzard  “ไม่ได้ทำงานอยู่ในบริษัทอีกต่อไป” แม้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสาเหตุการลาออก และระบุวันลาออกอย่างชัดเจน แต่คาดว่าสาเหตุ Jesse Meschuk ลาออกหรือโดนไล่ออกจากบริษัท เป็นเพราะล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของพนักงานอย่างร้ายแรง

รวมถึงล่าสุด ผู้ถือหุ้นยื่นฟ้อง Activision Blizzard เพราะล้มเหลวในการรายงานให้ผู้ถือหุ้นทราบว่าตัวบริษัทกำลังถูกสอบสวน รวมถึงไม่ดูแลบริษัทให้ดี จนเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องด้วยกรณีมีการล่วงละเมิดทางเพศในองค์กร จนนำไปสู่การสูญเสียรายได้ของผู้ถือหุ้น

ภาพโดย Dexerto

ตอนนี้การสืบสวนบริษัท Activision Blizzard ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีข่าวสารอัปเดตเพิ่มเติมในอีกเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top